หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่อ่านได้เรื่อยๆ ไม่ได้สนุกเท่าที่คิด และเรามีคำถามว่า “ทำไมหนังสือเล่มนี้ได้รางวัล” ซึ่งเราไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ และเราเห็นนักวิจารณ์หนังสือหลายคนชม แต่ไม่ถูกเส้นกับเราเท่าไหร่
“บางครั้งการสู้ชีวิต
คือการคิดให้ดีรอบด้าน
โดยฟังเสียงหัวใจตัวเองบ้าง
เพื่อจะได้สะสางและน่าสน
และความจริงของการต่อสู้นี้
คือสู้ดีด้วยใจอันหมายค้น
หมั่นหาความจริงอันน่าสน
คือเป็นคนย่อมเป็นคนที่ดี”
ชีวิตของลิลลี่ที่เป็นเด็กยากจนและชอบลักเล็กขโมยน้อยอยู่ตลอดเวลาที่จะมีโอกาสเอื้อให้ทำได้ วันหนึ่ง ชีวิตของลิลลี่ได้เปลี่ยนแปลงไป เมื่อคนรวยได้มาซื้อเธอกับพ่อแม่เธอในราคา ๓๐ ปอนด์ และหลังจากที่พ่อแม่ทำการซื้อขายกันเรียบร้อย พ่อกับแม่ของเธอได้หายไปจากชีวิตของลิลลี่ และทิ้งให้ลิลลี่อยู่กับคนรวยคนนี้เพียงลำพัง
จนกระทั่งวันหนึ่ง ลิลลี่ได้มาเจอกับแม่และน้องชายของเธออีกครั้ง ลิลลี่จึงตั้งใจหนีจากคนรวยมาเพื่อดูแลแม่ของเธอให้ดีที่สุด แต่คนรวยคนนั้นอยากมาเอาตัวเธอไปจากแม่และน้องชายของเธอ ซึ่งวันหนึ่ง เธอต้องกลับไปอยู่กับคนรวยนั้น เพราะเหตุผลบางอย่าง
และสุดท้ายเมื่อเเม่และคนรวยคนนั้นตาย เธอตัดสินใจทิ้งสมบัติทั้งหมดของคนรวยนั้นที่มอบให้แก่เธอ โดยเธอได้หายตัวไปจากเมืองนี้ตลอดกาล จนเหลือเพียงแค่เรื่องเล่าของเธอจากปากต่อปากสืบไป
“ลิลลี่ตัดสินใจเลือกทางนี้
คือทางที่เป็นทางของเธอไฉน
เธอไม่ยอมให้ใครมาบังคับได้
เพราะทางที่ไปคือทางที่เธอคิด
เธอไม่ยอมให้คนรวยมาเป็นเจ้าชีวิต
เพราะเธอคิดว่าเธอคือเจ้าชีวิต
เธอขีดเขียนชีวิด้วยมืออันนิด
และด้วยสมองกับจิตของเธอพลัน
เธอลาออกไปทั้งชีวิต
ไม่มีใครริดรอนอิสรภาพนั้น
เพราะเธอตัดสินใจโดยเร็ววัน
ที่จะทิ้งสิ่งนั้นเพื่อคืนไป”
หนังสือเล่มนี้เราว่า ไม่เหมาะกับวรรณกรรมเยาวชนเท่าไหร่ เพราะเด็กที่ขาดวุฒิภาวะดู แล้วอาจจะนำไปทำตาม โดยการเป็นลักเล็กขโมยน้อย ดังนั้น เราไม่ค่อยชอบหนังสือเล่มนี้สักเท่าไหร่ และเล่มนี้ไม่ถูกจริตค่ะ
หากลูกน้อยของเพื่อนๆกำลังอ่านดู โปรดอธิบายให้เด็กๆฟังด้วยค่ะว่า “การลักเล็กขโมยน้อย ไม่ได้ทำให้ชีวิตไปอยู่กับคนรวย แต่จะทำให้ชีวิตไปอยู่ในคุกได้ค่ะ” ดังนั้น เราคิดว่า เล่มนี้มีเนื้อหาที่ส่อไปในทางที่ไม่ดีเท่าไหร่ แต่เล่มนี้ไม่ได้แย่ไปหมด เพราะจะมีการสอนถึงความกตัญญูกตเวทีของลิลลี่ที่มีต่อแม่และคนรวยคนนั้นด้วยค่ะ
LOOK A BREATHE
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in