หนังสือวรรณกรรมเยาวชน (Young Adult Book) หรือเรียกสั้นๆง่ายๆว่า YA ใครได้ยินคงจะคิดว่า เป็นหนังสือสำหรับเด็ก วัยรุ่น หรือวัยรุ่นตอนปลายแน่ๆ แต่เพื่อนๆ รู้ไหมคะว่า 55% ของหนังสือประเภทนี้คนที่ซื้อส่วนใหญ่อายุแตะเลย 30 หรือเลข 40 ทั้งนั้นเลย! หนังสือประเภทนี้มีอะไรกันนะ ที่ทำให้ผู้ใหญ่ติดใจ และมักจะหยิบอ่าน?
จากการที่เราคลุกคลีกับหนังสือประเภทนี้มานาน ทำให้เราได้รู้ว่าหนังสือ YA นั้นไม่ได้มีแค่ความบันเทิง รักกุ๊กกิ๊กโรแมนติกเบาสมองเหมือนนิยายแจ่มใส ตรงกันข้าม หากอ่านและทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง มันคือหนังสือปรัชญาชีวิตดีๆเล่มหนึ่งเลยล่ะ เรื่องราวส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับปัญหาชีวิตวัยรุ่น ซึ่งไม่ได้สะท้อนแค่ชีวิตของเด็กตะวันตกเท่านั้น แต่หนังสือที่สะท้อนชีวิตวัยรุ่นในแถบเอเชีย หรือแม้แต่ในเอเชียใต้ก็มีตีพิมพ์ออกมา จนได้รับรางวัลมากมายไม่แพ้กัน
"อย่าให้ชื่อเรียก "young adult" หลอกคุณ เพราะหนังสือบางเล่มมันทำให้คุณได้เรียนรู้บทเรียนชีวิตมากกว่าหนังสือประเภทอื่นจะให้คุณได้"
ปัญหาต่างๆที่สะท้อนในหนังสือแม้จะอยู่ต่างคนละสภาพแวดล้อมกับผู้อ่าน แต่ทุกคนล้วนสามารถสัมผัสกับมันได้ นั่นเพราะทุกคนล้วนเคยผ่านชีวิตวัยรุ่น และต่างประสบกับปัญหาเรื่องเรียน เพื่อน ครอบครัว สุขภาพ และความรักกันมาแล้วทั้งนั้น
หนังสือต่อไปนี้เป็นหนังสือที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้อ่าน เป็นหนังสือที่ทรงคุณค่า ได้รับรางวัลการันตีมาแล้วหลายเวที มาดูกันว่ามีเล่มไหนบ้าง
หนังสือเล่มนี้เราได้อ่านเมื่อตอนต้นปี ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะอินอะไรมาก แต่ที่ไหนได้ วางไม่ลง รู้ตัวอีกทีก็เช้าแล้ว T_T
เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับ A เขา/เธอไม่มีเพศ ตื่นขึ้นมาในแต่ละวันอยู่ในร่างเด็กวัยรุ่นผู้ชาย/ผู้หญิง อายุ 16 ไม่เคยอยู่ในร่างซ้ำกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันในแต่ละวันนั้นคือความรักที่ A มีให้กับ Rhiannon เด็กผู้หญิงที่เขาพบ เมื่อเขาตื่นขึ้นมาอยู่ในร่างของ Justin แฟนหนุ่มของเธอนั่นเอง
Justin เป็นคนที่ไม่ค่อยชอบแสดงความรักต่อ Rhiannon เท่าไร เมื่อA ผู้ที่เข้าใจจิตใจของผู้หญิงมาอยู่ในร่าง Justin ทำให้เธอรู้สึกว่าแฟนเธอเปลี่ยนไป เธอตกหลุมรักคนๆนั้นโดยทันที
หนังสือเล่มนี้วางอยู่บนไอเดียง่ายๆ แต่เมื่ออ่านกลับพบคำถามมากมาย อะไรคือสิ่งนิยามความเป็นคุณ? เพศ? รูปร่าง? สีผิว? ฐานะ? สิ่งที่ A ทำแต่ละอย่างนั้นผิดในทางจริยธรรมหรือเปล่า?
จนกระทั่งตอนนี้นั่งไม่มีหนังสือเล่มไหนมาทำลายสถิติความชอบเราได้เท่าเล่มนี้เลย อ่านรีวิวแบบเต็มๆได้ที่นี่ Book Review: Every Day by David Levithan
หนังสือเล่มนี้เดินเรื่องโดย Clay Jensen เขาได้ค้นพบชุดเทปเสียงหนึ่งใต้บันได ในเทปนั้นเป็นการบันทึกของเด็กสาวที่ได้วางแผนที่จะฆ่าตัวตาย ในนี้เป็นการบอกถึงเหตุผล 13 ข้อว่าทำไมเธอถึงเลือกที่จะจบชีวิตของตัวเองเช่นนั้น
เรื่องค่อยๆคลายปมผ่านตัวละครหลัก Clay เขาได้เรียนรู้เรื่องราวมากมายจากการฟังเทปเสียงนั้น และแต่ละเรื่องแต่ละเหตุการณ์ก็ได้ทำให้เขาเจ็บปวดมวนท้องอยู่ไม่น้อย
บทเรียนต่างๆทำให้เขาได้รู้ว่า ไม่มีเหตุผลมากมายในโลกมากพอที่จะทำให้ล้มเลิกความตั้งใจได้ และทุกคนที่เราพบเจอในชีวิตประจำวันนั้นก็กำลังต่อสู้กับปีศาจภายในที่เราไม่มีวันล่วงรู้ได้เลย เรื่องนี้กำลังสร้างเป็นซีรีส์ แสดงโดย Selena Gomez ด้วยนะ
เชื่อว่าหลายคนคงมีโอกาสดูหนังเรื่องนี้แล้ว เล่มนี้เป็นเล่มแรกๆ ที่ทำให้เราชอบอ่านหนังสือประเภท YA Literature อาจจะด้วยความดังของหนังสือเล่มนี้ที่ทำให้เราอยากหามาอ่านให้ได้ตามกระแส อยากดูว่าตัวเองอ่านแล้วจะร้องไห้บ่อน้ำตาแตกเหมือนชาวบ้านเขาบ้างหรือเปล่า
เรื่องย่อมีอยู่ว่า เฮเซล แลงคาสเตอร์ เด็กสาววัยรุ่นอายุ 16 ป่วยเป็นโรคมะเร็ง พ่อแม่บังคับให้เธอเข้าร่วมกลุ่ม Support group ซึ่งเป็นกลุ่มที่รวมเด็กวัยรุ่นที่เป็นมะเร็งไว้ด้วยกัน ที่นี่ทำให้เธอได้พบกับ ออกัสตัส วอลเตอร์ ก่อนหน้าเขาเป็นนักกีฬา และหนุ่มฮอต แต่พอเป็นมะเร็งทำให้เขาต้องเสียขาไปหนึ่งข้าง ชีวิตวัยรุ่นปกติที่เคยมีก็ไม่มีอีกต่อไป
จริงๆพล็อตเรื่องมันธรรมดามาก และแม้จะสามารถเดาตอนจบได้ง่ายๆ แต่พอยิ่งอ่านไปๆ ก็ไม่อยากให้สิ่งที่คิดไว้มันเกิดขึ้นอยู่ดี เราชอบเรื่องนี้ตรงสำนวนของคนเขียน John Green นี่แหละ ไม่ได้ถึงขั้นซับซ้อน แต่พอถึงจุดจะพีค มันก็พีคมาก คมมาก แบบโอ้ยย โดนใจอะไรขนาดนี้
หนังสือเล่มนี้เรียกได้มีครบทุกอารมณ์ อีกทั้งยังได้แง่คิดต่างๆมากมายจริงๆ แนะนำสำหรับคนที่ยังไม่เคยอ่านหนังสือประเภทนี้ เล่มนี้ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีและมีคุณค่ามากค่ะ
เล่มนี้เราได้อ่านในวิชาวรรณกรรม ตอนแรกพอได้ยินว่าเป็นหนังสือที่ได้รับรางวัลมาก็แบบ โอยยทำไมจะต้องมาอ่านอะไรแบบนี้เพราะกลัวว่าจะต้องใช้การตีความระดับปรมาจารย์แน่ๆ แต่พอได้ลองอ่านดูแล้ว มันเป็นหนังสือที่ดีมากก และควรค่าแก่การบอกต่อ
เรื่องเกี่ยวกับ เมลินดา เด็กมัธยมปลายที่เคยเป็นคนที่เพื่อนๆให้การยอมรับ เป็นที่รักของเพื่อนๆ จนกระทั่งคืนวันหนึ่ง เธอได้ไปปาร์ตี้แล้วเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดทำให้เธอต้องโทรแจ้งตำรวจ ทำให้งานต้องหยุด เพื่อนๆทุกคนต่างพากันเกลียดเธอ ทำให้เธอกลายเป็น Outcast หรือคนนอกในสังคม
เรื่องนี้สะท้อนชีวิตวัยรุ่นได้ดีมาก เราว่าเกือบทุกคนก็คงจะเคยประสบกับการโดนเพื่อนเมิน คือแค่คนเดียวก็แย่แล้ว แต่เมลินดาโดนทั้งโรงเรียน แม้กระทั่งเพื่อนรักของเธอเองก็ยังเกลียดเมลินดา และเอาเธอไปนินทาลับหลัง เราอ่านแล้วรู้สึกแย่แทนมากๆ ภายในเรื่องก็จะเป็นการคลายปมว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เพื่อนทุกคนพากันเกลียดเธอ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นแท้ที่จริงแล้วมันคืออะไรกันแน่ ที่ร้ายแรงขนาดที่เธอต้องโทรแจ้งตำรวจ?
[สปอยล์]
แม้จะเป็นหนังสือเยาวชน แต่เนื้อหาค่อนข้างหนัก ซึ่งเกี่ยวกับการข่มขืนและการยินยอมให้ความรู้สึกนั้นครอบงำชีวิต ในตอนแรก หนังสือไม่ได้บอกว่าเพราะอะไร ทำไม และใคร ที่เป็นสาเหตุให้เมลินดาต้องทำตัวแปลกแยกจากสังคม แต่พอเรื่องดำเนินไปเรื่อยๆ ปมค่อยๆคลี่คลาย มันทำให้เราเข้าใจความรู้สึกของเมลินดาเป็นอย่างมาก
การอ่านหนังสือมันมีความมหัศจรรย์ที่เราผู้อ่านสามารถสัมผัสร่วมกันได้ นั่นก็คือ มันทำให้เราหลีกหนีจากโลกแห่งความจริง ท่องเดินทางไปยังโลกในจินตนาการได้สักพัก หนังสือดีๆมีคุณค่าดังข้างต้น สามารถสอน เยียวยารักษาและทำให้เราลืมเรื่องบางเรื่องไปได้
แม้ว่าจะมีหนังสือประเภทอื่นตีพิมพ์ออกมาล่อตาล่อใจมากมาย แต่เราก็ยังไม่สามารถเลิกคบกับ YA ได้เลย เพราะยังมีหนังสืออีกมากมายที่เราอยากอ่าน และมันยังคงนอนรออยู่บนชั้นวางให้เราไปค้นพบ และร่วมเดินทางไปกับมัน
Original post: http://bit.ly/2nVv4TL
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in