บรรยากาศวีคแรก ๆ เงียบมากเลยค่ะ ในห้องตอนเบรคคือเหมือนป่าช้า T__T แต่พอวีคที่ 2–3 เริ่มมีทอปปิคมาคุยกัน เช่นเพื่อนไต้หวันคุยกับเราว่า ชั้นรู้ว่าภาษาไทยหัวเราะกันโดยใช้เลข 5 นะ หรือคุยกับเพื่อนฮ่องกงว่าเมื่อกี้เห็นพูดถึง producex101 ชั้นก็ดูเหมือนกันนะ ชอบคนนั้นคนนี้ ส่วนเพื่อนจีนก็จะชอบมาถามค่ะว่าคำนี้ภาษาไทยพูดว่าไรอะ เช่น 미쳤어? ภาษาไทยพูดยังไง เราก็เลยสอนว่าเป็นบ้าหรอ? 555555555 อะไรแบบนี้
ช่วงแรกตอนพักก็คือภาษาจีนรัว ๆ เลยค่ะ ส่วนเราคือนั่งเอ๋อ555555555 ; — — — ; แต่ช่วงหลัง ๆ ทุกคนก็เริ่มพูดภาษาเกาหลีกันค่ะเพราะเราฟังจีนไม่ออก เพื่อนญปฟังไม่ออกทั้งจีนทั้งอังกฤษ พอทุกคนสนิทกันเริ่มอยากเม้ามอยกันก็เลยต้องพูดเกาหลีเท่านั้น ใช้ broken korean สนุกมากกกกค่ะ ผสมอิ๊งบ้างผสมภาษามือบ้าง เอาจริงก็ไม่ได้มีใครพูดเก่งมาก แต่ทุกคนก็พยายามสื่อสารออกมา ทำให้เราก็กล้าที่จะพูดด้วย แฮปปี้มากเลยค่ะที่ได้เรียนกับเพื่อนๆห้องนี้ แถมความที่คลาสเลิกบ่ายโมง ช่วงหลังเลิกเรียนก็จะชวนกันไป hangout บ่อย ไปกินข้าว คาเฟ่ ไปลอตเต้เวิลด์ ไปชอปปิ้งมยองดง ไปโนเรบัง ส่วนเสาร์อาทิตย์ก็ไปปิคนิคที่ฮันกังกันค่ะ ♡
เราคิดว่าสิ่งที่ทำให้เราพูดเกาหลีคล่องขึ้นไม่ใช่เพราะในห้องเรียน แต่เพราะเพื่อเม้ามอยกับเพื่อนในห้องมากกว่า แล้วก็ห้องเราคุยกันเป็นพันมัลตั้งแต่ช่วงแรก ๆ เลย จากที่เคยคุยกับพี่คนไทยคือห้องพี่เค้ายังเรียนกันว่าคุณ/พูดสุภาพแบบลงท้ายด้วยโยอะไรแบบนี้อยู่ค่ะ แต่ห้องเราคือพันมัลโลด พอเรียนคอนเวอในห้องแล้วต้องเรียกเพื่อนว่าคุณก็คือรับบทนางเกร็ง555555555555
ทอปปิคการคุยก็จะค่อนข้างจิปาถะมาก ส่วนบางทีกับเพื่อนคนที่ไม่ค่อยสนิทมากเราก็จะทักเค้าด้วยการเขียนชื่อเค้าเป็นภาษาไทยให้เค้าดู เค้าก็จะแบบ ว้าว อเมซิ่งมาก เขียนตามเราไรงี้ น่ารักมาก ๆ เลย ♡ เผื่อใครสนใจเอาไปเป็นไอเดียในการทักเพื่อนต่างชาติใหม่ ๆ ก็ลองดูได้นะคะเรายืนยันว่าเวิร์ก ^_____^ เย่ะ
คำตอบคือ ได้ค่ะ แต่นร.ส่วนมากที่นี่ก็จะเป็นผู้หญิงด้วยอาจจะเพราะชื่อมหาลัยเป็น Ewha Womans University ด้วย ทำให้ผู้ชายไม่ค่อยกล้าสมัคร 5555555555 แต่แนะนำว่าถ้าอยากเจอเพื่อนผชเยอะๆแบบพออุ่นใจอาจจะพิจารณาคอร์สเรียนภาษาของมหาลัยอื่นจะดีกว่าค่ะ ที่นี่ผชน้อยม้ากกกกจริง ๆ แทบไม่เห็นเลย ?
ถ้าใครมีคำถามหรืออยากรู้อะไรเพิ่มเติมสามารถพิมพ์ทิ้งไว้หรือทักทวิตหรือไอจีมาได้เลยนะคะะะ :-)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in