“ไตรภูมินี้กล่าวถึงภูมิสาม
ที่ว่าความถึงสามภพภูมินี้
แต่ความจริงมีอีกภูมิหนึ่งที่
หากกล่าวดีคือโลกุตตรภูมิ
ภูมิที่หลุดพ้นจากภูมิทั้งสามนี้
ภูมิที่มีดีกว่าทั้งสามภูมิ
ภูมิที่พบว่าควรจะน่าบูม
เพราะภพภูมินี้นั้นแหละดี
คือการหลุดพ้นจากสังสารวัฏ
คือหลุดพ้นวัฏจักรอันสงสารฉะนี้
หลุดแล้วค้นว่านั้นแหละดี
หลุดครั้งนี้คือหลุดพ้นนิจนิรันดร์
เพราะถ้ายังเวียนว่ายในภูมิสาม
เวียนแล้วลามพบการเกิดอีกนั้น
เกิดแล้วดับเวียนว่ายตามกัน
ภูมิสี่นั้นย่อมพบทางที่ดี”
หนังสือเล่มนี้ ท่านป.อ.ปยุตฺโต ได้มีการเขียนได้อย่างน่าสนใจมาก เพราะท่านได้นำเรื่องไตรภูมิของหลากหลายเล่มมาอธิบายให้คนอ่านได้เข้าใจมากขึ้น โดยที่ท่านลงรายละเอียด รวมถึงเปรียบเทียบให้ฟัง และพาทุกคนไปรู้จักและเข้าใจเกี่ยวกับไตรภูมิมากขึ้น
ท่านป.อ.ปยุตฺโตได้อธิบายให้พวกเราเห็นว่า หลายคนมักจะนำไตรภูมิพระร่วงของพญาลิไทมาทำให้ดูน่าสนใจในวงกว้าง โดยลืมเสนอไปถึงอีกภูมิหนึ่งที่เป็นภูมิสำคัญที่พระพุทธเจ้าต้องการจะสื่อมากกว่า นั้นก็คือ โลกุตรฺภูมิ เพราะสามภพภูมิที่พญาลิไทกล่าวถึงนั้นหมายถึงโลกิยฺภูมิ เพราะทั้งสามภพภูมินี้ยังไม่ได้นำพาให้คนหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดอย่างแท้จริง แต่โลกุตรฺภูมิต่างหากที่เป็นภูมิที่ทำให้หลุดพ้นจากสังสารวัฏและวัฏสงสารได้อย่างแท้จริง ซึ่งท่านบอกว่า ท่านทรงเน้นถึงภูมิที่สี่นี้ เพราะหากคนเราศึกษาด้วยปัญญาแล้วจะพบว่า การติดในภพภูมิทั้งสามย่อมไม่ใช่ทางหลุดพ้นของพระพุทธเจ้า และพระสาวกของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์แต่ด้วยประการใด
หนังสือเล่มนี้จึงเเป็นหนังสือที่ทุกคนควรอ่านเพื่อศึกษาถึงทางแห่งภพภูมิที่เป็นภูมิแห่งการหลุดพ้นอย่างแท้จริง เพราะหากแม้นเราได้ไปในทางนั้นแล้ว เราจะพบว่า นิพพานคืออะไร แต่หากเรายังไม่หลุดพ้น เราต้องหมั่นทำความดี เพื่อให้ชีวิตของเราไปยังภพภูมิที่ดี และอย่าหลงทางหรือประมาทในชีวิตก่อนความตายนี้เลย
LOOK A BREATHE
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in