ずっとここできみと (zutto koko de kimi to) author: tsukimura kei
illustrator: takemiya lala
เรื่องนี้เห็นปุ๊บก็กดเลย เพราะรู้สึกว่าโทนเรื่องของอาจารย์สึกิมุระน่าจะเข้ากันกับภาพประกอบของอาจารย์ทาเคมิยะมากๆ แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ เพราะเนื้อเรื่องฟลัฟมาก ภาพประกอบก็ฟลัฟมากพอกัน 5555
เรื่องมีอยู่ว่า มาซายะกับริคุเกิดที่โรงพยาบาลเดียวกัน เป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่สมัยเด็ก พ่อแม่ของริคุเสียชีวิตจากอุบัติเหตุตอนที่ริคุกำลังจะขึ้นมัธยมปลาย มาซายะและครอบครัวจึงคอยดูแลริคุเหมือนเป็นสมาชิกอีกคนในบ้าน แต่มิตรภาพของทั้งสองต้องมาถึงจุดเปลี่ยนเมื่อริคุตัดสินใจเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยในจังหวัดเพราะไม่ยอมขายบ้านเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่โตเกียว ทำให้มาซายะซึ่งเป็นนักเรียนระดับท็อปของโรงเรียนเลือกเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกันเพราะไม่อยากห่างจากริคุ
เรื่องนี้แบ่งเป็นสองพาร์ท พาร์ทแรกเล่าเรื่องชีวิตของเด็กมัธยมปลายที่กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต ส่วนพาร์ทสองเล่าเรื่องหลังจากที่มาซายะกับริคุเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยแล้ว เป็นนิยายใสกิ๊งแนว slice of life ที่ไม่มีปมปัญหาให้ต้องแก้ และแทบจะไม่มีดราม่าอะไรเลย ถ้าให้สรุปเนื้อเรื่องง่ายๆ ตั้งแต่ต้นจนจบก็คือเป็นเรื่องของเพื่อนสมัยเด็กที่พัฒนามาเป็นแฟนกันเท่านั้นเอง
เราชอบความโลกสวยของเรื่องนี้ โทนเรื่องเต็มไปด้วยความอบอุ่น ไม่มีตัวร้าย ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงพลิกผันอะไร ตัวละครทุกคนก็เป็นคนจิตใจดี อ่านแล้วรู้สึกสบายใจ แต่ถ้าจะมองเป็นจุดอ่อนของเรื่องมันก็ใช่ คือเนื้อเรื่องเบามาก แบบน่าจะเอาไปเขียนเป็นมังงะมากกว่านิยาย ริคุซึ่งเป็นตัวดำเนินเรื่องก็มีความเวิ่นเว้อสูง ปมทั้งหมดของเรื่องเกิดจากความเวิ่นเว้อคิดไปเองของริคุ ด้วยความที่เนื้อเรื่องก็ไม่ค่อยมีอะไรอยู่แล้ว การบรรยายเลยวนเวียนอยู่กับความคิดวกไปวนมาของริคุในเรื่องต่างๆ รอบตัว
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราก็ไม่ได้รู้สึกว่าเรื่องมันน่าเบื่อนะ แล้วก็ไม่ได้รำคาญคาแรกเตอร์ของริคุด้วย ซึ่งจุดนี้ต้องยกเครดิตให้อาจารย์สึกิมุระที่ถ่ายทอดความรู้สึกของเด็กมัธยมปลายออกมาได้อย่างสมจริง ถึงบทบรรยายจะมีความโลกสวยเหมือนคำคมในทวิตเตอร์
(ซึ่งคงเป็นซิกเนเจอร์ของอาจารย์สึกิมุระไปแล้ว เพราะอ่านกี่เรื่องๆ ก็รู้สึกแบบนี้ 5555) แต่อ่านแล้วมันก็รู้สึกว่า เออ จริงว่ะ ใช่เลย ความรู้สึกนี้แหละ!
ไม่ว่าจะเป็นความหมกมุ่นอยู่กับตัวเอง พยายามที่จะโตเป็นผู้ใหญ่แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีความคิดแบบเด็กๆ รวมถึงความกังวลเรื่องการเรียนต่อ ความสับสนเมื่อความรู้สึกที่มีต่อเพื่อนสนิทเปลี่ยนไป ความอาลัยอาวรณ์ต่อชีวิตมัธยมปลาย สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่เคยผ่านมันมาแล้วรวมถึงตัวเราเอง เพราะฉะนั้นเราเลยรู้สึกว่าความคิดของตัวละครในเรื่องนี้มันก็สมวัยดี
สรุป เนื้อเรื่องไม่ได้สนุกถึงขั้นแนะนำให้อ่าน แต่เหมาะสำหรับคนที่อยากเยียวยาจิตใจด้วยความน่ารักฟลัฟฟี่ของเด็กหนุ่มวัยมัธยมค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in