……….
ตอนที่ 35 : เผชิญหน้า
“ตายยากซะจริง” อลิซบ่น ใช้ลูกซองเป่าซอมบี้กลายพันธุ์ตัวหนึ่งที่ปักกรงเล็บของมันจิกเกาะตัวรถจนกระเด็นกลิ้งขลุกๆไปบนพื้นถนน
มอลลี่ขับรถเลี้ยวไปมาเนื่องจากมีพวกซอมบี้เริ่มออกมาเพ่นพ่านตามท้องถนนซึ่งเธอนึกว่าเจ้าซอมบี้พวกนี้มันถูกขังทางทิศใต้ของเมืองซะอีก
“มันใกล้เข้ามาแล้ว !” แคลตะโกน รถฮัมวี่ของพวกมันเร่งความเร็วพยายามขึ้นเทียบกับรถของพวกตน แต่แคลระดมยิงไปทางคนขับ สกัดให้มันไม่สามารถทำได้
หลังจากพวกตนออกมาจากโรงรถไม่นาน พวกมันก็โผล่ออกมาจากไหนไม่รู้ แต่เดาได้ไม่ยากเพราะพวกตนเพิ่งระเบิดบ้านไปหมาดๆเป็นตัวบอกตำแหน่งอย่างดีทีเดียวและคงมีพวกมันมาสมทบอีกแน่
“นั่นมันคิดจะทำอะไรของมันน่ะ” โจพูด ชำเลืองมองกระจกข้างรถ เห็นหนึ่งในพวกมันชะโงกตัวออกมา
“อาร์พีจี !” อลิซตะโกนตอบ แคลกับอลิซรีบยิงสกัดไว้ทันทีที่เห็น
กึง ! ทั้งสองที่ยิงสกัดต้องหันกลับมามองหน้ารถอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงเหมือนตัวรถเพิ่งจะกระแทกเข้ากับอะไรบางอย่างและที่เห็นก็คือมอลลี่เพิ่งจะชนซอมบี้ที่ขวางทางรถ ตัวรถเริ่มส่ายไปมา มอลลี่เหมือนควบคุมสติไม่ค่อยได้เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์กดดัน เธอหักพวงมาลัยพร้อมกับเบรก ตัวรถพลันเปลี่ยนเป็นหมุนคว้างบนถนนตามเข็มนาฬิกาก่อนจะหยุดขวางกลางถนน
“จบกัน” โจพูดขึ้น ดีที่พวกกลายพันธุ์ยังโจมตีพวกเคลโอด้วย ทำให้พวกมันช้าลงไปเยอะทีเดียวเมื่อต้องคอยกำจัดพวกกลายพันธุ์ที่เข้าจู่โจมพวกมันด้วย แต่ดูเหมือนพวกเคลโอยังคิดที่จะยิงอาร์พีจีให้ได้และดูเหมือนมันจะทำสำเร็จอีกต่างหาก
“ออกจากรถเร็ว !” แคลสั่งเสียงดัง เมื่อเห็นควันสีขาวกระจายตัวอยู่ตำแหน่งที่น่าจะเป็นรถฮัมวี่และนั่นแสดงว่าพวกมันยิงอาร์พีจีออกมาแล้ว
ทุกคนรีบเปิดประตู มอลลี่อุ้มลูอิสไว้กับตัวแน่น ออกวิ่งไปยังคฤหาสน์ทันทีที่ออกจากรถได้
“วิ่งออกข้างมอลลี่ !” โจวิ่งไปทางมอลลี่ที่ตั้งหน้าตั้งตาวิ่ง
ตูม ! ตัวจรวดปะทะเข้ากับรถซีดานเต็มๆ เสียงระเบิดดังสนั่นพร้อมกับเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำ ตัวรถไถลครูดไปตามพื้นถนน ดีที่โจดึงมอลลี่เข้าข้างทางได้ทันไม่งั้นคงไม่รอดแน่ๆ ส่วนแคลกับอลิซกระโจนหมอบราบไปกับพื้นทันก่อนที่มันจะระเบิดซะอีก
..........
“มา ผมช่วย” เด็กหนุ่มคนหนึ่งอาสาช่วยไบรอันที่พยายามเปิดประตูรั้วเนื่องด้วยความเก่าของมันทำให้ค่อนข้างที่จะเลื่อนเปิดยาก
ทุกคนที่อยู่ในคฤหาสน์ต่างได้ยินเสียงปืนและระเบิดที่ดังขึ้นไม่ขาดสายชัดเจน รีบจัดกำลังเวรยามให้พร้อมสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินทันที
“พยายามอย่าออกไปนอกเขตที่แสงส่องถึงล่ะ” ชายหนุ่มคนหนึ่งเตือน ทุกคนต่างมาอออยู่แถวประตูเพราะเป็นจุดเดียวที่สามารถเห็นสถานการณ์ภายนอกได้
“เจ้าพวกนี้มันอยู่ทางใต้ไม่ใช่รึไง” ลุงคนที่ไบรอันเจอตอนแรกปรากฏตัวขึ้นและแปลกใจเมื่อเห็นเหล่าซอมบี้ที่โผล่ขึ้นตามท้องถนน
“ผมจะไปด้วย คุณคนเดียวไม่ไหวหรอก” เด็กหนุ่มที่ช่วยตนเปิดประตูอาสาไปด้วย
“แต่...” ไบรอันไม่อยากจะพาคนอื่นไปเดือดร้อนด้วย
“ผมไหวน่า รีบไปเถอะ ! เดี๋ยวเพื่อนคุณจะแย่ซะก่อน” เด็กหนุ่มวิ่งนำออกไปพร้อมใช้มีดถางหญ้าสะบั้นคอซอมบี้ที่ขวางทางตน ไบรอันวิ่งตามไปติดๆ
……….
“ไม่บาดเจ็บตรงไหนใช่มั้ย?” โจถามมอลลี่กับลูอิส พลางดึงทั้งสองลุกขึ้น
“กรี๊ด !” ลูอิสตกใจกลัวเมื่อเห็นซอมบี้ตนหนึ่งอยู่ข้างหลังโจ
“ก้ม !” อลิซตะโกน ใช้ปืนสั้นยิงเข้าที่หัวซอมบี้จากอีกฝั่งของถนนก่อนหันกลับไประวังกับทั้งซอมบี้และพวกกลายพันธุ์ต่อ
“เจอฉันหน่อยเป็นไง” โจสะบัดตัวเอาปืนไรเฟิลที่สะพายหลังมาถือไว้อย่างมั่นคง พร้อมกับบอกให้มอลลี่คอยคุ้มกันด้วย
ปัง ! กระสุนนัดแรกโจยิงเข้าตำแหน่งคนขับทันที ด้วยกล้องซูมที่สามารถมองตอนกลางคืนได้ ตัวรถเซส่ายไปมาก่อนจะหยุดเบรกเหมือนกับพวกตนก่อนหน้า
“แสงไฟข้างหน้านั่นก็คฤหาสน์แล้ว” มอลลี่ตะโกนบอกทุกคน
“นั่นใครน่ะ !” อลิซที่หันไปมองตามมอลลี่ว่า เห็นเงาของคนกำลังเคลื่อนไหวมาทางพวกตน
“เฮ้ ! ฉันเอง”
“ไบรอัน !” อลิซตะโกนขึ้นด้วยความดีใจเมื่อได้ยินเสียงสมาชิกทีมที่หายหน้าไปอีกครั้ง
“ยังปลอดภัยกันดีสินะ” ไบรอันรู้สึกโล่งอกเมื่อเห็นสมาชิกทุกคนยังปลอดภัย
“รีบเข้าไปข้างในก่อนเถอะครับ” เด็กหนุ่มที่อาสาช่วยไบรอันพูดขึ้นคอยคุ้มกันดูแลมอลลี่กับลูอิสจากพวกซอมบี้
ทุกคนเริ่มถอยหลังช้าๆคอยยิงโต้พวกเคลโอที่ยังตามราวีไม่เลิก ทั้งๆ ที่ฝ่ายมันเองก็แทบจะเอาตัวไม่รอดจากพวกกลายพันธุ์
“โอ้ย !” แคลรีบยิงตัวกลายพันธุ์ที่เพิ่งจะใช้กรงเล็บของมันข่วนเข้าที่ช่วงท้องของเธอจนเป็นทางยาวตามรอยเล็บคมกริบของมัน เลือดไหลออกมาตามรอยขาดย้อมชุดสำรวจสีขาวอมเทาของเธอเป็นปื้นแดงๆตามรอยเล็บ
“แคล !” ไบรอันวิ่งรี่เข้าไปหาทันทีเมื่อได้ยินเสียงแคลร้อง ประคองเธอลุกขึ้น บอกให้แคลเอามือกุมปากแผลเพื่อห้ามเลือด มีโจและอลิซคอยยิงคุ้มกันให้
เด็กหนุ่มตะโกนเร่งทุกคนอีกครั้ง เมื่อหางจากเขตแท่งไฟไม่ถึงร้อยเมตร มอลลี่อุ้มลูอิสเข้าไปในคฤหาสน์เป็นคนแรก โดยมีชาวบ้านที่เริ่มออกมากำจัดซอมบี้แต่ก็ยังไม่กล้าออกมานอกบริเวณแสงไฟคอยช่วย
“แข็งใจไว้แคล” ไบรอันเร่งฝีเท้าประคองแคลที่สีหน้าเริ่มไม่ดี
“ขอบใจนะ ไบรอัน” แคลบอกไบรอัน ที่ช่วยเธอไว้
อ้าก ! เสียงผู้ชายตะโกนร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น มันมาจากรถฮัมวี่ เป็นสัญญาณบอกอย่างดีว่าในที่สุดพวกเคลโอก็พ่ายแพ้ให้กับพวกกลายพันธุ์แล้ว
“อลิซ !” โจตะโกนลั่น ผลักอลิซที่ยืนนิ่งสายตาจับจ้องไปยังไบรอันที่กำลังประคองแคลอยู่ให้พ้นจากกรงเล็บที่หมายจะสร้างบาดแผลให้เธอทำให้โจโดนตะปบเข้าจังๆ ที่แขนข้างที่ผลักอลิซออกไป โจกุมมือที่อาบเลือดพลางร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่ออลิซได้สติเธอรีบยิงจัดการทันที
“โจ ฉันขอโทษ” อลิซพูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด พลางมองที่แขนโจที่ชุ่มไปด้วยเลือด
“ไม่เป็นไร ทีหลังอย่ายืนเหม่อสิ ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาฉันจะทำไงล่ะ” โจว่า
“โจ...”
“สองคนนั้นน่ะ รีบเข้ามาเร็วเข้า!” ชาวบ้านตะโกนเรียก ทันทีที่ทั้งคู่วิ่งเข้ามาในเขตแสงพวกซอมบี้กลายพันธุ์ที่ไล่มาก็หยุดชะงักลงและกรีดร้องเมื่อผิวหนังของมันต้องแสงก่อนจะวิ่งถอยห่างออกไปจากบริเวณแสงเหลือแต่พวกซอมบี้ที่เดินเนือยนาดไปมาบนถนน
ประตูรั้วถูกปิดลงทันทีที่ทั้งคู่เข้าไป ชาวบ้านพาทั้งคู่ไปสมทบกับพวกที่เหลือที่เพิ่งเข้ามา ทุกคนอยู่ในห้องพยาบาลที่ถูกปรับแต่งจากห้องๆ หนึ่งในคฤหาสน์
ไบรอันเปิดกล่องวัคซีนของแคล ข้างในบรรจุวัคซีนต้านไวรัสสามหลอด ทุกคนจะมีติดตัวไว้ ยกเว้นไบรอันที่คว้าเอากระเป๋าตัวเองออกมาจากรถไม่ทัน ไบรอันฉีดวัคซีนให้แคลก่อนจะปล่อยให้เธอได้นอนพักผ่อน
“เมื่อกี้เหมือนเธอจะบอกอะไรฉันนะ” โจถามอลิซ
“ไม่มีอะไรหรอก มา เดี๋ยวฉันฉีดวัคซีนให้ ยังไม่อยากมีเพื่อนร่วมทีมเป็นซอมบี้หรอกนะ”อลิซวหยิบหลอดวัคซีนขึ้นมาฉีดให้โจที่นอนอยู่ถัดจากแคลสองเตียงเนื่องจากมอลลี่และลูอิสต่างนอนกั้นกลางไว้
“เธอชอบไบรอันสินะ” โจถามเมื่อเห็นอลิซมองไปยังไบรอันที่เฝ้าดูแลแคลอยู่ เธอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินประโยคที่โจพูดออกมา
“จะบ้ารึไง” อลิซแย้ง
“ผู้หญิงนี่ปากแข็งแบบนี้ทุกคนรึไงนะ”
“เอ๊ะ นายนี่ยังไงกัน” ถึงแม้อลิซจะไม่บอกแต่สีหน้าของเธอก็แสดงท่าทางเขินอายออกมาแม้มันจะไม่มากแต่มันบ่งบอกว่าเป็นเรื่องจริง โจรู้มานานแล้วว่าเธอชอบไบรอันทำให้โจไม่แม้แต่จะกล้าคิดกับเธอเกินกว่าเพื่อนร่วมงาน
“โอเคๆ ฉันไม่พูดดีกว่า” โจว่า
“ใช่ นอนไปเลย ฉันออกไปสูดอากาศข้างนอกดีกว่า” อลิซลุกพรวดออกจากเก้าอี้ ก้าวเดินออกไปแต่ก็ยังแอบชำเลืองมองไบรอันที่ไม่ยอมละสายตาจากแคล
..........
“นี่ ! พวกนายได้ติดต่อไปทางเจคมั่งรึเปล่า?” นอร่าถามขึ้น ทำเอาทุกคนถึงกับนึกได้ว่าพวกเขาแบ่งภารกิจกับเจคไว้ให้หาแคปซูลจากอีกขบวนหนึ่งถ้าไม่เจอให้มาสมทบ
“แล้วรออะไรเล่า ติดต่อไปสิ”นอร่าสั่ง
“ฮัลโหลเจค ทางนายเป็นไงมั่ง” อ๋องถามขึ้น ทุกคนได้ยินกันหมดในวิทยุไร้สาย
“ทางนี้ไม่มีแคปซูลและหัวหน้าพวกมันที่เป็นพวกพิเศษด้วย” เจคตอบกลับ
“งานหนักแล้วไง” เอิร์นพูดขึ้น
“โอเค ว่าแต่นายรู้ทางมาใช่มั้ย” อ๋องถามเพราะตนไม่ได้บอกทางเจคไป
“ผมสะกดรอยตามมาได้สักพักใหญ่แล้ว ไม่นานคงถึง” เจคตอบ
“โอเค รีบตามมาล่ะ ทางเรากำลังไปช่วยทีมสำรวจอยู่”
“ทีมสำรวจ คงไม่ใช่ทีมของ...”
“แคล ดูเหมือนเธอจะเป็นหัวหน้าทีมนะ” อ๋องพูด
“ยัยนั่นเนี่ยนะ ฮ่าๆ คงแปลกน่าดู”
“แปลกไม่แปลกก็มาดูเองแล้วกัน รีบมาล่ะ”
“รับทราบ” เจครับคำก่อนตัดสายไป
“ปัญหาอยู่ตรงหน้าเราแล้วตอนนี้” อ๋องกลับมาพูดกับทุกคน
“เราก็เจอปัญหาตลอดนั่นแหละ” เปาว่า เหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วรถ มุ่งหน้าไปยังทางเหนือของหมู่บ้าน
..........
เสียงระเบิดดังกัมปนาทหน้าคฤหาสน์ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงโลหะขนาดใหญ่หล่นกระแทกพื้น ควันไฟลุกโหม เศษปูนแตกกระจายจากจรวดอาร์พีจี เหล่าผู้รอดชีวิตต่างพากันตกใจออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนตะลึงกับภาพที่เห็น
บรรดาเวรยามที่เฝ้ารอบๆคฤหาสน์ถูกฆ่าตายเรียบโดยกลุ่มคนที่อยู่หน้าประตูรั้วที่พังถล่มลงมา มีชายคนหนึ่งยืนเด่นในชุดทหารสีดำ มีลูกน้องในเครื่องแบบคล้ายๆตนล้อมรอบมองจ้องเข้ามาข้างใน มันเผยยิ้มแห่งความปีติยินดีราวกับตนเพิ่งเจอสถานที่ที่เก็บสมบัติอันล้ำค่า
……….
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in