ณ ที่แห่งหนึ่งมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราอยากจะหนีความจริงไปให้ไกล แต่มีเพียงสิ่งเดียวที่เราหนีเท่าไหร่ก็หนีไม่พ้นสักที นั้นคือ

“ตัวเราเอง”

ตัวเล็ก: พี่ ช่วงนี้หมอดูทักว่า หมีจะเป็นจ้าวโลก ไม่ต้องทำอะไร ได้แต่เงิน เที่ยวอย่างเดียว ทำชีวิตไร้สาระไปวัน

เรา: หมอดูไหนทักหว่า

ตัวเล็ก: หมอหมีแห่งหุบเขากระโหลก เก่งมากนะ แค่เห็นผม ก็บอกว่า ดวงชะตาของผมตกดาวศุกร์ สุขีปรีโยไง

เรา: งั้นระวัง ถ้าเจ้าเชื่อมาก จะเหลือแต่กะโหลกเถิด

ตัวเล็ก: เฮ้ย พูดอะไรก็ระวังปากด้วยนะ ผมไม่เอาด้วยแล้ว

     เจ้าหมีเอ๋ย เจ้ายังเด็กอยู่นัก ไม่มีทางรู้เลยว่า ถ้าไม่ทำอะไรเลย แล้วเงินมันจะงอกเงยมาจากไหน คนเรานะ ถ้าทำอะไรที่มีคุณค่าที่ดีต่อตัวเองและสังคม และมีคุณค่าในใจของคน ไม่ต้องให้หมอดูมาทัก เราก็รวยจิตใจดีได้

“คนเรามักจะหลงทาง

อยู่ในทางที่ไม่รู้จะไปไหนดี”

     ชีวิตของคนทั้งหมด 5 คน ไม่ว่าจะเป็น เซริคาวะ อาคาริ ซัทสึกิ เมกุมิและมิตสึโมโตะต้องเจอกันผ่านดวงดาว และเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองผ่านร้านจันทร์เต็มดวง โดยผ่านเจ้าแมวทั้งหลายและมาสเตอร์เเมวทำหน้าที่ดูดวงผ่านดวงดาว แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม

“ดวงดาวเป็นอย่างไร 

เจ้าของชะตาจะเป็นอย่างไร 

ก็ไม่สู้มานะตนที่เปลี่ยนแปลงชะตานั้น”

     อย่างที่เจ้าแมวบอกว่า ทุกอย่างต้องกำหนดชะตาชีวิตของตัวเราเองด้วยตัวเราเองเท่านั้น

     สมัยอดีต เซริคาวะเป็นอาจารย์พิเศษนำพาเด็กกลับบ้าน และได้ตัดสินใจไปช่วยแมวกับคุณปู่ที่เป็นคนเลี้ยงแมว จนกระทั่งคุณปู่คนนั้นเสียชีวิต และหลานของคุณปู่เกือบจะพาแมวไปสุขาภิบาล แต่มิตสึโมโตะเด็กน้อยชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 อาสาให้แมวอยู่ที่บ้านก่อนและค่อยช่วยกันจนหาคนอุปถัมภ์แมวได้ และนี่เอง คือ จุดเริ่มต้นของ 5 ชีวิตกับร้านพระจันทร์เต็มดวง

     คุณปู่พร้อมเหล่าผองแมวกลับมาตอบแทนบุญคุณผู้มีพระคุณทั้งหลาย โดยการเปิดร้านกาแฟแห่งความฝัน ทำนายชะตาผ่านดวงดาว ให้คนทั้งหมด 5 คน ที่เริ่มหมดความมั่นใจและเชื่อมั่นในตัวเอง หรือหมดหวังในการดำเนินชีวิตต่อไป กลับมามีความมั่นใจอีกครั้งที่จะใช้ชีวิตอย่างดีงามต่อไป โดยการช่วยเป็นกำลังใจและเยียวยาจิตใจ

เซริคาวะ

“คุณเคยกังวลกับการวิจารณ์ของคนอื่นบ้างไหม”

     ในโลกนี้ไม่มีใครชอบคำด่า โดยเฉพาะด่าแบบไม่หยุดไม่หย่อน ด่าแบบไปเรื่อยๆ แบบหาที่จุดสิ้นสุดของการด่าไม่เจอ ทำอะไรผิดก็ด่า ทำอะไรถูกก็ด่า ทำอะไรก็ไม่พอใจสักอย่าง เอาแต่ ด่าๆๆๆ แนวแบบว่าแค่หายใจก็ผิดแล้ว ซึ่งนี่ก็เกิดกับเซริคาว่า ซึ่งทำให้เธอรู้สึกกังวลและเครียดกับคำด่าเหล่านี้มาก วิจารณ์แต่ทางไม่ดี และสายตาของเธอก็พลันไปเจอแต่ข้อความแบบนี้ด้วย ซึ่งเธอไม่สามารถก้าวผ่านอุปสรรคในใจไปได้

หลังจากที่เจอกับร้านพระจันทร์เต็มดวง

     เซริคาว่าตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยการก้าวผ่านความรู้สึกแย่นี้ไปได้ โดยที่เธอยอมรับว่า ถ้าเป็นการวิจารณ์เพื่อการเปลี่ยนแปลง เธอจะยอมรับและเริ่มต้นทำมัน ถึงจะขัดกับความรู้สึกเธอก็ตาม แต่ถ้าเป็นคำวิจารณ์ที่ไม่สร้างสรรค์ เธอจะปล่อยวางมันไปเสีย และเธอเริ่มต้นกลับมาเป็นตัวเองที่ทำงานออกมาได้ดีและมีการเปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่ ซึ่งเธอก็พบว่า อิสระที่แท้จริงอยู่ที่ใจที่ปล่อยวางนั้นเอง

ซัทสึกิและอาคาริ

“ใครบ้างที่อยากทำผิดจนสังคมตราหน้าว่าเลว”

     อาคาริเป็นคนที่เข้มงวดกับคนอื่นและตัวเองมาก คือ เป็นไม้บรรทัด และในชีวิตห้ามผิดศีลธรรมหรือจริยธรรมอะไรเด็ดขาด ส่วนซัทสึกิก็ผิดพลาดไปเป็นเมียน้อยของคนอื่น จนถูกตราหน้าว่าดาราคบชู้ เพราะเพียงแค่ความหลงใหลในความรักที่เขาปรนเปรอให้อย่างไม่ลืมหูลืมตา

หลังจากที่เจอกับร้านพระจันทร์เต็มดวง

     อาคาริตัดสินใจก้าวข้ามผ่านความเข้มงวดและยอมรับว่าตัวเองชอบผู้หญิงอย่างคุณจิโระ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกดีมากขึ้น และยอมปล่อยวางให้ชีวิตมันดำเนินไปบ้าง โดยมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ส่วนซัทสึกิยอมรับความผิดของตัวเองที่ได้ทำให้ครอบครัวอื่นแตกแยก ยอมรับว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เธอตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่า นี่คือบทเรียนที่จะเปลี่ยนชีวิตเธอให้ดีขึ้น โดยรู้สึกสำนึกผิด ขอโทษและปรับปรุงแก้ไขทุกอย่างให้กลับมาดีขึ้นเป็นลำดับ

เมกุมิและมิตสึโมโตะ

“คุณเคยถูกภาพลวงหลอกตาไหม 

ว่า มันดีแต่จริงๆมันไม่มีอะไรเลย”

     มิตสึโมโตะรู้สึกหงุดหงิดตลอดเวลากับหลายๆเรื่องที่ไม่เป็นอย่างใจหวัง ส่วนเมกุมิถูกความฝันลมๆแล้งๆหลอกใจว่าควรทำแบบนี้ล่ะถึงจะดี 

(เรื่องราวในตอนนี้โรแมนติกมาก และเราก็รอลุ้นนะว่า 

พ่อหนุ่มขี้อายอายุน้อยอย่างมิตสึโมโตะ

จะบอกรักรุ่นพี่อย่างเมกุมิเมื่อไร)

หลังจากที่เจอกับร้านพระจันทร์เต็มดวง

     มิตสึโมโตะตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยการมองดูถึงสิ่งที่เป็นไปได้กับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ พยายามเข้าใจในสถานการณ์เหล่านั้น จนทำทุกอย่างออกมาดี ซึ่งการถูกภาพลวงตาที่เรียกว่า ไม่เป็นอย่างใจหวังมาพัฒนาตัวเองว่า ไม่มีสิ่งใดจะเป็นอย่างหวังไปหมด ไม่ควรอยู่กับความประมาท ส่วนเมกุมิก็ตัดสินใจจะเดินทางไปทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่ร้านตัดผม โดยอาคาริชวนไปทำ เปิดอะไรใหม่ๆให้กับตัวเองบ้าง ไม่ใช่จมอยู่กับอดีตที่ไม่ไปไหนสักที

เกร็ดเล็กน้อย

     ไพ่ที่นำมาให้ดู (พร้อมของพรีเมี่ยมสุดพิเศษที่ได้จากตัวเล่ม) เป็นไพ่ออเรเคิลค่ะ ซึ่งเราไปฟังมาว่า เป็นไพ่ชุด “Curious Cat” ที่คนตามหากันอยู่ และเราไม่ได้เป็นผู้ตามหาค่ะ แต่เป็นผู้ได้มาค่ะ ซึ่งในไพ่เป็นไพ่น่ารักและดูเข้ากันกับเรื่องนี้ ที่มีรูปแบบอยู่กับดวงดาวต่างๆ เราเลยตัดสินใจนำมาประกอบเรื่อง ซึ่งความหมายของไพ่ก็เข้ากับเรื่องราวของคนจำนวนห้าคนนี้อยู่ไม่มากก็น้อยเลยล่ะค่ะ เพราะเดี๋ยวเพื่อนๆจะงงว่า เอาไพ่มาเกี่ยวอะไรกับหนังสือ เลยขอเป็นเรื่องเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยล่ะกันค่ะ

     หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ดีมากเล่มหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยความหวัง ข้อคิด อบอุ่นละมุนและกำลังใจ คนเราทุกคนล้มได้ แต่อย่าเพิ่งหมดหวัง เพราะครั้งที่เราตัดสินใจลุกนี่ล่ะ ที่จะเป็นทางสำคัญในการดำเนินชีวิตที่ดี

“ไม่มีสิ่งยิ่งใหญ่เหนือความหวัง

ชีวิตหลังเป็นอย่างไรหารู้ไม่

รู้เเต่เพียงอยู่กับปัจจุบันไซร้

อดีตได้ผ่านไปแล้วไม่ลืมรู้

อนาคตเป็นสิ่งยังไม่เห็นนี้

อาจมีดีมีร้ายรอเราอยู่

มีเพียงเราเป็นผู้กำหนดดู

โดยมองรู้เรานั้นกำหนดตน”

“อย่าเชื่อสิ่งที่เขาพูดตามกันมา 

อย่าเชื่อสิ่งที่ยังเป็นไปไม่ได้”

หมีตัวเล็ก (แต่หัวใจหวังพองโต)

     ผมเข้าใจตัวเองมากขึ้นแล้วครับ ว่า ชีวิตหมีตัวเล็กอย่างผมจะยิ่งใหญ่ได้เพราะผมเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง ก่อนอื่น ผมต้องเลิกงอแง เอาแต่ใจตัวเอง และต้องกลับมาเป็นหมีที่น่ารักของพี่ๆเหมือนเดิม เย้ๆๆ ผมค้นพบทางตัวเองแล้ว

“ชีวิตของตัวเราเอง

อย่าปล่อยให้ใครเป็นคนกำหนดชะตาชีวิตของเรา

ขอเพียงแค่เรายังมีชีวิตอยู่

เรายังมีลมหายใจเข้า-ออกอยู่ 

เราต้องสู้และเป็นคนกำหนดชะตา

ของเราด้วยตัวของเราเอง”

Look a Breathe