หนังสือเรื่องพรหมลิขิต
ความหลังสำหรับหนังสือเล่มนี้ หลังจากที่เรารู้ว่ามีเล่ม 2 เราตัดสินใจไปสั่ง Pre-Order และรีบมารับสินค้าก่อนอ่าน แต่เรากลับรู้สึกผิดหวังอย่างบอกไม่ถูก หนังสือไม่ว้าว เหมือนตอนอ่านบุพเพสันนิวาส เพราะเรารู้สึกว่า ถูกจำกัดในเรื่องที่จะต้องทำเป็นละคร เลยมีตัวร้าย มีนู่นนี้เพิ่มเข้ามา แถมยังมาหน้าเหมือนกันอีก ก็เลยรู้สึกสับสนหลายอย่าง แต่ถ้าถามว่า “หนังสือเล่มนี้ไม่มีความสนุกเลยหรือ” ก็คงตอบได้ว่า “ไม่ใช่” แต่ถ้าบอกว่า “รู้สึกอย่างไร” เราตอบได้เลยว่า “รู้สึกเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนเลย คือแบบเหมือนนำของเก่ามาเล่าใหม่ในรัชสมัยใหม่แค่นั้นเองเท่านั้น” |
พรหมลิขิตที่กำลังมาฉายทางช่อง 3
“เมื่อพรหมลิขิตบันดาลชักพา”
หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับทุกคนที่อ่านเล่มแรกอย่างบุพเพสันนิวาสแล้ว ไม่งั้นก็อาจจะเกิดความสับสนได้ว่า “คุยเรื่องอะไรกัน” แต่ถ้าเพื่อนๆไม่อยากอ่านบุพเพสันนิวาส ก็อ่านรีวิวของเราก่อนได้ค่ะ และค่อยมาอ่านรีวิวเรื่องนี้ทีหลังค่ะ
“ใจฉันเอ๋ยล่องลอยเหนือเวหา
ชีวิตลาภพเก่ามาภพใหม่
เดินจากลาอนาคตไป
สู่อดีตได้ปัจจุบันมี”
ตัวละครในพรหมลิขิต
ในขณะที่พุดตานกำลังจัดสวน เธอพบกับมนตร์กฤษณกาลีโดยบังเอิญ และเมื่อเธอสัมผัสกับมันเข้า เธอถูกดูดเข้าไปและย้อนอดีตไปในรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ และถูกลูกถีบเต็มรักจากหมื่นริดที่มาขุดนำมนตร์กฤษณกาลีไปเก็บที่อื่น และใช่ เมื่อเธอถูกถีบ เธอก็ช็อกไม่เท่ากับที่ถูกขโมยสมุดข่อยที่จะพาเธอกลับไปเท่านี้ และหมื่นริดก็คงไม่ช็อกเช่นกันว่า เธอหน้าเหมือนเเม่ของเขาอย่างมาก
และเธอมาอาศัยอยู่กับกุยที่เป็นคนเช่าที่ในบ้านของหมื่นริด เมื่อเธออาศัยอยู่ที่นี้ เธอก็พยายามปรับตัวโดยการขายสากกะบือยันเรือรบ ไม่ว่าทำสวน ปลูกผัก ทำอาหาร ขายเครื่องสำอาง คือ แทบเปิดบริษัทครบสูตรในยุคนี้เลยทีเดียว
ตัวละครเดิมที่มาจอยกันในภาคนี้
ในขณะนั้นเองที่เธอดันบังเอิญเจอขุนหลวงโดยบังเอิญ และขุนหลวงก็บังเอิญเอ็นดูเธอ ซึ่งทำให้เธอก็ต้องเจอกับหมื่นริดที่จริงๆแล้วตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นก็ชอบแวะเวียนมาหาเธอและแอบหึงหนุ่มๆที่มาจีบเธอ ตอนนั้นเองที่หมื่นริดกับยอร์ช ลูกของแม่มะลิไปจับกบฎพระองค์ดำกัน และยอร์ชถูกฆ่าตาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้หมื่นริดเสียใจอย่างมาก
พุดตานไปแสดงความกล้าต่อหน้าตลาดโดยบุกไปทวงสมุดข่อยเล่มนั้นกับหมื่นริด แต่หมื่นริดบอกว่า ต้องรอถึง 6 เดือน เพราะเรืองเอาไปที่อื่นแล้ว เพื่อไม่ให้เเม่เขาจับต้องสมุดเล่มนั้น ดังนั้น เธอตัดสินใจว่าจะรอก็ได้ เพราะตอนนี้เธอก็เริ่มปรับตัวได้แล้ว
คู่พระนางก็คนเดิม
เกศสุรางค์ในร่างแม่การะเกดเลยวางแผนกับแม่จันทร์วาดให้นำขนมหวานของแม่มะลิไปให้ขุนหลวงทาน ดุจดั่งที่ขุนหลวงเรียกให้พุดตานส่งอาหารมาให้ทาน และขุนหลวงเข้าใจถึงเรื่องที่เกศสุรางค์ต้องการสื่อ เลยเลื่อนขั้นแม่มะลิเป็นท้าวตองกีมาร์ เพื่อให้เธอไม่ลำบากเกินไป
และเมื่อเกศสุรางค์รู้จากพี่เจิมก็พบว่า “สงสัยว่า พุดตานกับเธอเป็นญาติกัน” และเมื่อความจริงปรากฎคือ เธอทั้งสองเป็นญาติกันจริงๆ แต่มันก็ญาติกันในสมัยก่อนนู่นเมื่อนานมาเทียว และเกศสุรางค์ก็ยังพบว่า แม่เธอบวชีและอยู่เย็นเป็นสุข ส่วนพระเรืองก็ยังบวชอยู่เช่นกัน แถมพุดตานก็ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนกับใครในโลกอดีต เพราะเธอช่างแรงมาก็เเรงไป โดยเฉพาะเธอแรงกับกลิ่น หลานสาวยายกุยที่แรงกับเธอมากเช่นกัน โดยที่เธอก็โดนแกล้ง แต่เธอไม่ยอมฝ่ายเดียว เธอก็ทำกลับด้วย
บรรยากาศเรื่องพรหมลิขิต
ส่วนหมื่นริดนั้นหรือก็รักพุดตานมาก พุดตานก็เล่นด้วยอยู่หรอก แต่เธอก็ไม่ยินยอมที่จะเป็นเมียรองของใคร ดังนั้น เธอไม่ยอมที่จะยุ่งกับหมื่นริด เมื่อรู้ว่า เขามีคู่หมั้นหมายเป็นแม่หญิงแพรจีน และแม่หญิงเเพรจีนก็แผลงฤทธิ์ รวมถึงศัตรูคนที่คุณก็รู้ว่าเป็นใคร ก็โผล่มาทำลายสวนของพุดตาน
แต่สุดท้ายหมื่นริดก็ตัดสินใจที่จะแต่งงานกับพุดตานให้ได้ ถึงแม้ว่า เธอจะเป็นไพร่ก็ตาม และพุดตานขอหมื่นริดสัมผัสมนตร์กฤษณะกาลีก่อน ที่วิญญาณเธอจะหลุดจากร่างจนได้พบกับคนที่สร้างมนตร์กฤษณะกาลีขึ้นว่า ที่แท้เป็นพ่อของเธอในชาติก่อนที่เธอเป็นเจ้าหญิงอาทิตยา และเธอก็หนีกับหมื่นริดไป เธอกับเกศสุรางค์มีกรรมร่วมกันกับศัตรูของเธอที่ตบตีกัน และเธอตัดสินใจขอเลือกกลับไปที่อยุธยา ไม่กลับไปที่กรุงเทพฯ หาป้าเธอ และเธอได้กลับมาหาคนรักเธอ เพื่อร่วมกันกับเกศสุรางค์ชดใช้กรรมกันต่อไป
ก่อนที่จะจบจริงๆ ก็มีจดหมายจากเกศสุรางค์เขียนว่า เธอต้องเตรียมพร้อมหนีสงครามกลางเมืองที่จะเกิดขึ้นหลังจากพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระเสด็จสวรรคต และเดี๋ยวจะมีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศไม่ยอมมอบบัลลังก์ให้ จึงเกิดแย่งชิงสมบัติกัน ก่อนจะมีการสำเร็จโทษเจ้าฟ้าอภัย และหลังจากนั้นไม่นาน ก็เริ่มจะเข้าสู่ยุคการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ซึ่งเธอก็ยินยอมว่า ลูกๆเธอจะเลือกเข้าข้างใคร
หนังสือหลังปกของเรื่องพรหมลิขิต
หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่อ่านได้เรื่อยๆมาเรียงๆและมีการที่บอกถึงว่า พุดตานมาจากสมัยพ.ศ. 2569 และยังมีเรื่องที่เธอไม่กล้าพูดถึงการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เพราะเนื่องจาก เธอไม่อยากให้เกศสุรางค์จดจำความเศร้านี้
และจะมีการพูดคุยถึงเรื่องราวเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้เรานึกถึงท่านขึ้นมาว่า “ทำไมทั่วโลกถึงชื่นชมท่าน ทำไมจักรพรรดิ์ทั่วโลกเคารพรักท่าน เพราะท่านเป็นสุดยอดบุคคลที่เราเคารพรักและอยู่ในใจเราตลอดไป และเราที่เป็นคนไทยคนหนึ่งหรือคนไทยอีกหลายคนก็ยังรักและเคารพท่านเช่นกันและเช่นเดิม เราขอยืนยันว่า จะไม่มีสิ่งใดมาเปลี่ยนแปลงความรักและความเคารพท่านออกจากใจดวงนี้ได้”
รอดูละครต่อไปค่ะว่า ออกมาเมื่อไหร่ค่ะ
“เมื่อบุพเพสันนิวาสบันดาล พรหมลิขิตบันดล
ทุกคนก็กลับมาพบกันได้”
Look A Breathe
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in