“ความจริงของสี่งนี้
คืออะไรที่น่าค้นหา
ว่าสิ่งที่มากด้วยตัญหา
เฉพาะกามาประจำใจ
และหากมีสุขมาก
ก็ต้องพรากสุขนั้นไป
สุดท้ายพบทุกข์ได้
จากความไม่พอดี
ค้นหาทางสว่าง
จนพบทางอันสดศรี
และเดินตามทางดี
หากไม่มีลงอบาย
ระวังเอาไว้ให้ดี
เพราะชีวีจะหลงหลาย
หลงไปให้มากมาย
และกลายเป็นไม่พบสุข.
หนังสือเล่มนี้อ่านแล้วก็สนุกอีกเรื่องหนึ่งค่ะ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษที่สละสลวยเหมือนกัน และทำให้เราอ่านได้เพลินๆ โดยที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก และทำให้เราเห็นถึงชีวิตของคนหนึ่งที่พบทั้งดีและสุข จนพบหนทางหลุดพ้นทุกข์ด้วยตัวเอง
สิทธารถะและโกวินทะเป็นเพื่อนสนิทกัน โดยที่ทั้งสองต้องการค้นหาความสุขในชีวิต จนกระทั่งวันหนึ่ง วันที่ทั้งสองได้ยินว่า พระพุทธเจ้าถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว ทั้งสองได้เข้าไปพบพระพุทธเจ้า และพระพุทธเจ้าท่านได้เทศน์ให้ฟัง โดยที่โกวินทะตัดสินใจบวชกับพระพุทธเจ้า ส่วนสิทธารถะนั้นตัดสินใจขอพึ่งพระพุทธเจ้าและถึงพระรัตรตยตลอดชีวิต
สิทธารถะตัดสินใจไปค้นหาความหมายของชีวิตด้วยตนเอง โดยที่วันหนึ่ง เขาได้ไปพบกับหญิงงามเมืองชื่อ กมลา และเขาเกิดหลงรักหญิงผู้นี้ จนกระทั่ง เขาได้เรียนรู้ที่จะเป็นนักธุรกิจที่ดี และเขาทำสำเร็จ ทุกคนรักเขา แต่แล้ววันหนึ่ง ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป เมื่อเขาติดเหล้า ติดหญิง และติดพนัน จนชีวิตของเขาลงไปในอบายอย่างหาที่สุด
วันหนึ่ง เขาคิดขึ้นได้ว่า ชีวิตของเขาตกอบายเพราะว่า ตัวเขาเอง เขาจึงตัดสินใจกระโดดน้ำตาย แต่เขาไม่ตาย และเขาเจอคนที่เเจวเรือส่งคนไปมา เขาตัดสินใจที่จะทำอาชีพแจวเรือ เพราะเขาค้นพบความสุขในชีวิตของเขา
วันเวลาผ่านไป พระพุทธเจ้าได้ปรินิพพาน และเขาได้ทำหน้าที่แจวเรือส่งคนไปกราบพระพุทธเจ้า เขาได้เจอกับโกวินทะ ซึ่งเมื่อโกวินทะจดจำเขาได้ ก็พบว่า ความสุขนั้นอยู่ข้างหน้านี่เอง เพราะโกวินทะ ได้ตึงมากเกินไป จนยังไม่สามารถบรรลุพระอรหันต์ได้นั้นเอง ผิดกับเพื่อนเขาที่หมดทั้งกามและตึงในตัวตนมากเกินไป จนทำให้เพื่อนพบทางสุขแห่งชีวิต
“Om is the bow,
the arrow is the soul,
Brahman is the arrow's goal
At which one aims unfinchingly.”
โอมคือคันธนู
ลูกศรคือจิตวิญญาณ
พรหมันคือเป้าหมายของลูกศร
นั้นคือจุดมุ่งหมายเพียงหนึ่งเดียวที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ความเชื่อของฮินดูจะเชื่อเรื่องพรหมัน และอาตมัน แต่ความเชื่อของพระพุทธศาสนา จะเชื่อเรื่องอนัตตา ซึ่งเมื่อทั้งสิทธารถะและโกวินทะได้ศึกษา ก็เชื่อมั่นในคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่ นี่คือคำถามที่ทิ้งไว้ให้ผู้อ่านอ่านและหาคำตอบด้วยตัวเอง
“เพราะการไร้ซึ่งการยึดติดทั้งปวง
นั้นย่อมนำพาความสุขมาให้
เฉกเช่นเดียวกับที่สิทธารถะได้ตื่นเเล้ว”
หนังสือเล่มนี้เหมาะกับทุกคนที่ต้องการศึกษาชีวิตของทุกคนอย่างแท้จริงว่า ถ้าหากเราทำชีวิตให้แย่ ลงไปในอบาย ชีวิตของเราก็จะแย่ไปเรื่อยๆ จนไม่มีทางพบสุข แต่ถ้าหากเราทำชีวิตของเราให้อยู่โดยสุจริตธรรม และไม่หล่นในอบาย ชีวิตของเราก็จะพบสุขในไม่ช้าเช่นกัน และเราขอบอกว่า อ่านไปก็ครุ่นคิดตามไป และตื่นมาพร้อมกับทางสว่างที่พบแล้วเช่นกันว่า ความหมายของชีวิตของเรานั้นคืออะไร
“ความสุขอยู่ตรงหน้านั้น
และเกิดพลันเมื่อเราพบ
และทุกอย่างที่ต้องจบ
คือภพชาติเหล่านั้นเอง”
LOOK A BREATHE
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in