“อิคิไกคือสิ่งนับว่าแสน
แม้ว่าแม้นจะได้ดีได้เมื่อเราทำ
หากใจเราไม่ลงมือกำ
และทำสิ่งนั้นให้เกิดจริง
อิคิไกก็ย่อมไม่มีประโยชน์
และมีโทษเกิดขึ้นนับสองสิ่ง
คือโทษร้ายว่าร้ายนั้นล่ะนิ่ง
หรือโทษสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
ชลธารเคลื่อนที่อย่างช้า
สกุณาบินมากระทบนทีไฉน
ชีวิตของคนเราย่อมเปลี่ยนไป
เมื่อได้ค่อยฝึกปฏิบัติให้เป็นจริง
โดยการเรียนรู้อิคิไกนั้น
เปรียบดั่งจันทร์ส่องแสงกระทบตลิ่ง
หรือดวงดาวหนานับว่าแสนสิ่ง
แม้นเป็นจริงเมื่อลงมือทำไป
โดยต้องค่อยๆฝึกให้เป็นนิจ
สุดประสิทธิผลนั้นเมื่อทำได้
เรียนรู้แล้วจะพบอิคิไก
ว่าไม่ไกลเกินตัวชัวร์แน่แท้ใด
หากชีวิตเดินทางนับว่าแสน
และหากแม้นลำบากมากเพียงไฉน
จงตั้งใจที่จะอยู่กับปัจจุบันไซร้
และได้ใช้อดีตนั้นเพื่อแก้ไขเอย”
เราเฉยๆกับเล่มนี้ เพราะเรารู้สึกว่าคุณเคนเขียนอวยอิคิไกมากไปหน่อยว่า คนญี่ปุ่นคิดได้อย่างนู่น ปรับใช้ได้ขนาดนี้ เราทำงานกับบริษัทญี่ปุ่นมา และเราไม่ได้เห็นนะว่า เขาจะนำอิคิไกมาปรับได้ถึงขนาดนี้
อิคิไก อธิบายถึงความรื่นรมย์และความหมายของชีวิต โดย “อิคิแปลว่ามีชีวิต” และ “ไกแปลว่าเหตุผล” โดยแบ่งออกเป็นเสาหลักห้าประการ ได้แก่ การเริ่มต้นเล็กๆที่เรียกว่าดีและมีคุณค่า การปลดปล่อยตัวเองจากความหม่นหมองทุกประการ ความสอดคล้องและยั่งยืนกับความคิดและการกระทำ ความสุขกับสิ่งเล็กๆที่อยู่รอบตัวเรา และการอยู่ตรงนี้ ตอนนี้ในปัจจุบัน โดยใช้อดีตเป็นเครื่องมือในการแก้ไข และใช้ปัจจุบันเพื่อสร้างอนาคตที่ดี เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ล้วนประกอบกันเป็นใจที่มีสุข นั้นก็คืออิคิไก
เราชอบความคิดของหนังสือเล่มนี้อยู่หนึ่งอย่าง คือ หนังสือเล่มนี้จะเน้นถึงการเผชิญหน้ากับความเป็นจริงและสิ่งที่เรากลัวภายในจิตใจด้วยใจที่มั่นคง และตั้งใจเรียนรู้ไปกับสิ่งเหล่านั้นไปด้วยกัน ด้วยใจที่เป็นกลาง
LOOK A BREATHE
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in