มนุษย์ครองโลกได้อย่างไร
หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวที่บ่งบอกประวัติศาสตร์ของความเป็นมาของมนุษย์ตั้งแต่ยุคหินจนถึงยุคปัจจุบัน ในรูปเป็นเล่มสีสวยงาม อ่านง่าย และเข้าใจไม่ยาก โดยแบ่งออกเป็นทั้งหมด ๔ เรื่องหลักๆ ได้แก่
๑. มนุษย์เป็นสัตว์
มนุษย์เป็นสัตว์ที่มีความแตกต่างจากสัตว์ทั่วๆไป เพราะมนุษย์สามารถฝึกฝนและเรียนรู้ได้ โดยเฉพาะการเรียนรู้หาอาหาร ใช้ชีวิต และศึกษา แถมจดจำทุกอย่างได้ โดยแยกแยะออกว่า สิ่งไหนควรทำ และสิ่งไหนไม่ควรทำ ซึ่งผิดแปลกไปจากสัตว์จำพวกอื่นๆ ที่ทำตามสัญชาติญาณของความเป็นสัตว์เท่านั้น อย่างเช่น มนุษย์รู้จักใช้ไฟในการประกอบอาหาร และล่าสัตว์ เป็นต้น
๒. อำนาจวิเศษของเซเปียนส์
มนุษย์แบ่งออกเป็นหลากหลายเชื้อชาติและสายพันธ์ แต่มีมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่ดูโดดเด่นกว่ามนุษย์กลุ่มอื่น นั้นก็คือ เซเปียนส์ เพราะมนุษย์จำพวกนี้ดำรงตนอยู่กับคนแปลกหน้าได้ดี โดยการพูดคุยกับคนแปลกหน้า และพึ่งพา ถ้อยที่ถ้อยอาศัยกับคนแปลกหน้าได้อีกด้วย อย่างเช่น มนุษย์สามารถแบ่งปันของโดยแลกของกันได้ อย่างเช่น แมคโดนัลด์ก็ไม่ใช่ของสองพี่น้องอีกต่อไป แต่เป็นของหุ้นส่วนร่วมกัน ดังนั้น แมคโดนัลด์ไม่ใช่ของๆใคร แต่เป็นของร่วมกัน เป็นต้น
สมัยก่อนนั้น เงินเป็นเพียงแค่เศษกระดาษ แต่ก็มีมนุษย์กลุ่มหนึ่ง เริ่มบอกว่า เงินนั้นมีมูลค่า และเงินนั้นเป็นตัวกลางในการแลกและซื้อของมาตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นไป แต่หากเรานำเงินไปให้สัตว์ อย่างเช่น พวกชิมแปนซี สัตว์เหล่านี้ก็มองเงินไม่มีค่าอยู่แล้ว ซึ่งสัตว์เหล่านี้มองว่า เป็นเพียงแค่เศษกระดาษเท่านั้นเอง ก็ไม่ต่างจากลิงได้แก้ว หรือไก่ได้พลอย เป็นต้น
“ระวังตกเป็นทาสของวัตถุนิยม”
๓. บรรพบุรุษเราใช้ชีวิตกันอย่างไร
มนุษย์ยุคหิน ไม่ใช่ มนุษย์ที่นำหินมาสร้างบ้าน มาสร้างอารยธรรม แต่หมายถึงว่า มนุษย์ที่นำหินมาใช้ในการสร้างสิ่งเหล่านี้ซะส่วนใหญ่ และมนุษย์ยุคหินยังเรียนรู้ในการนำหินมาขัดเป็นอาวุธ และก่อเป็นไฟ เพื่อใช้ในหลากหลายวัตถุประสงค์ต่อไป
ในสมัยบรรพบุรุษของเรา มนุษย์รู้จักพูดคุยกับต้นไม้ ใบหญ้า และใช้สิ่งเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์อันสูงสุด ในหลายๆครั้งที่มนุษย์บรรพบุรุษเราคิดว่า มนุษย์นั้นดีที่สุดแล้ว แต่ความจริงก็มีมนุษย์บางจำพวกที่กลับคิดในสิ่งที่แตกต่างไป นั้นก็คือ ทุกคนมีที่ทางของตัวเองในโลกใบนี้ อย่างอิสระและเสรี
๔. สัตว์ทั้งหลายไปไหนกันหมด
มนุษย์เป็นสัตว์ประเภทเดียวที่ทำลายสัตว์อื่นและมนุษย์ด้วยกันเอง ดังนั้น จึงมีสัตว์หลายประเภทได้สูญพันธุ์ไป และส่งผลให้พืชหลายประเภทก็ย่อมสูญพันธุ์ตามกันไปด้วย เพราะตามกฎของธรรมชาติ คือ กฎของถ้อยที่ถ้อยอาศัยกัน อย่างเช่น ช้างต้องกินพืชบางชนิด แต่หากไม่มีช้างกินแล้ว พืชนั้นก็จะสูญพันธ์ในที่สุด เป็นต้น
“สัตว์ที่น่ากลัวที่สุดก็คือมนุษย์นั้นเอง”
มนุษย์นั้นมีอยู่หลายสถาน
อยู่กันนานมานับหลายหมื่นปี
มนุษย์อยู่ได้หลายสถานที่
ปรับตัวดีได้ในทุกสถานการณ์
แถมยังมีความคิดที่แตกต่าง
รู้ว่าบ้างส่วนไหนควรจะสาน
ความคิดต่อไปนานนับกาล
ทุกสถานนับว่ามีมนุษย์เอย
LOOK A BREATHE
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in