เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
How to liveJame Curser
นักผจญเมือง
  • - พูดกันตรงๆตามแนวคนบ้านนอกเลยนะครับ แรงบันดาลใจที่ทำให้อยากมานั่งเล่าประสบการณ์แนวคิดตอน ตี 1 ตี 2 ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ที่เจอเอง หรือ ที่ได้รับมาจากคนอื่นๆรอบตัว มันเป็นแรงบันดาลใจที่ฟังเพราะและติดหูผมมากเลยล่ะครับ
     
    "นักผจญเมือง - ตูน Bodyslam l ไมค์ ภิรมย์พร l ไผ่ พงศธร l ต่าย อรทัย"


    - ผมเป็นคนที่ชื่นชอบเสียงดนตรีทุกประเภทครับ ไม่ใช่แค่ชอบฟังเพลงที่ต้องมีเนื้อร้อง เคยมีเพลงที่โหลดมาเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ประมาณเกือบ 3,000 เพลง บางเพลงก็หาฟังง่าย เพลงใหม่โหลดง่าย แต่บางเพลงก็หายากแสนยาก ได้ยินตามวิทยุเราก็ว่าเพราะดี แต่เราจะไปหาจากไหนล่ะ มีเพลงจากการ์ตูนเรื่อง treasure planet ชื่อว่า Always know where you are ผมทุ่มเวลาไปสองปีกว่า สุดท้ายก็หากันจนเจอ 
    - เอาล่ะเดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องเพลงของผมไปซะหมด อันที่จริงแล้วผมไม่ถึงกับอยากเขียนอะไรมากมายหรอกครับ ประเด็นหลักมีเพียงแค่อยากให้คนบ้านนอกคนอื่นๆ ได้รับรู้ว่าคุณไม่ได้ตัวคนเดียว ถึงแม้ที่ๆคุณอยู่หันซ้ายหันขวาจะไม่เจอใคร งั้นคุณก็หันมาทางนี้สิครับ หันไปดูคนบ้านนอกที่เขาทำงานข้างๆคุณนั่งคิดถึงพ่อแม่และครอบครัวที่ต่างจังหวัดใกล้ๆคุณ คำว่าตัวคนเดียวนั้นให้พึ่งระลึกเอาไว้ว่ามันเป็นคำต้องห้ามพูด ห้ามนึก และห้ามฟังจากคนอื่นด้วย

    ***เพราะฉนั้นผมจะหยุดการใช้คำว่า "ตัวคนเดียว" แล้วนะครับ*** 

    - เพื่อที่เราจะได้ฝึกๆพร้อมๆกัน ไม่ต้องฝึกคนเดียวให้เปล่าเปลี่ยวใจ ถึงอย่างไรก็ตามผมก็ไม่อยากให้เข้าใจว่าคำนี้เป็นคำด้านลบหรอกครับ เพียงแค่มันทำให้เราเหงาได้ในบางเวลา ไม่ได้แปลว่าเวลาอื่นๆมันจะเป็นแรงผลักดันไม่ได้นะครับ
    - ถ้าจะเรียกบ้านๆหน่อยก็คือ "มุมมอง" มันเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆนะครับ ถ้าจะเอาภาษาคนกรุงก็คงจะเรียกว่า "ทัศนคติ" คนเราส่วนใหญ่ไม่ว่าจะบ้านนอก นอกเมือง ในเมือง เมืองนอก ล้วนมีมุมมองและทัศนคติที่แตกต่างกันครับ ขึ้นกับการอบรมเลี้ยงดู ครอบครัว เพื่อน ครู และปัจจัยหลายๆอย่างในสภาพแวดล้อม ว่าจะหล่อหลอมคนหนึ่งคนให้โตมา แล้วมีความคิดความอ่านอย่างไร 

    Example

    - คนสองคนยกปูน ฉาบปูน ทำงานเหมือนกัน โดนเจ้านายตำหนิ โดนเจ้านายด่าเหมือนกัน คนแรกพ่อแม่สอนดี คิดในแง่ดี ก็รู้สึกแค่ว่า เราทำไม่ดีเอง เจ้านายเตือนจะได้ปรับปรุง เราจะได้เก่งๆ เป็นที่ยอมรับและได้ดีในวันหน้า ไม่ต้องมาทนลำบากตรากตรำเหมือนตอนนี้
    - คนที่สองเจอแต่สิ่งที่ไม่ดี ได้รับแต่ความคิดที่ติดลบ ก็คิดท้อถอยไปว่าเจ้านายไม่เห็นใจ เรามันคนจน เรามันแบบนั้น เรามันแบบนี้ สุดท้ายเขาก็จะอยู่กับที่ หรือยิ่งโดนกดให้ต่ำลงไปในสังคม

    แต่...จะโทษว่าสิ่งที่เกิดขึั้นนี้ มันเป็นความผิดของพนักงานคนที่สองทั้งหมดได้เหรอครับ 
    มันอาจจะผิดที่อื่นรึเปล่า?
    .
    .
    พ่อแม่ที่สั่งสอนเขามา เป็นตัวอย่างให้เห็น เป็นคนปลูกฝังความคิดแง่ลบให้เขารึเปล่า?
    เพื่อนที่ไม่คอยตักเตือน ให้คำแนะนำที่แย่ นำพากันไปสู่สิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายรึเปล่า?
    คนรักที่ไม่คอยช่วยเหลือ ที่ไม่ให้คำปรึกษาว่าจะปรับปรุงให้ดีขึ้นได้อย่างไรรึเปล่า?
    สังคมที่มีแต่การแบ่งแยก ที่สร้างภาพจำว่าบ้านนอก กับ คนกรุง ต่างกันรึเปล่า?

    - จริงๆแล้วไม่มีใครผิดหรอกครับ เพราะว่าถ้าจะเอาคนผิดจริงๆ ก็ผิดกันหมดนั่นแหละ เพราะฉนั้นเราก็ลักไก่ไปแบบไทยสไตล์ว่าไม่มีใครผิดแล้วกันนะครับ แต่ถ้าเราจะบอกว่าเราไม่ผิดได้ เราคงต้องทำอะไรไถ่โทษกันบ้างแล้วล่ะครับ จะมาปล่อยความผิดลอยนวลไม่ได้หรอกน้า ส่วนใครจะเลือกไถ่โทษแบบไหน ก็เลือกเอาแล้วกันนะครับ ว่าตัวคุณจะทำอะไรได้บ้าง จะพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง เพื่อให้ลูกหลานของเราได้พบการเปลี่ยนแปลง หรืออย่างน้อยก็ไม่มีใครเป็นลูกคนเมือง หรือลูกคนบ้านนอกอีกต่อไป
    - การปรับมุมมองของคุณซะใหม่ ไม่มีคนบ้านนอกอีกแล้ว ไม่มีคนเมืองอีกแล้ว ไม่มีจน ไม่มีรวย มองสิ่งต่างๆบนหลักเหตุผล และเป็นไปตามความเป็นจริง อาจทำให้ชีวิตประจำวันของคุณผ่านไปได้ง่ายขึ้น และมีอารมณ์บูดเบี้ยวใส่กันน้อยลง และถ้าคุณมีความรู้สึกว่าตัวเองก็มีส่วนผิดต่อสิ่งต่างๆ ลองนำมุมมองดีๆเจ๋งๆของคุณไปบอกต่อคนอื่นๆ ตักเตือนคนอื่นๆ ว่าแนวคิดแบบนี้มันน่าจะดีกว่านะ หรือคุณอาจจะไถ่โทษด้วยการปลอบใจใครสักคนเพื่อให้กำลังใจเขา วิธีใดก็ได้ครับเพราะไม่ว่าจะทำอะไร มันถือว่าคุณก็เปลี่ยนแปลงสังคม เปลี่ยนแปลงตัวเอง และคนอื่นเหมือนกันครับ 

    เพราะการเปลี่ยนแปลงของคุณไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ  ไม่ใช่แค่จุดๆหนึ่งของสังคมเท่านั้น   มันอาจเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมากและจะขาดไม่ได้ในอนาคตถึงจะมีคนที่ค้านผมว่ามันแค่จุดเล็กๆเท่านั้นแต่อย่าลืมสิครับเหล่านักผจญเมือง คุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวครับ :)
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in