หนึ่งปีต่อมาอาการทรุดจากการยกของหนัก แม้มีสายรัดหลังคอยพยุงแล้วก็ตาม เลยเข้าสเตปต่อไปคือการรักษาแบบแพทย์ทางเลือก
เป็นครั้งแรกที่ได้รู้จักกับการฝังเข็ม
และคนที่รักษาคือคนที่กลัวเข็มชิบหายวายปวงมากอย่างฉันคนนี้
เหมือนเป็นการช่วยให้คลายเส้นที่ตึงได้เท่านั้น ไม่ได้หายสนิทเหมือนการรักษาแบบปกติเหมือนรอบแรก นับวันอาการยิ่งหนักเพราะยังต้องเจอกิจกรรมเสี่ยงๆอย่างการยกของอย่างต่อเนื่อง จนเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาฉันอาการปวดหลังหนักจนกลับมานอนแบบหลังไม่ติดเตียงเหมือนครั้งแรกที่เป็นไม่มีผิด นอกจากนี้ฉันยังเดินทางไปสอบอย่างต่อเนื่องแทบไม่ได้นอนยืดเส้นยืดสายจริงๆจังๆเลย
เลยนำไปสู่การไปหาหมอแผนกออโธแบบจริงๆจังๆซักที
เมื่อมาถึงโรงพยาบาล พอหมอตรวจเช็คกดบริเวณที่ปวด หมอแทบยังไม่ได้ออกแรง ฉันคือสะดุ้งเหมือนโดนกดตรงจุด หลังปวดโคตรๆ ปวดแบบช้ำๆ และตึงๆเช่นเลย พร้อมกับผลเอ็กซ์เรย์และผลการวินิจฉัยจากแพทย์เฉพาะทางได้ข้อสรุปว่า
ฉันเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และภาพเอ็กซ์เรย์ตรงหน้าเห็นกระดูกตัวเองบริเวณช่วงเอวบิดเข้าใกล้กล้ามเนื้อและเส้นประสาท ยิ่งรู้สึกกลัวว่าจะถึงขั้นต้องผ่าตัดมั้ย
โชคดีที่ยังไม่ถึงขั้นนั้น
ฉันยังคงปลอดภัยดี เพราะยังไม่ส่งผลกระทบร้ายแรงจนใช้ชีวิตประจำวันไม่ได้ และกล้ามเนื้อไม่ได้หนักถึงอ่อนแรง
เลยได้เซตยารักษาครบวงจรทั้งแก้ปวด คลายเส้น และวิตามิน พร้อมโดนใบเตือนว่าเลี่ยงการก้มและยกของ มีผลบังคับใช้นับแต่วันนี้เป็นต้นไป
ดังนั้น ฉันควรดูแลตัวเองได้แล้ว
เพราะขนาดวัยยังไม่เข้าเลข3ยังขนาดนี้
แล้วถ้าเข้าสู่วัยนั้นจริงๆ จะเจอกับโรคอะไรอีกบ้าง
โปรดอย่าขายประกันสุขภาพแก่สาวที่ยังไม่มีงานประจำ
ไว้ได้งาน เราคงต้องทำเสียที
เพราะไม่รู้หลังจากนี้ ฉันจะต้องเจอกับโรคอะไร ยังไม่รวมโรคประจำตัว โรคที่ทางพันธุกรรมเป็นอย่างความดัน รวมถึงโรคซึมเศร้าที่กำลังรักษาอยู่
อายุน้อยร้อยโรค ไม่น่าดีใจกับฉายานี้ แต่เป็นเรื่องจริงที่ร่างกายได้พิสูจน์แล้ว หวังว่าอายุเยอะจะไม่พันโรคก็พอ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in