คงต้องยอมรับว่าหนังสือวรรณกรรมเยาวชนส่วนใหญ่ เป็นหนังสือที่คนอายุบรรลุนิติภาวะเป็นผู้ประพันธ์ และคนอ่านส่วนใหญ่ก็ดันเป็นผู้ใหญ่พอกันด้วย การอ่านหนังสือที่ได้ชื่อวรรณกรรมเยาวชนสำหรับเราจึงไม่ได้เป็นความบันเทิงอันสดใสสำหรับเด็กๆ แต่เป็นการอ่านก้อนมวลความรู้สึกของผู้ใหญ่คนหนึ่งในรูปแบบที่ทำให้ดูสดใสขึ้นเท่านั้น
สำหรับ มาทิลดา นักอ่านสุดวิเศษ เราคิดว่ามันคือความอัดอั้นของโรอัน ดาร์ลต่อการเป็นปฏิปักษ์กับอะไรสักอย่างที่เค้าเองก็คงสู้ๆ ถอยๆ อยู่นาน จนกลั่นออกมาเป็นหนังสือเล่มนี้ และ เช่นเดียวกับหนังสือหลายเล่มของโรอัลด์ ดาห์ล เรื่องของมาทิลดามีตัวร้ายเป็นผู้ใหญ่นิสัยน่าเกลียดสองสามคน พ่อขี้โกง แม่ผู้เห็นแก่ตัว ครูใหญ่ใจร้าย และมีผู้ใหญ่ฝ่ายดีเป็นคุณป้าห้องสมุดและคุณครูประจำชั้น
เราประมาณเนื้อหาของหนังสือออกเป็นสามส่วน ส่วนแรกคือส่วนที่บรรยายถึงนิสัยเด็กหญิงมาทิลดาและชีวิตที่ต้องเผชิญอยู่ในครอบครัวที่เธอเบื่อแสนเบื่อ กับโลกมหัศจรรย์ของการอ่าน ส่วนที่สองเป็นช่วงชีวิตของมาทิลดาในโรงเรียนประถม และส่วนสุดท้ายคือช่วงที่เธอค้นพบความสามารถพิเศษจนพลิกผันเอาชีวิตเส็งเคร็งสองส่วนแรกจากร้ายกลับกลายเป็นดี แถมช่วยคนที่เธอรักเอาไว้ได้ด้วย พร้อมด้วยกลิ่นการเขียนแบบเสียดสีประชดประชันสไตล์โรอัลด์ ดาห์ล
ทั้งสามส่วนนั้น โรอัลด์ ดาห์ลซุกซ่อนเสียงกระซิบเล็กๆ อันยิ่งใหญ่เอาไว้ ว่า “จงอย่าสยบยอม” ไม่ว่าจะเด็กหรือโตกระทั่งบางทีจนเราแก่เฒ่า ทุกช่วงชีวิตมักมีผู้ใหญ่ คนที่โตกว่าหรือคนที่ตัวใหญ่กว่าตัวเราป้อนชุดคำสั่งที่จะดูยังไงก็ไม่น่าทำตาม ส่งแรงกดดัน สาดความหวาดกลัวเข้าใส่ จนเราที่เป็นเด็กหรือเป็นคนที่ตัวเล็กกว่า หลายครั้งหลายคราต้องสยบยอมและ “ทำก็ได้”
จำได้ว่าเคยอ่านข้อความสั้นๆ ของใครสักคน เทือกๆ ว่า การทำตามกระแสก็แค่เพื่ออยู่รอด แต่การทำตามสิ่งที่ตัวเองเลือกจริงๆ แม้จะต้านกระแสใหญ่และต้องเจ็บตัวบ้าง คือการทำเพื่อที่วันสุดท้ายจะไม่มีอะไรติดค้างกับชีวิต ตายตาหลับ มาทิลดาและเด็กๆ โรงเรียนประถมครัชเชม ฮอลล์ เป็นเหมือนภาพตัวอย่างของการต้านกระแสที่ว่านั้นเอง
มาทิลดาเป็นนักอ่านตัวยง และคงปฏิเสธไม่ได้ในชีวิตจริงว่า ว่าหนังสือ คือพลังวิเศษน่าพิศวงที่ค่อยๆ กล่อมเกลาให้เราคิดเองเป็นทีละนิด บางทีพลังของมาทิลดาอาจมาจากการที่เธออ่านแล้วอ่านเล่านั่นเอง แม้ในโลกของเราจะไม่สามารถมีพลังวิเศษแบบฮีโร่ได้จากการอ่าน แต่การคิดเองเป็น ความกล้าหาญจะทำอะไรบางอย่างเพื่อต่อต้านสิ่งที่ไม่ถูก การเลือกทำอันมิได้มาจากการสยบยอม นั่นก็คือความวิเศษที่ยิ่งใหญ่มากแล้ว
ดังนั้นแล้ว ในสายตาเรา การอ่านมาทิลดานอกจากจะทำให้ใจฟู ความดีความชอบอันยิ่งใหญ่อีกอย่างคือการทำให้เรากระตุกนึกถึงอะไรหลายอย่างที่เรานึกเสียดายและรู้ติดค้างกับชีวิต สบถกับตัวเองบ่อยๆ ว่าไม่น่าเลยกู เด็กหญิงตัวน้อยอย่างมาทิลดาเป็นเสียงก้องกังวาลของโรอัล ดาห์ล สะท้อนผ่านหน้ากระดาษ ย้ำให้เราระลึกได้อีกครั้งว่าสิ่งที่เราอยากทำจริงๆ คืออะไร และถึงเวลาแล้วที่ต้องเลือกและหยุดสยบยอมกับคนตัวใหญ่ๆ แน่นอนว่าตอนจบของเล่มเป็นแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง ตัวเราทุกคนเองก็เช่นกัน สู้ไปเรื่อยๆ สักวันหนึ่งเราทุกคนก็จะชนะอย่างแน่นอน
อ่านรีวิวหนังสือเล่มอื่นๆ ได้ที่ Readercity ค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in