วันนี้ไปฝึกงานโดยใส่ชุดนิสิตเต็มยศไปฝึกงาน (นัดกันมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว) และไปเช้าสักหน่อยก่อน 8:30น. วันนี้ไปเป็นผู้ช่วยทั้งวันเลย (ก็ไปฝึกเป็นผู้ช่วยนี่เนอะ)
เริ่มงานด้วยการรีดผ้าไอน้ำ (รีด green screen) สำหรับใช้งานวันพรุ่งนี้ เตารีดไอน้า(น่าจะ)รุ่นโบราณเครื่องนี้หนักอย่างดัมบ์เบลล์และยังใช้งานด้วยการยกขึ้น-ลงเพื่อรีดผ้าขนาดใหญ่มากที่หนีบไว้... สภาพที่ออกมาของเด็กฝึกงานทั้งสามคือ ผลัดกันรีดผ้าและผลัดกันจับสายปลั๊กเตารีดที่ทั้งสั้นทั้งหลวม(ใช้ปลั๊กเชื่อมค่ะ) และคนว่างก็ช่วยจับผ้าให้ตึง เพื่อรีดผ้าที่กว้างกว่าคนสามคนและสูงกว่าส่วนสูงมาตรฐานสตรีไทยไปประมาณศอก
//วาดภาพประกอบ //เหตุการณ์ก็จะประมาณนี้
งานที่สอง ติดผลงานที่บอร์ด เป็นผลงานสมัยปีสามเทอมหนึ่งของพวกเรา ผลงานแต่งนิทานจากภาพฉีกกระดาษ
งานที่สาม วางผลงานธีสิสในอาณาเขตตู้เก็บธีสิสให้ได้ เห็นว่างานชิ้นนั้นใหญ่กว่าช่องในตู้ เพื่อนร่วมงานจึงออกความเห็นให้วางไว้ข้างบนตู้ในแนวนอน(ทับกล่องหนัก ๆ สามใบ) แต่ทว่างานชิ้นนั้นเป็นสื่อฯของเล่นร้านก๋วยเตี๋ยวซึ่งมีถ้วยชามอยู่ข้างใน เวลาจะวางนอนมันจะดังน่าหวาดเสียวจึงได้เสนอให้ขยับกล่องหนักสามใบสักนิด>>>สรุปผล : ได้ทราบว่าใครสูงใครแรงเยอะข้อมือดีก็ครั้งนี้ล่ะ
กลับมาจากกินข้าวกลางวัน ไปทำงานที่สองต่อ! เพราะครูทักและเพิ่งเห็นว่ามีอีกบอร์ด และเราได้แยกกันเป็น หนึ่ง/สอง
หนึ่งขอแกะผลงานเก่าออกจึงไม่ทราบว่าอีกสองได้รับงานไปซื้อน้ำตามสั่ง จึงเอาผลงาน(ที่ได้มาตอนที่อีกสองคนแวะมาถามว่าเอาน้ำอะไรไหม บลาๆๆ )มาติดบอร์ดแทนอีกสองคนที่ได้รับสั่งซื้อน้ำ(และไม่ได้แกะของเก่าออก เพราะได้ยินเสียงแววมาตอนอีกสองไปเปิดประตูรับงานว่าไม่ต้องแกะออก)
หลังจากอีกสองคนกลับมาจากซื้อน้ำ เพื่อนได้เลือกของฝากกลับมาให้หนึ่งชิ้น บราวนี่อุ่น ๆ รสชาติถูกใจ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จำได้ว่าเพื่อนเสียดายที่ไม่ได้ช่วยงานจึงได้เหลืองานที่สองไว้ให้ครึ่งหนึ่ง พวกเขาดูดีใจนะ??
แต่
ถึงเวลาสัมภาษณ์กระทันหัน (สัมภาษณ์หลักสูตร ผู้ถูกเลือกมีได้เฉพาะคนที่ดูดี ดูน่าเชื่อถือ ดูน่าไว้ใจให้ถูกสัมภาษณ์) เพื่อนทั้งสองจึงต้องหันไปงานสัมภาษณ์ก่อน ฝ่ายเราก็รอให้เพื่อนมาทำงานที่สองที่อยากทำ -สุดท้ายเพื่อนทั้งสองก็อดทำ-
ระหว่างรอให้เพื่อนมาต่องานที่สองที่อยากทำ มันว่าง ว่างจนครูถามว่าใครว่างบ้าง ว่างจนต้องไปแย่งทำงานต่อเอง และต่อด้วยงานจิปาถะที่ตามมา
[โอ้ ลืมถ่ายรูป วันนี้ไม่มีรูปถ่าย เดี๋ยวค่อยมาเพิ่มละกัน]
งานที่สี่(สำหรับเราคนเดียว) แก้ไขป้ายชื่อหน้าห้องพักครู ของเก่ามีชื่อไม่ครบคน ตอนนี้มีห้าคนแล้ว
ได้กระดาษสำหรับป้ายชื่อมาสองแผ่น ได้รับสั่งให้ตัดกระดาษสองแผ่นเพื่อความสมมาตรและความเนี้ยบ(เห็นครูใช้คำนี้ตอนมาสำรวจงาน [ไม่มีภาพ คิดว่าไม่ต้องถ่ายรูป]) อุปกรณ์ตัดแบ่งที่ยืมจากครูเยี่ยมมาก โดยเฉพาะมีดคัดเตอร์ที่หยิบมามั่ว ๆ คมจนไม่ต้องกดกระดาษก็ขาด แค่ย้ำเยอะ ๆ
ใช้ช่วงเวลาอันยาวนานหลังจากนั้นไปกับการเช็ดกระจกลอกกาวเก่าทิ้ง ทดลองหลายอย่าง (อุปกรณ์จากคุณครู)
0. ขูด = เมื่อยมือ เมื่อยแขน ไม่สะอาด ลอกแค่ครึ่งเซนติเมตรใช้ความพยายามสูงมาก
1. กาวลาเท็กซ์ (เลือกเอง) เห็นมันลอกสิ่งสกปรกดีเวลามันแห้ง = งานเยอะกว่าเดิม ป้ายกระจกแล้วแห้งยากลอกยาก
2. น้ำมันเหลืองนวดเส้น (ครูเอื้องเลือก) บอกว่ามีตัวช่วยละลายกาวในตัวยา = เห็นผลช้า ต้องใช้แรงเยอะ
3. แซมบัคแก้แมลงกัดต่อย (ครูเอื้องเลือก) บอกว่าขี้ผึ้งช่วยได้ = (เห็นครูถู)น่าจะออกแรงเยอะกว่าน้ำมันเหลือง
4. แอลกอฮอล์ (ครูเอื้องเลือก) ขวดนี้มีกลิ่นหอมดีไม่ทราบรุ่นอะไรไม่ได้อ่านละเอียด = ลอกง่ายมาก
5. แอมโมเนีย (ครูเอื้องเลือก) ข้างขวดเขียนว่าหอมแต่ลองดมแล้วกลิ่นมันแทงจมูก = ลอกง่ายกว่าแอลกอฮอล์
หลังจากจัดการเช็ดกระจกจนใสสะอาด ติดป้ายชื่อเสร็จเรียบร้อย เป็นเวลา 17 นาฬิกา เลิกงานพอดี
เพื่อนทั้งสองก็เดินออกมาจากห้องสัมภาษณ์ทิพย์ ก็ช่วงนี้ต้องใช้ออนไลน์เป็นปัจจัยทำงานน่ะ ตอนนั้นคิดว่าคิดถูกแล้วล่ะที่แย่งงานมาทำ แต่งานที่สี่ก็ยังไม่เสร็จดีจึงให้เพื่อนทำตามที่เรียกร้อง
ติดป้าย “ห้องคอมพิวเตอร์” ที่ห้องคอมพิวเตอร์ไร้ป้าย
จบไปอีกหนึ่งวัน?
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in