“ธุรกิจกับความยั่งยืนของสิ่งเเวดล้อม”
เปรียบราศีกุมภ์ - คนแบกหม้อน้ำ
ธุรกิจกับสิ่งแวดล้อม ดูไม่มีทางเข้ากันได้ แต่พออ่านหนังสือเล่มนี้เสร็จแล้ว ก็เเอบคิดเปรียบเทียบในใจว่า ธุรกิจเปรียบเหมือนคนแบก และสิ่งแวดล้อมเปรียบเหมือนหม้อน้ำ เพราะว่า คนแบกหม้อน้ำพาไป และไม่ได้แบกธรรมดา แต่นำหม้อน้ำที่อยู่ในมือไปรดน้ำต้นไม้ให้สิ่งแวดล้อมดีควบคู่ไปด้วย
เราเคยได้ยินว่า “เคยมีคนๆหนึ่งบอกกับเราว่า ทุกครั้งก็ควรอ่านหนังสือที่ไม่ใช่แนวของเราบ้าง และแบบเป็นแนวที่มีความแตกต่างกันไปบ้าง” ซึ่งครั้งนี้ก็เป็นครั้งสองที่อ่านหนังสือที่ไม่ใช่แนว ครั้งแรกอ่านแล้ว แต่ไม่ได้มารีวิว เพราะเล่มนั้นสุดเกินรีวิวจริงๆ แต่เล่มนี้ถือว่า เป็นหนังสือที่พูดตามความจริงมากที่สุดในโลกนี้
เรามีคำถามว่า “ธุรกิจกับสิ่งแวดล้อมไปด้วยกันได้ไหม” และเพื่อนๆลองคิดดูว่า เพื่อนๆมีคำตอบในใจว่ายังไง แต่สำหรับคำตอบของเรา คือ “ดูเข้ากันไม่ได้” เพราะการทำธุรกิจย่อมเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมไปในตัว อย่างเช่น เราเคยอยู่บริษัทที่ขายอิเล็กทรอนิกส์ และบอกว่า บริษัทนั้นไม่เคยทำลายสิ่งแวดล้อมเลย แต่ความจริงกลับเป็นตัวทำขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างมาก หรือบริษัทที่ไม่มีน้ำมันรั่วไหล ก็กลายเป็นว่า เคยเกิดเหตุการณ์รั่วไหลมาก่อนในอดีต ดังนั้นเราเลยคิดว่า “ไม่น่าเข้ากันได้”
แต่สำหรับ คุณพอล นักสิ่งแวดล้อมและนักเขียนชื่อดังได้มีการอธิบายถึงความเป็นไปได้ของธุรกิจกับสิ่งแวดล้อมว่า สามารถทำไปด้วยกันได้ และไม่เพียงเท่านั้น ทั้งธุรกิจและสิ่งแวดล้อมถ้อยที่ถ้อยอาศัยและพึ่งพาซึ่งกันและกันได้เป็นอย่างดี อย่างเช่น หากธุรกิจตัดต้นไม้ไป ๑ ต้น และธุรกิจก็ปลูกต้นไม้เพิ่มอีกเป็น ๑๐๐ ต้นขึ้นมาใหม่ในที่เก่า เป็นต้น และคุณพอลเสนอเรื่องราวต่างๆมากมาย ดังนี้
๑. ลดการปลดปล่อยคาร์บอนของพลังงานลง ๘๐% และลดการใช้ทรัพยากรทั้งหมด ๘๐% คุณพอลเสนอถึงการลดการปล่อยคาร์บอนที่เป็นตัวทำให้โลกร้อน และเป็นตัวหลักในการทำลายสิ่งแวดล้อม ส่วนทรัพยากรธรรมชาติที่กำลังจะหมดไป ถ้าไม่มีการเพิ่มใหม่ สุดท้าย ประชากรโลกจะเข้าสู่ยุคอดอยาก
๒. จัดให้มีการจ้างงานที่มั่นคง ยั่งยืน และมีความหมายสำหรับทุกคนในทุกที่ คุณพอลเสนอถึงว่า ควรเปลี่ยนแปลงระบบใช้-สร้าง-ขยะ เพราะระบบนี้ทำให้คนตกงานจำนวนมาก และทำให้บริษัทได้คนที่ไม่ตรงกับงานที่ทำอีกด้วย การสร้างคนเป็นสิ่งที่ยาก พอๆกับการสร้างนิสัยรักสิ่งแวดล้อมให้กับคนเหล่านั้น ดังนั้น สิ่งจำเป็นคือต้องหาคนที่มีความคิดเข้าใจและทำสิ่งดีต่อธรรมชาติได้อย่างมั่นคง
๓. จัดการตนเอง เงินหรือวัตถุนิยมเป็นสิ่งสำคัญจริงหรือไหม คุณพอลบอกว่า การใช้เงินให้คุ้มค่าที่สุดเพื่อสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งสำคัญ แต่ไม่ใช่ใช้เงินเพื่อวัตถุนิยม เพราะวัตถุนิยมคือสิ่งที่ตรงข้ามกับธรรมชาติและเป็นสิ่งที่ทำลายธรรมชาติมากที่สุด ดังนั้น การจัดการตนเองต้องทำควบคู่กับศีลธรรมและธรรมชาติไปด้วย คุณพอลบอกว่า “ในปัจจุบัน คนจำนวนมากขาดศีลธรรม จึงทำให้ขาดความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม”
ในหนังสือเล่มนี้ยังมีการสื่อถึงการตลาดอย่างไร้ระบบที่ทำการตลาดควบคู่ไปกับการปกป้องสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนวิถีชีวิตของตนให้อยู่กับธรรมชาติ ฟื้นฟูธรรมชาติ สนุก มีส่วนร่วมในการทำนุบำรุงรักษาธรรมชาติ และสิ่งสำคัญที่คุณพอลให้คำแนะนำคือ อยู่กับรายได้ในปัจจุบัน อย่าเพิ่งคิดถึงอดีตและอนาคต และควบคุมรายได้เหล่านั้นให้ดีที่สุด ซึ่งยังมีอีกหลายสิ่งที่ถูกกล่าวในหนังสือเล่มนี้ ดังนั้น เพื่อนๆลองโปรดอ่านดูท่ามกลางแสงเทียน และเบื้องหน้าเป็นธรรมชาติ สูดหายใจรับอากาศบริสุทธิ์ค่ะ
ยกตัวอย่างเช่น
“คุณไม่สามารถพูดถึงความเป็นธรรมทางสังคมโดยไม่พูดถึงความเป็นธรรมทางสิ่งแวดล้อม คุณไม่สามารถจินตนาการถึงโลกที่มั่งคั่งโดยไม่พูดถึงความมั่นคงทางสภาพภูมิอากาศ”
(จิตวิญญาณของมนุษย์เหล่านั้นย่อมมีสิ่งแวดล้อมมาเกี่ยวข้อง เพราะอย่าลืมว่า เราเกิดมาจากดิน และตายลงสู่ดิน เฉกเช่นเดียวกับการที่คนเราเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเอง แต่ตรงข้ามกับทำลายสิ่งแวดล้อม และเมื่อหากสิ่งแวดล้อมถามได้ ก็คงอยากถามว่า มาทำลายหนูทำไม และจริงอยู่ที่ตัวเงินสร้างความมั่งคั่งให้กับประเทศ แต่กลับกลายเป็นความมั่งคั่งนั้นอยู่ในระบบการทำลายภูมิอากาศ จึงทำให้เกิดน้ำท่วม ภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหวเป็นจำนวนมาก และถามเถิดว่า คุ้มหรอที่เราต้องการแบบนี้จริงๆหรือ)
หนังสือเล่มนี้เคยถูกเผาครั้งแล้วครั้งเล่า เคยถูกไม่ให้อ่าน เพราะกลัวว่าจะเปลี่ยนแปลงความคิดคน และทำให้คนไม่อยู่ในระบบทุนนิยม ซึ่งเราขอบอกว่า หนังสือเล่มนี้มากด้วยคุณค่าอีกเล่มหนึ่ง แต่แล้ว เมื่อได้อ่านจึงเข้าใจว่า หนังสือเล่มนี้มีการอธิบายถึงระบบทุนนิยม และวัตถุนิยมออกมาได้อย่างละเอียด ถี่ถ้วน และรู้ถึงผลเสียออกมาได้อย่างเด่นชัด เพราะเมื่อคุณอ่านเสร็จ คุณจะพบว่า ตัวคุณเป็นส่วนหนึ่งที่หลงลืมสิ่งแวดล้อมด้วยหรือเปล่า
ความยั่งยืนคืออะไรนักหนา
ทุกคนเกิดมาพร้อมกับรักษานี้
รักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรมี
ให้สุขดีหมดทุกข์และกังวล
เมื่อคนเราอยู่กับธรรมชาตินี้
อยู่อย่างดีพร้อมใจและส่งผล
จากการรักทรัพยากรจนน่าสน
และดิ้นร้นจนพบทางสว่างเอย
LOOK A BREATHE
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in