เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บันทีกช่วงขณะก่อนเลือนลางAkifallingtone
วัยย่างใกล้เลข3 มีสุขภาพใกล้ติดลบเป็นของตัวเอง
  • 23/9/24


    หลังจากโพสล่าสุด ฉันก็หายไปนานมากจนจำไม่ได้ว่าต้องเขียนบันทึกในพื้นที่แห่งนี้ หากเป็นสมัยที่เขียนในแพลตฟอร์ม storylog ฉันคงกล้าเขียนในทุกครั้งที่พอเจอเรื่องมา พอมาเป็นบ้านหลังใหม่ และไม่ได้มีแอปพลิเคชั่น ทำให้ไม่ได้เข้าแล้วเขียนถี่เหมือนเมื่อก่อน


    พอไม่ได้เขียนนาน เรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นและอยากเล่าก็ได้เลือนหายไปตามช่วงเวลา โดยเฉพาะขณะที่หลับ กลับกันปัญหาที่เจอในโซเชียลกับการเขียนนิยาย เรื่องสั้น หรืออะไรใดๆ ที่เกี่ยวกับกระบวนการคิด ตกตะกอน จนกระทั่งสู่สาธารณะให้ทุกคนได้อ่าน 

    ฉันยอมรับว่าฉันยังคงมือใหม่สำหรับวงการนี้ แม้เคยเขียนส่งประกวดแล้วถุกปัดตก เคยเขียนแพลตฟอร์มstorylogถูกเลือกเป็นstaff pickเป็นบางโพส หรือเคยได้เข้าค่ายนักเขียนของหอสมุดแห่งหนึ่งที่อยู่ชั้น8ในห้างย่านโซนสยามก็เถอะ แต่ที่กล้ายอมรับว่ามือใหม่เพราะฉันหายจากการเขียนมานานหลายปี จนสกิลการเขียน รวมถึงคลังศัพท์ที่เคยฝึก เคยเขียนได้หายไปกับการอ่านหนังสือเตรียมสอบหางานประจำ งานอดิเรกนี้เลยแทบไม่แตะอีกเลย 

    แต่ฉันเลือกที่กลับมา เพียงแค่อยากหาพื้นที่ซักที เผื่อมีเวลาอยากกลับไปอ่าน อย่างน้อยขอเป็นตัวเองเป็นนักอ่านที่อ่านงานเขียนของตัวเอง 

    ว่าครั้งหนึ่ง ฉันเคยเขียนอะไรลงไป แล้วฉันในตอนนั้นทำไมช่างกล้าอะไรเช่นนี้


    การกลับมาในรอบหลายเดือนนี้ ฉันมีเรื่องอยากเขียนให้อ่าน มันคือเรื่องสุขภาพของฉันเอง
  • ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ฉันถูกแมวกัดจนได้ฉีดเซตยาคอมโบพิษสุนัขบ้าและบาดทะยัก

    เพียงเพราะฉันไปห้ามแมวที่กำลังตีกันอย่างรุนแรง หากเป็นการห้ามเพราะมันคือแมวแปลกหน้า นั่นคือการกระทำที่หาเรื่องเจ็บตัวที่สุด โดยหารู้ไม่ว่า การห้ามแมวที่เราเลี้ยงทั้งสองตัว และเราก็รักมันมากทั้งคู่ ไม่ต่างจากการห้ามในแบบแรกเลยซักนิด

    ความสงสารเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บชัดๆ


    นั่นจึงเป็นการเข้าโรงพยาบาลแบบจริงจังในรอบเกือบ3ปีหลังจากไปหาหมอเพราะเป็นงูสวัดระยะยังไม่ปวดเจ็บประสาท



    และวันนี้ ฉันไปโรงพยาบาลอีกครั้งแต่คนละอาการนึง

    ฉันปวดหลังมาก


    ย้อนกลับไปอีกเมื่อ3ปีก่อน สมัยยังทำงานเป็นลูกจ้างเหมาบริการตามโครงการของมหาวิทยาลัย ฉันประสบความหายนะทางหลังจากการยกลังผลไม้หนักๆจนหลังกรอบแกรบ นั่นทำให้สาววัยใกล้เบญจเพสได้เข้าสู่การเป็นวัยรุ่นกายภาพบำบัดอย่างเป็นทางการ 

    ฉันได้รับวินิจฉัยว่าเป็นหมองรองกระดูกทับเส้น 

    สำหรับหลายๆคน การเป็นโรคอย่างว่าไม่ใช่แค่กาายกของผิดท่าเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงพฤติกรรมการนั่งไม่ขยับ นิ่งราวกับอาร์ตทอยไม่ใช่เวอร์ชั่นซีเครท

    ตอนนั้นรักษาครบคอร์ส ทั้งกายภาพทุกรูปแบบ กินยา รวมถึงฉีดยาเพื่อให้หายขาด หลังจากนั้นฉันก็หายภายใน6เดือนจากการปฏิบัติอย่สงเคร่งครัด

    อ่านมาถึงตรงนี้มันควรจะตัดจบเลยใช่มั้ย
    ผิด นั่นแค่ปฐมบทของการปวดหลังเท่านั้น
  • หนึ่งปีต่อมาอาการทรุดจากการยกของหนัก แม้มีสายรัดหลังคอยพยุงแล้วก็ตาม เลยเข้าสเตปต่อไปคือการรักษาแบบแพทย์ทางเลือก 

    เป็นครั้งแรกที่ได้รู้จักกับการฝังเข็ม
    และคนที่รักษาคือคนที่กลัวเข็มชิบหายวายปวงมากอย่างฉันคนนี้


    เหมือนเป็นการช่วยให้คลายเส้นที่ตึงได้เท่านั้น ไม่ได้หายสนิทเหมือนการรักษาแบบปกติเหมือนรอบแรก นับวันอาการยิ่งหนักเพราะยังต้องเจอกิจกรรมเสี่ยงๆอย่างการยกของอย่างต่อเนื่อง จนเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาฉันอาการปวดหลังหนักจนกลับมานอนแบบหลังไม่ติดเตียงเหมือนครั้งแรกที่เป็นไม่มีผิด  นอกจากนี้ฉันยังเดินทางไปสอบอย่างต่อเนื่องแทบไม่ได้นอนยืดเส้นยืดสายจริงๆจังๆเลย

    เลยนำไปสู่การไปหาหมอแผนกออโธแบบจริงๆจังๆซักที

    เมื่อมาถึงโรงพยาบาล พอหมอตรวจเช็คกดบริเวณที่ปวด หมอแทบยังไม่ได้ออกแรง ฉันคือสะดุ้งเหมือนโดนกดตรงจุด หลังปวดโคตรๆ ปวดแบบช้ำๆ และตึงๆเช่นเลย พร้อมกับผลเอ็กซ์เรย์และผลการวินิจฉัยจากแพทย์เฉพาะทางได้ข้อสรุปว่า


    ฉันเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และภาพเอ็กซ์เรย์ตรงหน้าเห็นกระดูกตัวเองบริเวณช่วงเอวบิดเข้าใกล้กล้ามเนื้อและเส้นประสาท ยิ่งรู้สึกกลัวว่าจะถึงขั้นต้องผ่าตัดมั้ย


    โชคดีที่ยังไม่ถึงขั้นนั้น 
    ฉันยังคงปลอดภัยดี เพราะยังไม่ส่งผลกระทบร้ายแรงจนใช้ชีวิตประจำวันไม่ได้ และกล้ามเนื้อไม่ได้หนักถึงอ่อนแรง

    เลยได้เซตยารักษาครบวงจรทั้งแก้ปวด คลายเส้น และวิตามิน พร้อมโดนใบเตือนว่าเลี่ยงการก้มและยกของ มีผลบังคับใช้นับแต่วันนี้เป็นต้นไป

    ดังนั้น ฉันควรดูแลตัวเองได้แล้ว
    เพราะขนาดวัยยังไม่เข้าเลข3ยังขนาดนี้

    แล้วถ้าเข้าสู่วัยนั้นจริงๆ จะเจอกับโรคอะไรอีกบ้าง


    โปรดอย่าขายประกันสุขภาพแก่สาวที่ยังไม่มีงานประจำ
    ไว้ได้งาน เราคงต้องทำเสียที
    เพราะไม่รู้หลังจากนี้ ฉันจะต้องเจอกับโรคอะไร ยังไม่รวมโรคประจำตัว โรคที่ทางพันธุกรรมเป็นอย่างความดัน รวมถึงโรคซึมเศร้าที่กำลังรักษาอยู่

    อายุน้อยร้อยโรค ไม่น่าดีใจกับฉายานี้ แต่เป็นเรื่องจริงที่ร่างกายได้พิสูจน์แล้ว หวังว่าอายุเยอะจะไม่พันโรคก็พอ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in