"เรียนอะไรดีวะ"
ฉันถามเพื่อนสนิท ขณะจ้องมองกระดาษเอสี่หนึ่งแผ่นที่อยู่ในมือ
"จะไปรู้แกเหรอวะ"
เพื่อนตอบ ซึ่งจริง ๆ คงไม่ได้หมายความแค่กับคำถามของฉัน มันเองก็คงยังไม่รู้จะเรียนอะไรเหมือนกัน
ฉันไล่สายตาไปตามใบงานวิชาแนะแนวที่อาจารย์แจกมา ในนั้นมีให้กรอกผลการเรียนเฉลี่ย ความชอบ ความถนัด คณะที่อยากเรียน ทั้งนี้ทั้งนั้น มีรอยปากกาขีดเขียนลงไปแค่ช่องผลการเรียนเฉลี่ยเท่านั้น ส่วนช่องที่เหลือนั้นยังว่างเปล่า
ฉัน -- ในวัย 17 ปี มัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 -- ยังไม่รู้ว่าตัวเองอยากเรียนอะไร
ฉันเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 โรงเรียนประจำจังหวัดแห่งหนึ่ง เรียนในโครงการส่งเสริมความเป็นเลิศทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ บางคนเรียกห้องกิฟต์ บางคนเรียกห้องเลิศ บางทีคนที่หมั่นไส้ก็เรียกห้องบุญเลิศ (ถ้าใครเกิดไม่ทัน มันคือชื่อควายในภาพยนตร์เรื่องบางระจันครับ) เป็นห้องที่คัดรวมนักเรียนที่มีผลการเรียนสูงสุดอันดับต้น ๆ ของโรงเรียนมารวมกัน เพราะฉะนั้น ฉันที่มีผลการเรียนเฉลี่ย 3.84 จึงอยู่ในอันดับกลาง ๆ ของห้อง (ส่วนใหญ่ได้ 3.9 ขึ้นทั้งนั้น)
ฉันเรียนพิเศษเป็นประจำหลังเลิกเรียน จริง ๆ ไม่ได้ใฝ่รู้ใฝ่เรียนขนาดนั้น แต่มันเป็นวิธีหนึ่งที่จะได้อยู่เล่นกับเพื่อน ๆ ต่อหลังเลิกเรียน แทนที่จะต้องรีบตรงกลับบ้านทันทีตามประสาเด็กดี การเรียนก็ตั้งใจบ้าง ไม่ตั้งใจบ้าง (ส่วนใหญ่จะเป็นอย่างหลัง) ความสามารถพิเศษคือการจดข้อความตามที่อาจารย์สอนโดยไม่มีเนื้อหาเข้าหัวโดยแม้แต่น้อย
ฉันชอบเรียนภาษา ชอบการถ่ายรูป แต่ก็ไม่ได้เก่งมากพอที่จะเอาไปใช้หาเลี้ยงชีพ ทั้งยังคิดว่า อาชีพดังกล่าวเป็นอาชีพที่คนที่จะไปรุ่งได้ต้องเป็นคนมีความสามารถและมุ่งมั่นอย่างจริงจังเท่านั้น ซึ่งพอหันกลับมามองตัวเอง .. เรียนก็เรื่อย ๆ สอบก็พอผ่าน คงจะไม่สามารถรุ่งได้ ถ้าจะมีก็คงจะมีแต่รุ่ง...ริ่ง
ฉันไม่ได้ชอบอะไรเป็นพิเศษ และไม่ได้เกลียดอะไรเป็นพิเศษ เป็นมนุษย์ที่เป็นกลางอย่างแท้จริง
หลังจากเมาท์มอยกับเพื่อน ๆ ในเรื่องอื่น ๆ จนหมดคาบเรียน หัวหน้าห้องก็ไล่เก็บใบงานจากทุกคน ฉันเล่ิกลั่กมองเพื่อนว่าจะเอายังไงกันดี ก่อนจะคว้าใบงานของเพื่อนที่ส่งไปแล้วมาลอก
คณะแพทยศาสตร์ ... ก็ได้วะ
อยากเป็นหมอละกัน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in