เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Look a Breathe (Series 1 - 2)nimon
รากแก้ว [หนังสือทำเป็นละครช่อง ๓]
  • ณ ห้องสมุด เดือนรากแก้วหยั่งถึง


         คุณตัดสินใจเดินทางเข้าไปที่บ้านเห็ด บ้านของห้องสมุดแห่งหนังสือแห่งนี้ คุณจึงตัดสินใจค่อยๆเดิน ค่อยๆดู และค่อยๆอ่าน ก่อนจะเลือกหนังสือเล่มนี้กลับบ้าน พร้อมของสมนาคุณพิเศษจากทางร้าน


    “รากแก้วหยั่ง ลึกถึง สิ่งใดไหน

    ความทุกข์ได้ นำพา ความสุขใส

    ชีวิตของ ผู้หญิง ต้องเปลี่ยนไป

    เพราะพบได้ ว่าทาง ไม่ดำเนิน”


    เรื่องราวของของตัวละครและสังคม


         โรยทองทราย รังรอง ชารวี กิดา และ ริบดิน ทุกคนมีความเป็นรากแก้วที่แตกต่างกันไป การเลี้ยงดูที่ต่างสิ่งแวดล้อม การพรวนน้ำ ลงดินและปุ๋ยที่แตกต่างกันไป จึงทำให้การแสดงออกของทุกคนต่อสังคมเป็นเฉกเช่นนี้ ซึ่งไม่มีใครสามารถให้โทษแก่กันได้ เพราะการเลี้ยงดูเหล่านั้น นำพาให้ทุกคนเดินทางมาสู่จุดนี้และคงจะสิ้นสุดลงสักจุดหนึ่ง


         หนังสือเล่มนี้ตีแผ่สังคมและทำให้เราต้องมองเห็นเด็กที่เอาแต่ใจตัวเอง ผู้ใหญ่ที่พูดจากันไม่รู้เรื่อง หรือคนที่กลัวเสียทุกเรื่องว่า เบื้องหลังของคนเหล่านี้อาจจะจมอยู่กับความทุกข์ที่ไม่เหลือสุขในชีวิตเลยก็ได้ ดังนั้น คนเหล่านั้นจึงต้องจำเป็นแสดงออกมาแบบนี้ และทำให้ฉันเข้าใจว่า อย่าไปรำคาญคนแบบนี้เลย ปล่อยๆเขาไปเถิด เพราะชีวิตคนเหล่านั้นก็คงทุกข์พอควร ถึงแสดงออกมาแบบนี้


    เรื่องราวของหนังสือเล่มนี้เริ่มต้น


         เมื่อโรยทองทรายได้รู้ว่า รังรอง ผู้หญิงผู้อุปการะเธอเป็นเลสเปี้ยน ทำให้เธอตั้งใจที่จะทำตัวประชดชีวิตตัวเอง โดยไปแย่งผู้ชายอย่างชเยนทร์มาจากเพื่อนสนิทที่ชื่อเจนจิตของเธอ แต่แล้ววันหนึ่ง ขณะที่เธออยู่กับชเยนทร์ เธอพบกิดากับมิสเตอร์ยังค์โดยบังเอิญ และมิสเตอร์ยังค์ก็พยายามอบรมสั่งสอนเธอ แต่เธอเลือกที่จะฟังแบบผ่านๆ


         เธอกลับบ้านไปพบกับรังรองก็ทำให้ความรู้สึกรังเกียจที่เธอมีต่อรังรองมากขึ้น ถึงแม้ว่า รังรองจะพยายามเอาใจเธออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่เธอก็สุดที่จะทนรับพฤติธรรมของรังรองได้ เเต่เธอยังรู้สึกดีที่ได้เจอชารวี ได้รู้จักชารวี เพราะชารวีมอบความเมตตาและกรุณาให้กับเธอ จนกระทั่งวันหนึ่ง ชารวีได้ไปตามสามี นั้นก็คือ กิดาทำให้ทรายตัดสินใจหนีขึ้นเครื่องบิน จะบินไปหามิสเตอร์ยังค์และชารวีที่เชียงใหม่ แต่เธอก็ได้พบกับดินโดยบังเอิญ


         เมื่อดินเจอกับทรายก็ดันตกหลุมรักแต่แรกพบ และเขาก็ชวนเธอขึ้นรถ เพื่อไปส่งยังสวนสัตว์ของมิสเตอร์ยังค์ แต่สุดท้าย เขาชวนเธอมาทำงานด้วย ซึ่งเธอยินยอม และดินเกือบจะขืนใจทราย แต่ก็ไม่ได้ขืนใจ ทำให้ทรายสับสนและหวาดกลัวผู้ชายขึ้นมา แต่เธอก็ยังทำงานอยู่กับดิน จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอก็พบกับกิดาโดยบังเอิญ และด้วยความอ่อนโยนของกิดา ทำให้เธอเกือบเลือกเดินทางผิด คือ เป็นเมียน้อยของกิดา


         ทรายเจอสถิตย์ สามีของอุทุมพร และคุยกันอย่างสนิทใจ และได้เรียนรู้ความพอดีในบางอย่างจากสถิตย์ จนกระทั่งวันหนึ่ง ทรายถึงมารู้ว่า สถิตย์คือสามีของอุทุมพร ลูกน้องของรังรอง และตอนนี้ก็คือคนที่ทรายต้องมาอยู่ด้วย อุทุมพรนั้นดูแล เอาใจใส่ และใจเย็นกับทรายอย่างมาก จนทำให้ทรายเป็นผู้เป็นคนขึ้น เพราะรากแก้วนี้เริ่มค่อยๆเรียนรู้อะไรหลายอย่างแล้ว


         ส่วนชารวี เมื่อรู้จากรังรองว่า ทรายคิดไม่ซื่อ เธอก็คิดว่า จะยอมปล่อย แต่ท้ายสุด เธอตัดสินใจหางานให้ทรายทำเป็นคุณครูสอนเด็กเหมือนกับเธอ เพื่อให้ชีวิตของทรายดีขึ้น และเมื่อทรายได้เป็นครู ทรายก็ได้เรียนรู้ชีวิตในอีกแง่มุมหนึ่ง จึงทำให้ทรายตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่า ทรายจะไม่นำชีวิตของตัวเองเข้าไปอยู่ในชีวิตของใคร และทรายตัดสินใจที่จะยืนด้วยลำแข้งของตัวเองในที่สุด


         เรื่องราวในครั้งนี้จบลงอย่างที่ไม่มีใครคู่กัน มีแต่เพียงความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจกัน ในตอนจบ จะมีเด็กคนหนึ่งต้องเสียชีวิตไปเพราะความสะเพร่าของทราย และเพราะเรื่องนี้ทำให้ทรายคิดได้ในที่สุดว่า เธอควรดำเนินชีวิตแบบไหน รังรองตัดสินใจปล่อยทรายไปตามทางของทราย ชราวีกับกิดาเข้าใจกันเพราะทรายผสานรอยร้าวในที่สุด ดินตัดสินใจออกจากชีวิตทรายอย่างถาวร สถิตย์ตัดสินใจเลิกเหล้าและเป็นผู้เป็นคน ส่วนอุทุมพรก็ตัดสินใจอยู่กับทรายต่อไป อาจไม่ตลอดไป แต่ถือว่า อุทุมพรช่วยให้รากแก้วอย่างทรายแข็งแรงและแข็งแกร่งได้ในที่สุด


    {คนเราทุกคนย่อมมีรากแก้วเป็นของตัวเอง

    และรากแก้วจะแข็งแรงหรืออ่อนแอ ก็ขึ้นกับสภาพแวดล้อม

    การเลี้ยงดูแบบรดน้ำ พรวนดินแบบไหน

    ถึงทำให้รากแก้วนี้เป็นเช่นนี้ และอย่างไรก็ตาม 

    สำคัญตรงว่า รากแก้วนี้จะดีได้ก็อยู่ที่ตัวทำด้วย}


    ละครไทย เรื่อง รากแก้ว



         อย่างที่รู้ๆกันว่า หนังสือของอาจารย์กฤษณา อโศกสินที่นำมาทำเป็นละคร ย่อมทำไม่เหมือนกับหนังสือ และบางทีก็นำมายำกันมั่วจนเข้าทางผู้จัดกันทีเดียว และแปลกตรงว่า อาจารย์กฤษณาก็ไม่ได้ว่ากล่าวตักเตือนผู้จัดเหล่านี้ด้วย ซึ่งคงไม่ต่างกับอาจารย์ชูวงศ์เช่นกัน เรื่องนี้ก็ไม่ต่างกัน แต่เรื่องนี้มีความสนุก ตรงที่เราพยายามเชียร์ให้ริบดินกับทรายคู่กัน รักกัน เพราะดูท่า ริบดินจะเข้าใจทรายที่สุด ความเหมือนจากการถูกครอบครัวไม่เอาใจใส่ อบรมบ่มเพาะจนริบดินเป็นแบบนี้ ส่วนการเลี้ยงดูของทรายนั้นย่อมนำพาให้ทรายทนกับรักผิดๆครั้งนี้ไม่ไหวของรังรองจริงๆ แล้วยังมีกิดาเข้ามาให้ทรายสับสนอีก เรื่องราวในครั้งนี้จะจบลงแบบไหนก็ติดตามดูในละครล่ะกัน


    ความสำคัญต่อพรหมวิหาร



         “พรหมวิหาร” เปรียบกับหลักธรรมสำหรับผู้เลี้ยงดูทุกรากแก้วให้มั่นคงและคงยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งปรากฎทั้งหมด ๔ อย่าง ได้แก่

    ๑. เมตตา คือ ความปรารถนาดีอยากให้เขามีความสุข

    ๓. กรุณา คือ ความหวังดีอยากให้เขาพ้นทุกข์                

    ๕. มุทิตา คือ ความยินดีเมื่อเขาได้ดี

    ๗. อุเบกขา คือ ความวางใจให้เป็นกลาง                

         เพราะใจดวงเดียวที่ทำให้รังรองและทราย (หรือมนุษย์คนอื่น) ทุกข์ได้ถึงขนาดนี้ ใจที่หลงผิด ใจที่ขาดพรหมวิหารทั้งสี่ จึงทำให้รากแก้วนี้เกือบจะแย่อยู่หลายครั้ง เพราะการเดินทางที่ผิด แต่เมื่อรากแก้วนี้พบทางที่ดีแล้ว การปรับปรุงตัวและแก้ไขข้อไม่ดีของตัวก็นำพาให้ตัวเองโตอย่างแข็งแรงและเข้มแข็งด้วยตัวของตัวเองได้ในที่สุด


    [หนูขอบอกพรหมวิหารว่า

    “หนูตั้งใจฝึกฝนให้มีประจำตัว”]


    LOOK A BREATHE

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in