“แก่นแท้ของพระพุทธศาสนา
คือศาสตร์ว่าแก้โรคทางวิญญาณ
และแก้ไขด้วยหยั่งรู้ตามกาล
และวันวานคืออดีตปัจจุบันรู้
นั้นคือการกำจัดความยึดมั่น
ถือมั่นนั้นว่าตัวกูของกู
กำจัดตัวตนให้หมดไร้ทางสู้
กิเลสรู้ก็ค่อยๆหมดไป
ธรรมะอยู่ที่จิตดวงนั้น
คือรู้ทันถึงโลภโกรธหลงได้
และค่อยๆรู้จนว่างไป
และวางได้ถึงซึ่งมีตัวตนไฉน
ความยึดมั่นถือมั่นนั้นแหละรู้
คือเมื่อสู้ก็สู้ไร้กิเลสหมาย
รู้ทั้งรู้ว่ากิเลสนำพาไป
ให้พบได้กับทางไร้ว่างเอย
ทางนั้นคือทางแห่งความยึดมั่น
ถือมั่นนั้นว่าคือตัวตนเคย
ยอมรับว่าพ่ายแพ้กิเลสเลย
ไม่เอื้อนเอ่ยสิ่งใดฉะนั้นได้
แต่หากว่างจากตัวตนนั้น
ก็ไร้ซึ่งอหังการจนหมดไป
และได้ความรู้จริงใจไฉน
คือจริงได้มรรคผลนิพพานเอย”
หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ได้รางวัลชนะเลิศจากยูเนสโก เพราะเป็นหนังสือที่สอนให้ชาวพุทธทุกคนรู้ถึงแก่นของพระพุทธศาสนาที่ทุกคนควรเข้าถึง ก็คล้ายกับคนพุทธเข้าถึงพระเจ้า ดังนั้น คนพุทธเข้าถึงแก่นพระพุทธศาสนา
แก่นของพระพุทธศาสนาคือหลักสำคัญในการกำจัดความยึดมั่นถือมั่นว่าตัวตนหรือของตนนี้เสีย หรือยึดมั่นถือมั่นว่านั้นสุขหรือทุกข์ด้วยเช่นกัน โดยการฝึกฝนจิตใจให้กำจัดสิ่งเหล่านี้ได้ ดังนั้น หากจิตใจเห็นโทษของความยึดมั่นถือมั่นเมื่อใด จิตก็จะคลายจากความยึดมั่นถือมั่นเมื่อนั้น แต่หากเราไม่เห็นโทษนั้น ย่อมหมายความว่า จิตก็ยังไม่คลายจากสิ่งนั้น ดังนั้น เมื่อใดเห็นความว่าง เมื่อนั้นจึงจะพอใจในนิพพาน
ดั่งคำท่านพุทธทาสกล่าวว่า “นิพพานเป็นของให้เปล่าโดยไม่ต้องเสียสตางค์ นั้นเป็นเพียงการเสียสละความยึดมั่นถือว่าตัวตนออกไปเสีย เป็นความสงบเย็นสูงสุดแห่งชีวิต ที่มีความเต็มสูงสุดแห่งความมนุษย์ที่นี้และเดี๋ยวนี้”
LOOK A BREATHE
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in