เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
#fictober2017somnambulist_97
Day8 - Crooked
  • DAY 08 : Crooked

    by somnambulist

    #fictober2017 #danwoo

    pairing; Kang daniel x Park woojin


    오늘밤은 삐딱하게

    ค่ำคืนนี้ผมขอเป็นผู้ชายเสเพลบ้างเถอะ


    ควันบุหรี่ลอยคละคลุ้งในอากาศ

    กลิ่นแอลกอฮอล์ลอยโชนทั่วบริเวณ

    แสงสีสาดส่องจนลายตา

    เสียงดนตรีดังกระทบโสตประสาท

    ผู้คนเบียดเสียดเต็มพื้นที่

    แก้วทรงเตี้ยบรรจุเครื่องดื่มสีอำพันถูกยกกระดกรวดเดียว ลำคอร้อนผ่าวยามที่ของเหลวไหลผ่าน ใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะความอุ่นร้อนและขมปร่า ศีรษะเริ่มปวดหนึบยามเมื่อแอลกอฮอล์เริ่มแพร่กระจายทั่วร่าง

    “ขออีกแก้ว” บาเทนเดอร์มองลูกค้าขาประจำอย่างเหนื่อยใจ ก่อนจะรินของเหลวสีอำพันให้อีกแก้ว

    “แก้วสุดท้ายแล้วนะคุณลูกค้า”

    “ไหวน่า”

    “ครั้งที่แล้วก็พูดแบบนี้...” ตาเรียวตวัดมองบาเทนเดอร์คนสนิทอย่างโกรธเคือง อีกฝ่ายได้แต่ถอนหายใจ ทำหน้ายอมแพ้แล้วปล่อยให้ลูกค้าขาประจำดื่มต่อไป

    “พูดมากชะมัด” ลูกค้าขาประจำหันตัวหนีบาเทนเดอร์หนุ่ม เท้าแขนกับปลายบาร์ จิบเครื่องดื่มในมือเรื่อยๆ สายตาจดจ้องไปยังฟลอร์ที่มีเหล่าผีเสื้อราตีเต้นรำกันแน่นขนัด ส่งสายตาหยอกล้อบางคนที่จับจ้องมาบ้างเป็นครั้งคราว ยกแก้วตอบรับโต๊ะอีกฝั่งอย่างมีชั้นเชิง ทว่าสายตากลับพลันเห็นใครบางคนเสียก่อน

    ใบหน้าบิดเบี้ยวรับกับใจที่บิดเบี้ยวของเขา

    “เดี๋ยวก็เมาเละ ไปก่อเรื่องอีกหรอก เห้อ ผมเตือนเพราะหวังดีนะ ขี้เกียจเข้าไป..” บาเทนเดอร์หนุ่มยังคงเช็ดแก้วพลางบ่นไม่หยุด และในเสี้ยววินาทีที่ร่างเพรียวพุ่งตัวออกไปยังฟลอร์เต้นรำ บาเทนเดอร์ที่กำลังบ่นอยู่ถึงกับเบิกตาค้าง รีบวางแก้วในมือลง เขวี้ยงผ้าขี้ริ้วทิ้ง และวิ่งตามอีกฝ่ายไป

    “พูดไม่ทันขาดคำ”


    버럭버럭 소리쳐 나는 현기증

    ผมเริ่มแหกปากเสียงดังเพราะว่ารู้สึกปวดหัวเต็มที่

    내 심심풀이 화 풀이 상대는 다른 연인들

    ระบายความอัดอั้นทั้งหมดกับคู่รักที่เพิ่งเดินผ่านไป

    괜히 시비 걸어 동네 양아치처럼

    ผมเริ่มยั่วโมโหชาวบ้านอย่างไม่มีเหตุผลเหมือนพวกนักเลง

    가끔 난 삐딱하게 다리를 일부러 절어

    บางทีผมก็จงใจเดินโซเซเหมือนพวกชอบกวนตีนคนอื่น


    สายตาคมจับจ้องอยู่ที่ชายหญิงซึ่งกำลังนัวเนียกันอยู่ตรงมุมหนึ่งของปลายฟลอร์เต้นรำ เขาเดินแทรกผ่านเหล่านักเที่ยวที่กำลังออกลีลาอย่างไม่ใส่ใจ

    “หลบไป” สองมือผลักดันให้ทุกคนตรงหน้าหลบออกไปโดยไม่สนใจสายตาไม่พอใจหรือสายตาหาเรื่อง เดินตรงเข้าหาชายหญิงที่กำลังเต้นคลอเคลียและโรมรันกันอยู่ ศีรษะปวดหนึบ ก้อนเนื้อในอกซ้ายเต้นระรัวยามเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ฝีเท้าเร่งขึ้นเมื่อสองร่างเริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้น และสติของเขาก็ขาดผึงเมื่อทั้งคู่โน้มตัวจูบกันอย่างดูดดื่มราวกับอยู่ในโลกส่วนตัว

    ผลัก กรี๊ด

    กำปั้นถูกส่งไปยังใบหน้าคมของอีกฝ่าย เมื่อเขาพุ่งเข้าถึงตัวและกระชากฝ่ายชายออกมาก่อนจะซัดเข้าที่ใบหน้าหล่อเหลานั่นอย่างเดือดดาล หญิงสาวกรีดร้องด้วยความตกใจพลางมองสถานการณ์ตรงหน้าอย่างงงงวย

    “เหี้ยไรวะเนี่ย” อีกฝ่ายเช็ดมุมปากตัวเองด้วความมึนงง หันมามองหน้าคนที่ทำร้ายตัวเองอย่างเอาเรื่อง และต้องตกใจเมื่อเห็นใบหน้าอันแสนคุ้นเคยที่ตอนนี้บิดเบี้ยวด้วยความโกรธ

    “อู..จิน”

    “ไปตายซะไป ไอ้เหี้ย” ถ้อยคำหยาบคายหลุดออกจากปากทันทีที่ได้ยินเสียงอันคุ้นเคย สติสัมปชัญญะถูกทำลายทันที เขาพุ่งตัวเข้าหมายจะซัดอีกฝ่ายให้ตายจริงอย่างที่พูด หากว่าไม่มีมือหนาของอีกคนมาฉุดรั้งไว้ทัน

    “ให้ตายเถอะ ก่อเรื่องอีกแล้วนะครับ” ร่างเพรียวถูกรัดด้วยลำแขนแกร่ง ยื้อยุดกันอยู่นานไม่ให้คุณลูกค้าเข้าไปต่อยอีกหมัด ดีที่การ์ดเข้ามากันอีกฝ่ายไว้ทันพอดี ไม่งั้นได้มีตะลุมบอนกันแน่นอน

    “ปล่อย!” พัคอูจินพยายามขืนตัวออกจากอ้อมแขนที่รัดร่างตัวเองอยู่ มือพยายามเหวี่ยงอย่างไร้ทิศทาง หวังจะเข้าไปเอาเลือดออกจากหัวของอีกฝ่าย

    “เฮ้ๆ ใจเย็นสิครับ” สุดท้ายบาเทนเดอร์หนุ่มก็ต้องรวบแขนคุณลูกค้าขาประจำไว้ ลากให้ออกก่อนที่จะมีใครเลือดออกหัวจริงๆ พลางผงกศีรษะขออภัยลูกค้าอีกคนพร้อมส่งสัญญาณให้การ์ดพาไปจัดการอีกด้านของร้าน


    ลากลูกค้าเลือดร้อนออกมาหลังร้าน ปล่อยอีกฝ่ายทิ้ง สายตาจับจ้องไว้กลัวเจ้าตัวจะลุกขึ้นมาต่อยหน้าแต่ยังโชคดีที่ดูจะหมดฤทธิ์แล้ว ตอนนี้ถึงได้ก้มหน้าพิงกำแพงทำตัวไล่เรี่ยวแรงอยู่ บาเทนเดอร์หนุ่มสางผมหน้าม้าทิ้งอย่างเหนื่อยใจ หยิบแท่งนิโคตินขึ้นมาจุด ปล่อยควันช้าๆ ทรุดตัวลงนั่งข้างอีกคน ตาเรียวตวัดขึ้นมามองเขา จนเผลอลดแท่งบุหรี่หนี

    “ไม่ถือใช่มั้ยครับ” 

    “อืม”

    กลิ่นเม็นทอลเย็นๆลอยฟุ้งในอากาศ

    เหมือน กลิ่นที่คุ้นเคยจากใครคนนั้น

    “ขอตัวนึงสิ” ยื่นมือไปตรงหน้าบาเทนเดอร์ ใช้สายตากดดันจนบาเทนเดอร์ผมสีชมพูทนไม่ไหว ยื่นให้พร้อมช่วยจุดบุหรี่มวนนี้ให้

    “ไม่นึกว่าคุณก็สูบ”

    “…” เขาเลือกไม่ตอบอะไร แต่ปล่อยควันสีขาวอมเทาออกมาแทน เหม่อมองขึ้นไปยังท้องฟ้าอย่างไรจุดหมาย ความเจ็บปวดกัดกินก้อนในอกซ้าย บีบรัดจนแทบจะหายใจไม่ออก

    ภาพของคนข้างกายทำเอาบาเทนเดอร์หนุ่มอดจะใจสั่นไม่ได้ ใบหน้าแดงก่ำจากพิษสุราแต่กลับดูเศร้าสร้อยและเจ็บปวด ราวกับจะแตกหักแม้เพียงสัมผัสแผ่วเบา ผิดกับคนเลือดร้อนที่พุ่งเข้าต่อยลูกค้าอีกคนในผับอย่างสิ้นเชิง

    น้ำหนักกดลงบนศีรษะของพัคอูจินโดยไม่รู้ตัว สัมผัสแผ่วเบาลูบไล้ปลายผมเขาอย่างเชื่องช้า ราวกับจะปลอบประโลมให้คลายความเจ็บปวด เขาหันไปมองหน้าอีกคนก็พบรอยยิ้มหยีจนตาปิด

    “ยิ้มเถอะครับ คุณทำหน้าเศร้าแล้วผมไม่ชินเลย” แสยะยิ้มส่งให้คนตรงหน้าหนึ่งทีก่อนจะหันไปสูดนิโคตินเข้าปอด

    “ขอเดาว่าไอ้นั่นคือผู้ชายเฮงซวยที่คุณเคยพูดถึงใช่ไหม...หน้าตาดีไม่เบานี่ แต่ดูเลวชะมัด”

    “ได้ต่อยหน้าไปหมัดนึงแล้วก็น่าจะพอหายแค้นแล้วมั้ง คิดมากไปก็หนักหัวเปล่าๆ เชื่อผมเถอะ” รอยยิ้มสดใสนั่นถูกส่งมาให้อีกครั้ง มือหนาเสยผมสีชมผูของตัวเองพร้อมขยี้บุหรี่ในมือกับพื้น โดยไม่ทันตั้งตัว สองมือนั่นก็ทาบเข้าที่แก้มของเขาและถูโดยไม่สนใจว่าเขาจะเจ็บสักนิด

    “อ่อย..นะ.ไอ้เอี้ย”

    “หน้าคุณเวลาโกรธได้ใจกว่าเยอะ เลิกทำหน้าเหมือนโลกจะแตกได้แล้ว เอาเวลามาคิดว่าจะชดใช้ค่าเสียหายที่มาก่อความวุ่นวายในผับผมยังไงยังจะมีประโยชน์กว่าอีก เข้าใจมั้ยครับ” เจ้าของผมสีชมพูขยี้แก้มนิ่มของอูจินอีกสองทีก่อนจะปล่อยมือออก 

    “มึงนี่มัน” หัวสีชมพูถูกตบเข้าไปหนึ่งที ตาเรียวตวัดมองอย่างโกรธเคือง แต่แรงบีบรัดในใจเหมือนจะผ่อนคลายลงไปเล็กน้อย

    “ถ้าลืมง่ายขนาดนั้น กูคงไม่มากินเหล้าร้านมึงแทบทุกวันหรอก” ประโยคนี้ราวกับตอกย้ำตัวเองไปด้วย เขาได้แต่แค่นยิ้มให้ตัวเองอย่างน่าสมเพช

    “อืม...แต่ยังไงผมก็เกลียดรอยยิ้มเบี้ยวๆกับหน้างอๆของคุณชะมัด ถ้างั้นอยากลองลืมเขาให้ได้มั้ยครับ”

    “อย่างน้อยก็ในคืนนี้”

    “หืม ยังไง” หันมองน่าอีกคนอย่างสงสัย รอยยิ้มสดใสแปรเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ในทันที

    “อืม แบบนี้ยังไงละครับ”

    โดยไม่ทันรู้ตัวเจ้าของเรือนผมสีชมพูก็ยึดข้อมือข้างที่ถือแท่งนิโคตินไว้ อีกมือจับให้ปลายคางของเขาเชิดขึ้นรับสัมผัสแผ่วเบาที่ทาบทับลงมา

    กลิ่นนิโคตินและเมนทอลเย็นคละคลุ้งในโพรงปาก

    เขาเอียงหน้าตอบรับจูบอีกฝ่าย เหลือบตามองป้ายชื่อสีทองวาวบนอกของบาเทนเดอร์หนุ่มเล็กน้อย ก่อนจะปิดเปลือกตาลงและดำดิ่งเข้ากับสัมผัสตรงหน้า จมดิ่งสู่โลกอันบิดเบี้ยวและเลือนราง

    อย่างน้อยหมอนี่ก็ไม่ถือว่าเป็นคนแปลกหน้าแหละมั้ง

    เขาจะถือว่ารู้ชื่อแล้วก็แล้วกัน

    K. Daniel

    사랑 같은 소리 따윈 집어 쳐

    ช่วยเขี่ยความรักห่วยแตกแบบนี้ไปให้พ้นทางของผมที 

    오늘밤은 삐딱하게

    ค่ำคืนนี้ผมขอเป็นผู้ชายเสเพลบ้างเถอะ

    -----------------------------------------------

    TALK;

    ขอบคุณเพลง Crooked - G-dragon เพลงของมหาเมนเราเอง แง ขอบคุณ คำแปลไทยจาก คุณ coupdetatkaeda สารภาพว่าโจทย์นี้คือตันมาก ตันจริงไม่ติงนัง น้อมรับความแปลกทุกประการ แต่รู้สึกว่าพล็อตที่บิดเบี้ยวก็ตรงโจทย์ดีนะ /แถจนสีข้างถลอก ยังคงคอนเซปงงแล้วต้องงงให้สุด แง จะพยายามปรับปรุงขึ้นเรื่อยๆ กราบพี่น้องทั่วทุกสารทิศ ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นและเมนชั่น เป็นกำลังใจให้เข็นฟิคออกมาแม้ฝีมือเราจะกรังไปหน่อยก็ตาม ขอบคุณจริงๆค่ะ

    พูดคุยกันได้เหมือนเดิมที่ @somnambulist_97 และแท็ค #somnamxfictober

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in