หนังสือนิทานฉบับบางที่แฝงไปด้วยเรื่องราวที่สุดแสนสะพรึง
“แล้วทำไมใครเขาว่าดี
ชีวิตนี้ใครเป็นผู้กำหนด
ไม่มีใครเป็นผู้หักเลี้ยวลด
คงไม่คดหากทักตัวด้วยมือตัว”
หนังสือเล่มนี้ เราขอบคุณ คุณ Sakunya ที่มาบอกเราในแชทว่า “ซื้อหนังสือเเล้วแถมเล่มนี้” ผ่านเพจกิ่งฉัตรนี้ เราได้หนังสือเล่มนี้มาครองค่ะ และไม่ผิดหวังเลย เพราะอกจะแตกแน่ ถ้าไม่ได้อ่านค่ะ
ครั้งแรก เราจะนำหนังสือเดอะเฮเวนมาปิดท้ายเดือนนี้ แต่หนังสือเล่มนั้นก็ดาร์กเกิน เราเลยหาหนังสือแนวดาร์กน้อยกว่ามาปิดแทนก็คือเรื่องนี้ และเป็นหนังสือเเนวนำนิทานชื่อดังมาเล่าในมุมมองใหม่ให้สนุกขึ้นกว่าเดิมด้วย แถมเราอยากแบ่งปันเรื่องเล่าให้คนที่ไม่มีหนังสือไว้อ่านด้วยค่ะ
“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
(Once Upon A Time)”
ภาพส่วนหนึ่งของนิทานชื่อดังที่นำมาดัดแปลง
เทพธิดาหิมะขาวทั้งภาคเหนือและภาคใต้ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี โดยเทพธิดาหิมะขาวภาคเหนือมีนิสัยอิจฉา ริษยาแม่เลี้ยงผู้แสนดีของตนเอง จึงวางแผนฆ่าแม่เลี้ยงตัวเอง ก่อนตัวเองถูกเนรเทศ ส่วนเทพธิดาหิมะขาวภาคใต้ผู้อ่อนโยนกำลังถูกแม่เลี้ยงผู้ใจร้ายกำจัด จึงออกอุบายให้องครักษ์หนุ่มสังหารแม่เลี้ยง เพื่อจะได้เป็นพระราชาก่อนที่ตัวเธอจะออกอุบายกำจัดพระราชาองค์ใหม่เสีย และเเบ่งสมบัติครึ่งหนึ่งให้ผู้ร่วมกำจัดก่อนจะปกครองประเทศอย่างสุข
“เพราะมารดาเรากระซิบกับเราก่อนตายว่า
ถึงจะเป็นคนดีแต่ก็ไม่ต้องดีตอบกับผู้ที่คิดร้ายเรา
และอย่าเก็บคนทรยศเจ้านายไว้ใกล้ตัว”
- หน้า ๑๘ -
เจ้าหมาป่าหนุ่มหลงในความงามของหนูน้อย และหนูน้อยอยากได้เจ้าหมาป่าขนแแดงเพลิงมาทำชุดให้ตัวเองสวมใส่ หนูน้อยตัดสินใจวางอาหารให้หมาป่า หมาป่าประมาทก็ทานอาหารจนมื้อสุดท้ายมาถึง หนูน้อยฆ่าหมาป่าทิ้ง แล่เนื้อแจกจ่ายทุกคน ก่อนตัดหัวมาทำเป็นหมวกแดง และถลกหนังทำเสื้อคลุมสีแดงให้ตัวเองสวมใส่
“ความประมาทและลุ่มหลงเป็นหนทางสู่ความตาย”
เด็กหญิงขายไม้ขีดไฟอยู่กับพ่อเลี้ยงใจร้าย วันหนึ่งในขณะที่กำลังจุดไม้ขีดไฟและคิดถึงเรื่องราวอันแสนอบอุ่นอยู่นั้น ตัวเธอกำลังจะจุดอันสุดท้ายเพื่อไปหาย่าเธอ แต่เธอก็นึกขึ้นได้ว่า ย่านั้นแสนขี้บ่น เธอสู้ตัดสินใจใช้ไม้ขีดไฟนี้ให้เกิดประโยชน์โดยเผาบ้านที่พ่อเลี้ยงเธออยู่แทนจะดีกว่า และเธอก็ตัดสินใจทำแบบนั้น
“เหตุดี ผลย่อมดี เเละเหตุร้าย ผลย่อมร้าย
ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว”
นางฟ้าสามตนมาปรากฎแก่เจ้าหญิงตัวน้อย แต่นางฟ้าผู้ขยันเป็นนางฟ้าที่น่าเกลียดที่สุด พระราชาผู้โง่เขลาเลยบอกว่า อย่ามาแตะต้องตัวลูกข้า นางฟ้าขยันนั้นเลยสาปให้เจ้าหญิงน้อยเป็นคนขี้เกียจ เจ้าหญิงขี้เกียจมากจนไม่เป็นอันทำกิน เพราะเอาเเต่ขี้เกียจ สุดท้ายพ่อแม่ก็เสียเพราะโรคระบาดและประชาชนก็หนีไปเมืองอื่น ส่วนตัวเองก็ขี้เกียจจนหลับไป วันหนึ่งมีเจ้าชายผู้ขัดสนคนหนึ่งผ่านมาก็ตัดสินใจจุมพิตเจ้าหญิง ก่อนที่เจ้าหญิงจะตื่นขึ้นมาเป็นเถ้าถ่าน และกลายเป็นทรายทองคำ และเจ้าชายผู้ขัดสนก็ดีใจขนทองกลับบ้านเกิดตัวเอง
“ดูถูกความขยันเหมือนดูถูกตัวเอง”
เจ้าหญิงเงือกได้ช่วยเจ้าชายคนหนึ่งไว้และหลงรักเขาอย่างหัวปักหัวปำ พ่อประทานขาให้และบอกว่า ต้องให้เจ้าชายบอกรักให้ได้ แต่วันแล้ววันเล่า เจ้าชายไม่ยอมบอกรักไม่พอ แถมยังจะแต่งงานกับเจ้าหญิงต่างเมืองอีก ดังนั้น เมื่อเจ้าหญิงเงือกถามเจ้าชายว่า “รักหม่อมฉันไหม” เจ้าชายตอบเลี่ยงว่า “หัวใจฉันจะเป็นของเธอ” เจ้าหญิงเงือกก็ฆ่าเจ้าชายทิ้ง โดยควักหัวใจของเขาไปใส่ในเปลือกหอยและกลับไปยังท้องทะเลด้วยกัน
“ปากหมอตายเพราะปาก
เพราะเอาแต่ดีทางพูดแต่การกระทำตรงข้าม”
หนังสือหลังปกของเรื่องนิทานเกาะเมืองอกแตก
หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือแนวที่อ่านแล้วสุดเพลินกับความสนุกและตื่นเต้นที่รออยู่ทุกๆบท และเเทบไม่ต้องเดาเลยว่า คือ เรื่องราวของใคร เพราะเป็นนิทานที่เราคุ้นเคยอยู่แล้ว แต่เกาะสวรรค์ทั้งหลายที่ปรากฎในเรื่องก็กลายเป็นเกาะนรกได้เพราะจิตใจของคนเท่านั้นเอง
หนังสือเล่มนี้ดูเหมือนดาร์กแต่จริงๆแอบแฝงข้อคิดมากมาย บางครั้งเมื่อเราตื่นขึ้นมามองโลกตามความเป็นจริงบ้างก็ไม่เสียหายอะไร เพราะโลกนี้ไม่ได้มีแต่ส่วนสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่มีส่วนขี้เหร่ด้วย ดั่งเหรียญมีสองด้าน เราต้องมองโลกหลาย
“พื้นฐานของมนุษย์ คือ
จิตใจที่ดีงาม และตามด้วยคำพูด
และการกระทำที่ดีงามด้วยเช่นกัน ดังนั้น
คนเราควรพูดจาชอบ กระทำชอบและจิตใจชอบ”
Look A Breathe
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in