เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Look a Breathe (Series 1 - 2)nimon
#069 ตีความ Spirited Away ในแบบฉบับของเรา

  • ถึง ผู้ติดในจิตวิญญาณทุกท่าน


       หลังจากดูภาพยนตร์เรื่อง Spirited Away หลายรอบ เราได้เรื่องราวหลายอย่างในเรื่องนี้มาก


    เราเข้าใจว่า เรื่องนี้แบ่งเป็นสองโลก ได้แก่

    1. โลกที่เราอยู่

    2. โลกจิตวิญญาณ

       ในความเป็นจริงสองโลกนี้คือ โลกเดียวกัน โดยมีจิตเป็นตัวเชื่อม ที่เราคิดแบบนี้ จะค่อยๆพูดต่อไป


       เรื่องเริ่มต้นที่ตัวเอกของเรื่อง ชื่อ จิฮิโร่ ไม่พอใจที่จะต้องย้ายบ้าน และพ่อไปทางลัดเพื่อจะไปบ้านหลังใหม่ เลยทำให้เจอโลกจิตวิญญาณ


    "เราดูแล้วเข้าใจว่า โลกที่เราอยู่ตอนแรก คือ จิตที่หลงติดอยู่ในอดีตและอนาคต (จิฮิโร่ติดในอดีตและกลัวสิ่งที่จะเกิดในอนาคต) ส่วนโลกจิตวิญญาณคือ จิตที่ระลึกอยู่ในปัจจุบัน ถ้าหากเราหลงทางในจิต มันก็จะผิดทางได้ ถ้าเรารู้เท่าทันจิต มันก็จะมาถูกทางได้"



       คราวนี้ พ่อแม่นางเอกกินอาหารจนกลายเป็นหมู เราว่า นี่คือเริ่มต้นของสิ่งแรกในใจมนุษย์ คือ ความโลภ 


    "ความโลภมันถูกครอบงำได้ง่ายในทางจิต โดยที่เราอยากได้ อยากมี อยากเป็น (เช่น อยากกินโดยไม่ขออนุญาต) และมีวิญญาณมาเฆี่ยน ซึ่งคิดว่า วิญญาณนี้ คือ ความตระหนักรู้ ถ้าคนเรารู้จักตระหนักแต่แรก ก็จะไม่ปล่อยให้ความโลภครอบงำจิตใจ"



       หลังจากนั้น จิฮิโร่ เจอฮาคุ ที่สะพาน ฮาคุสะกดทุกอย่างและพยายามให้ จิฮิโร่หนีไป แต่ไม่สำเร็จ ฮาคุ คามิจิและรินช่วยให้จิฮิโร่ไปหายูบาบะ เพื่อของานทำ ซึ่งเจ้าแม่มดตัวนี้ยอมแต่จิฮิโร่ต้องถูกริบชื่อ


    "สำหรับเรา เราว่า ยูบาบะ คือ มารในใจ เป็นมารที่เรียกว่า ตัวหลง ซึ่งจะหลงผิด หลงว่า ตัวเองเก่ง ตัวเองดีไปหมดนำเราหลงทาง ส่วนชื่อที่ถูกริบไป คือ ใจที่หายไป"


       ฮาคุมาปลุกจิฮิโร่ตื่นและเอาชื่อของจิฮิโร่ให้เก็บไว้


    "การที่ฮาคุเอาชื่อมาให้ มันคือการกระตุ้นความตระหนักรู้ในใจของจิฮิโร่"



       เรื่องดำเนินต่อไป จนจิฮิโร่หรือเซ็นไปเจอ คาโอนาชิ และเจ้าผีไร้หน้าตัวนี้ชอบจิฮิโร่ แต่เมื่อจิฮิโร่ไม่รับรักก็โกรธจนกินคนไปทั่ว


    "คาโอนาชิ คือ ตัวแทนความโกรธ อะไรที่ไม่พอใจ ก็จะฟัดเหวี่ยงไปทั่ว จะกลืนกินทุกอย่างเข้าไป เหมือนกับคนโกรธที่กลืนกินเรื่องไม่ดีไปหมด เป็นตัวที่เห็นง่าย ใครเห็นก็รังเกียจคนขี้โกรธ เพราะมันแสดงออกได้โดยง่าย"



       จิฮิโร่ก็จะต้องหาทางช่วยฮาคุที่ถูกทำร้าย โดยเอาตราประทับไปคืน เซนิบะ ซึ่งคือ แม่มดอีกตัว ที่เป็นพี่น้องกันกับ ยูบาบะ เลยได้ออกเดินทางพร้อมกับลูกของยูบาบะที่ถูกสาปและคาโอนาชิ เพื่อจะไปยังปลายทางคือ บ้านของเซนิบะ


    "เซนิบะ คือ ตัวแทนของความไม่หลง ไม่หลงผิดทาง และตราประทับ คือ ความระลึกรู้ ไม่ให้เราหลงผิด ติดในความโลภ หรือทุกข์จากความโกรธ และลูกของยูบาบะถูกสาป เพราะว่า เมื่อระลึกรู้แล้วว่า เราใหญ่ (หลงผิด) เราก็จะเล็กในที่สุด"



       เมื่อคืนของเสร็จแล้ว คาโอนาชิจะขออยู่กับ เซนิบะต่อไป ส่วนจิฮิโร่กลับพร้อมฮาคุ


    "คาโอนาชิที่กลับกลายเป็นร่างเดิมและเป็นคนดีในที่สุด เหมือนกับหลุดพ้นจากความมีตัวตนแล้ว การหลุดพ้นจากทั้งหมดเลยได้พบว่า จริงๆแล้ว ไม่มีตัวตนนี่เอง"


       ในขณะนั้นเองจิฮิโร่ก็จำได้ว่า ฮาคุที่เป็นมังกรมารับ เป็นสายน้ำที่ตัวเองเคยตกไปตอนเด็ก


    "การที่ฮาคุเป็นมังกรและสายน้ำ เปรียบเหมือนกับว่า มังกร คือ ตัวทุกข์กับสุข เมื่อเราจับหัวมัน มังกรก็นิ่งเหมือนสุขแต่จับนานไป มันก็จะพ่นไฟหรือกัดเราได้ ก็คือ ทุกข์ ส่วนสายน้ำเปรียบเหมือน ความทุกข์สุข คือ สายน้ำที่ผ่านมาก็ผ่านไป ไม่มีสายน้ำไหลจะไหลกลับคืนมา หรือไม่มีทุกข์สุขใดจะอยู่นาน"


       หลังจากนั้น ยูบาบะก็ทำตามสัญญาโดยจะปล่อยจิฮิโร่ ให้จิฮิโร่เลือกว่า หมูตัวไหนคือ พ่อแม่ตัวเอง จิฮิโร่ตอบถูกว่าไม่มี เลยสำเร็จ


    "การเปรียบว่า การที่ไม่มีหมูในหมู่นี้ หมายความถึง ความหลงทางผิด ถ้าหากเราเลือกผิดอีกครั้ง ก็จะกลับไปอยู่ในหลงผิด (อยู่ภายใต้การควบคุมของยูบาบะ) อีกครั้ง"



       ฮาคุสัญญากับจิฮิโร่ว่าจะออกไปเจอกัน และจิฮิโร่กับพ่อแม่ได้เดินออกจากโลกนี้ไปสู่โลกที่เราอยู่หรือโลกมนุษย์นั้นเอง


    "การเดินออกจากโลกจิตวิญญาณนั้นคือ การเข้าใจเรื่องราวในจิตใจเรามากขึ้นแล้ว ว่า เราต้องระลึกรู้อยู่กับปัจจุบันจะไม่หลงทางกลับไปในโลกจิตวิญญาณอีก และอยู่กับปัจจุบัน (โลกที่เราอยู่หรือโลกมนุษย์) โดยมีจิตเป็นตัวเชื่อมผ่านสติ"


    "หรืออีกนัยนึงที่คิดคือ การออกจากโลกวิญญาณนั้น คือ การหมดตัวตนแล้ว ไม่เหลืออะไรให้หลงผิดได้อีก"


    "เรื่องนี้ มีสะพานเป็นตัวเชื่อมการเข้าออก เราคิดว่า คือ ความระลึกรู้ ตามกฏไตรลักษณ์ ได้แก่ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตานั้นคือ ความทุกข์ ความไม่เที่ยง และความไม่มีตัวตนนั้นเอง"


       ทั้งหมดนี้ คือ สิ่งที่เราคิดว่า ได้จากเรื่องนี้ เพราะสุดท้าย ความทุกข์นั้นมันเกิดขึ้น เมื่อรู้ต้นเหตุของทุกข์ ความทุกข์ก็หายไป


    *** เราชอบเรื่องราวนี้มาก ดูกี่ครั้งก็จะได้อะไรไม่เหมือนกัน ***

    "ความทุกข์นั้นเมื่อมีเกิดขึ้นแล้ว

    ย่อมไม่เเคล้วสักวันก็ห่างหาย

    ความสุขก็เข้ามากล้ำกราย

    แต่อย่าหลงกลจนสุขจนมลายไป"

                                              -- Look a Breathe --

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in