ผมมองดูข้อความบนเสื้อที่เธอเขียนไว้ให้
‘ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะ’
แปลกใจนิดหน่อยเหมือนกัน ที่เธอยังขอบคุณกันแม้ว่าสิ่งที่ผมทำกับเธอตลอดช่วงที่ผ่านมาจะมีแต่ความเย็นชา และเมินเฉยต่อเธอเสมอ
ผมยังจำวันแรกที่ได้รู้จักกับเธอได้ดี เธอที่เป็นเธอจริง ๆ ไม่ใช่คนที่นั่งเงียบ ๆ อยู่หน้าผม และเหม่อลอยอยู่ตามลำพัง ผมเคยคิดว่าเธอคงจะเป็นคนที่ปิดกั้นตัวเองมาก แต่แท้จริงแล้วอาจเป็นเพราะไม่มีใครที่คิดจะเข้ามาในโลกของเธอมากกว่า เธอเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง คอยช่วยเหลือผมมาตลอดแม้ว่าเราจะยังไม่สนิทกันมากก็ตาม
ผมไม่คิดว่าเธอจะใส่ใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของใคร ผมจึงแปลกใจเมื่อเธอบอกสุขสันต์วันเกิดกับผม ทั้ง ๆ ที่ในเฟซบุ๊กของผม ไม่ได้ตั้งวันเกิดตามวันเกิดจริงเลย ผมรู้สึกผิดนิดหน่อย เพราะในขณะที่เธอจำรายละเอียดของเพื่อน ๆ ได้ขนาดนั้น แต่ผมกลับไม่รู้อะไรที่เกี่ยวกับเธอเลย
ผมจำได้ว่าเป็นผมเองที่เริ่มพูดคุยกับเธอ เพราะคิดว่านี่คงเป็นสิ่งที่ผมพอจะชดเชยความไม่ใส่ใจของผมได้ และหลังจากนั้นเราก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น
วันหนึ่งผมสังเกตเห็นเธอยืนนิ่งอยู่ริมสนามพร้อมกับลูกบาสในมือ สีหน้าของเธอไม่ใช่คนที่เบื่อหน่าย แต่กังวลและเต็มไปด้วยความไม่มั่นใจ เพราะแบบนั้นผมจึงเข้าไปทักทาย และช่วยเธอให้สนุกไปกับเพื่อน ๆ คนอื่น
เธอยืนยันว่าจะเลี้ยงน้ำผมเป็นการตอบแทนที่ผมช่วยเธอซ้อมบาส และมันก็คงจะเป็นเหตุการณ์ที่ปกติธรรมดาถ้าหากว่าผมไม่บังเอิญไปเห็นรูปในกระเป๋าสตางค์ของเธอเข้า
รูปคู่ของเราตอนทำงานกลุ่มฟิสิกส์
ผมเริ่มตั้งคำถามในใจว่าทำไมเธอถึงเลือกปรินต์รูปนี้ใส่ไว้ที่กระเป๋าสตางค์ของเธอ ทั้ง ๆ ที่ตามปกติแล้วพื้นที่ตรงนั้นควรจะเป็นรูปของคนสำคัญของเจ้าของกระเป๋าสตางค์
หัวของผมเริ่มปะติดปะต่อถึงเหตุผลที่เธอรู้วันเกิดของผม และเมื่อรวมกับเหตุการณ์นี้แล้ว แม้ผมจะไม่อยากคิด แต่ในหัวของผมก็ไม่มีคำตอบอื่นนอกจากเธอรู้สึกกับผมมากกว่าเพื่อนคนหนึ่ง
ผมเองไม่ได้อยากทำร้ายความรู้สึกของเธอ แต่ผมก็ไม่สามารถที่จะตอบรับมันได้เหมือนกัน ผมจึงเลือกที่จะระมัดระวังการกระทำของผม ไม่ให้เธอต้องรู้สึกกับผมไปมากกว่านี้ ผมเริ่มที่จะเว้นระยะห่างกับเธอ และทำตัวเหมือนเพื่อนคนอื่น ๆ ลึก ๆ แล้วผมก็รู้สึกผิดกับเธอ เพราะเหมือนกับว่าผมเป็นคนที่เดินเข้าไปในโลกของเธอเอง แต่เมื่อเธอกล้าที่จะเดินเข้ามา ผมกลับเดินออกไป หลายครั้งที่สายตาของเธอที่มองมายังผมเต็มไปด้วยคำถาม เพราะแบบนั้นผมถึงเลือกจะมองผ่านเธอไป ดีกว่าจะต้องรับรู้ถึงแววตานั้น เพื่อไม่ทำลายความสัมพันธ์ของเราไปมากกว่านี้
ในวันที่เธอเอากล่องนมมาวางไว้บนโต๊ะของผม ผมรู้ทันทีว่าใครเป็นเจ้าของ ผมมองเห็นแววตาที่คาดหวังของเธอ และผมก็รู้ดีว่ามันคงจะดูใจร้ายมากถ้าผมจะไม่รับความหวังดีนั้น แต่มันก็คงจะใจร้ายยิ่งกว่าถ้าผมรับมันไว้ และให้ความหวังเธอไปเรื่อย ๆ ในวันนั้นผมจึงเลือกที่จะทำเป็นไม่สนใจความหวังดีนั้น และมองข้ามแววตาที่เจ็บปวดของเธอไป
เราคุยกันครั้งสุดท้ายในวันที่เธอส่งไฟล์งานให้กับผม เธอถามผมว่าเธอทำอะไรผิดไป ผมโกรธอะไรเธอหรือเปล่า ผมเองก็ตอบเธอไม่ได้ เพราะเธอไม่ได้ทำอะไรผิด ผมเลยตอบแค่ว่าเธอคิดมากไปเอง ผมคิดว่าผมทำดีที่สุดแล้วกับความสัมพันธ์นี้ และคิดว่ามันคงจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมจะมอบให้เธอได้ เพื่อเธอจะได้ตัดใจและเจอกับคนที่จะรักเธอเหมือนกับที่เธอรักเขา
ผมหันหลังกลับไปมองเธอที่เดินออกไปไกลแล้ว สลับกับข้อความที่อยู่บนเสื้อของผม
ขอบคุณนะที่มีความรู้สึกดี ๆ ให้กับเรา หวังว่าเธอจะเจอความรักที่ดีเหมือนที่เธอเคยมีให้กับเราเร็ว ๆ นะ
จากเพื่อนที่จะหวังดีกับเธอเสมอ
__________________________________________________
เรื่องและภาพ : ชนัญญา เมธมโนศักดิ์, ธัญวรัตม์ วงศ์เรือง, บุษกร บุษปธำรง, วรนุช ขาวเกตุ
ภาพปก : มิวสิควิดีโอเพลง นี่ฉันเอง Lipta ft. kob flat boy
บรรณาธิการ : หัตถกาญจน์ อารีศิลป
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in