ถ้ามีโอกาศอยากลองเขียนจดหมายไปหาตัวเองในอดีต เพื่อบอกเล่าตอนจบของเรื่องให้ตัวเองฟัง ถ้าเป็นหนังแสนมหัศจรรย์ของทิม เบอร์ตัลก็อาจจะมีฉากไคลแมกซ์เป็นการเปลี่ยนแปลง Someting ที่ส่งผลมายังปัจจุบัน แต่นี้ชีวิตจริงไง, ทำได้แค่เขียนเก็บไว้เฉยๆ
ถึง. ตัวฉันเองในสมัยปี 1
เปิดเทอมวันแรก, ต้นเดือนพฤษภาคม
สวัสดีแก, แกคงเป็นฉันตอนสมัยปี 1 ที่สุขภาพดีกว่านี้และจินตนาการกว้างไกลไปมากกวานี้ ตอนนั้นแกคงจะกำลังสับสนว่าคิดถูกรึป่าวที่เลือกเรียนเอกนี้ คณะนี้ เพราะอีกเส้นทางของแกคือเส้นทางที่นำไปสู่อาชีพที่ดีและมั่นคงในสายตาของผู้ใหญ่ จำไว้นะว่าแกเลือกถูกแล้ว เพราะแกจะได้เรียนในสิ่งที่ชอบและมีความสุขกับมัน แกจะได้ผจญภัยและเดินทางอย่างไม่มีจุดสิ้นสุดเพื่อค้นหาคำตอบในงานวิจัย แกเชื่อฉันนะว่าแกเลือกถูกแล้ว ถึงแม้ว่าตอนช่วงแรกๆของปี 1 แกจะอยากซิ่วไปเรียนสถาปัตย์มาแค่ไหนก็ตาม คนที่เรียนสถาปัตย์มันดูเท่ก็จริงแต่มันไม่ใช่ตัวแก จำไว้น่ะ ...
ตอนปี 1 แกจะมีเพื่อนที่เหมือนจับสลากได้ จู่ๆก็กลายเป็นเพื่อนกัน บางคนอยู่กับแกจนถึงวันสุดท้ายของการเรียนจบ บางคนหล่นหายไปตามทาง ฉันจะไม่บอกแกหรอกว่าคนไหนที่จะหายไป แต่จงจดทำและสร้างความทรงจำที่ดีที่สุดกับทุกๆคนในทุกเหตุการณ์นะ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนแล้ว ถึงจะหายไปหรือจะหักหลังกันและมันก็ควรจะมีช่วงเวลาดีๆให้จดจำและคิดถึงกันในเรื่องดีๆบ้าง
ตอนไปทริปเวียดนามแกจะเป็นบ้าคิดแต่เรื่องแฟนแกที่ก็ไม่ใช่คนดีซักเท่าไหร่ แกควรจะเทๆมันไปซะนะ เพราะหลังจากที่มันเลิกกับแกจนถึงวันที่แกเรียนจบมันก็คบๆเลิกๆไป 4-5 คนแล้ว ผู้ชายคนนี้เป็นแค่ความทรงจำสมัยมัธยมที่ดี แต่ถ้าเลือกได้ฉันอยากให้แกสร้างความทรงจำกับการเดินทางทริปเวียดนามตอนปี 1 มากกว่า มันสนุกมากจริงๆนะ แต่แกมัวแต่สนใจอะไรก็ไม่รู้ ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายที่อยากจะขอย้อนเวลาไปแก้ไข (ถ้าทำได้)
แกตอนปี 1 อาจจะกำลังเครียดที่แกได้ D วิชาปรัชญาแสนยากของอจ.วันเพ็ญ แกไม่ต้องเสียใจนะ เพราะเกรดตัวนี้คือตัวแปรสำคัญที่ผลักดันตัวแกเองมาตลอด ขอสปอยไว้เลยว่าตอนแกปี 3 แกเป็น 1 ใน 3 คนของทั้งรุ่นที่ได้ A ในวิชาจริยศาสตร์ที่เป็นตัวต่อของปรัชญาปี 1 แกจะภูมิใจกับมันมากๆ มากจนแกอยากจะขอบคุณ D ตัวนั้นที่มันฝังอยู่ในใจแก
ปล. เพื่อนในกลุ่มทำงานปรัชญาสมัยปี 1 เป็นเพื่อนที่ดีมากๆ แต่ตอนนั้นแกปล่อยเบลอมองข้ามคนพวกนี้ไป แต่ไม่เป็นไรหรอกนะ เพราะต่อมาโลกก็จะเล่นตลกเขย่าแกกับคนพวกนี้มารวมกันจนแยกกันไม่ออกอยู่ดี
เรื่องใหญ่ๆที่อยากจะบอกแกก็คงจะมีแค่นี้ ที่เหลือคงเป็นเรื่องจิปาถะที่พอจะนึกออก ใจจริงก็ไม่อยากสปอยแก แต่แกก็ควรจะรู้เอาไว้
- ร้านถ่ายเอกสารพี่เป้าถูกกว่าและดีกว่าร้านใต้คณะมาก แกควรเลิกขี้เกียจแล้วเดินข้ามถนนไปถ่ายชีทที่ร้านพี่เป้า (เขามีบุญคุณกับแกมากในช่วยแกทำภาคนิพนธ์ปี 4)
- ที่แกสงสัยว่าเอกอ้วนขายน้ำรวยจริงไหม บอกเลยว่ารวยมาก เดี๋ยวพอแกปี 2 ปี 3 เอกอ้วนจะแสดงอิทธิฤกษ์ขี่เบนซ์ใส่ Apple watch ชงกาแฟให้แกกิน อย่าคิดมาก ซื้อๆไปเถอะ
- โรงอาหารบีอีมีร้านดีๆเยอะมาก ร้านข้าวตรงกฤษฎีกาก็ดี ร้านในตรอกซอยกลางก็อร่อย แกไม่ควรโง่งมกินเป็ดอยู่โรงอาหารสังเคาะห์ เพราะเหตุผลแค่ว่าเพื่อนแกชอบไปกิน เพราะกว่าแกจะได้รับรู้รสชาตของอร่อยก็เสียเวลากินเป็ดโง่ๆวนไปเป็นปีๆ
- ท่าพระจันทร์เกมส์ / 1st Meet SEAS / SEAS's Night / ค่ายสีสัน แกควรเข้าร่วมและทำกิจกรรมน่ะ เพราะแกจะเกิดคนดีๆ เพื่อนดีๆ น้องที่น่ารักจากงานพวกนี้ อะไรพวกนี้จะเปิดโลกของแกมาก หลายๆคนอยู่ยาวกับแกจนถึงวันเรียนจบ ออกมาจากห้องบ้าง โลกมหาลัยมันกว้างกว่าที่แกจินตนาการไว้เยอะ
- งานที่ศิลปากรแกควรไปทุกปีนะ เพราะตอนปี 4 เขาจะปิดซ่อมม.และเทศกาลฤดูหนาวพวกนั้นแกก็จะไม่มีโอกาสได้สัมผัสมันอีกแล้ว หนังกลางแปลงที่ศิลปากรสนุกมาก คอนเสิร์ตก็มัน แกจะได้ไปร่วมงานชิงธงวันศิลป์ด้วย เป็นความทรงจำที่งดงามมากสำหรับช่วงชีวิตวัยรุ่นของแก ทั้งหวานและขมในเวลาเดียวกัน
- วิชาภูมิศาสตร์ตอนปี 2 จะนำพาแกไปเจอคนดีๆอีก 3-4 คน แกกับคนพวกนี้จะรักๆลืมๆกันมาจนเรียนจบ ดูแลกันให้ดีๆนะ แกจะสนุกมากๆกับทริปไปลาว ถึงแกจะเมามากไปหน่อยก็ตาม แต่มันเป็นเรื่องสนุกจริงๆ
ตอนนี้นึกออกแค่นี้, ฉันอยากให้รักษาตัวดีๆ มีความสุขกับทุกวินาทีของการเป็นวัยรุ่น อย่าไปกังวลเรื่องอนาคตให้มาก เพราะตัวฉัน (แกในอนาคต) มีชีวิตที่ดีพอสมควรจากความตั้งใจและแน่วแน่ขอตัวแกในปี 1 อย่ากดดันตัวเองเยอะ แกอาจจะไปไม่ถึงเป้าหมายแบบเป๊ะๆ แต่ถ้าสเกล 1-10 เป้าหมายถึง 10 ฉันตอนนี้ก็มาไกลถึง 7 ฉันภูมิใจในตัวเองแกมากๆนะเว้ย แกจะเจ็บปวดเหมือนจะตาย มีความสุขเหมือนกำลังฝันอยู่ และเข้มแข็งแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต ทุกเหตุการณ์ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นตลอด 4 ปี มันหล่อหลอมให้แกเป็นแกที่ฉันภูมิใจและสุขใจที่คิดถึงเรื่องราวเก่าๆในความทรงจำ แกต้องสู้นะ, ชีวิตบางครั้งมันก็โหดร้ายเหมือนโลกนี้เกลียดแก แต่สุดท้ายทุกอย่างมันจะผ่านไปด้วยดี แกจำได้ไหมที่แกเชื่อมาตลอดว่าความพยายามไม่เคยทรยศใคร, ความพยายามของแกตลอด 4 ปี จะไม่ทรยศแกแน่นอน แกจะได้เป็นคนในแบบที่แกอยากเป็น ได้ทำงานในที่ดีๆ มีคนดีๆในชีวิตที่รักแก สุดท้ายที่ฉันอยากจะบอกแกคือ ฉันภูมิใจในตัวแกและรักทุกวินาทีของทรงจำที่แกสร้างขึ้นมาตลอด 4 ปี
ขอบคุณมาก
จาก. ตัวฉันเองในวันเรียนจบ
2 ธันวาคม 2560, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in