คิมจางฮุน นักร้องบัลลาดชื่อดังเจ้าของฉายา “ฑูตแห่งการบริจาค” โดยที่จางฮุนได้บริจาคเงินกว่า 10,000 ล้านวอน (280 ล้านบาท) ให้กับประเทศเกาหลีใต้ตลอดระยะเวลา 10 ปีเพื่อการกุศลต่างๆ อีกทั้งยังทำงานด้านการกุศลมาโดยตลอด และในปี 2012 จางฮุนได้รับรางวัล US President's Volunteer Service Award จากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งเป็นรางวัลที่ก่อตั้งโดยรัฐบาลสหรัฐเพื่อส่งเสริมการบริการอาสาสมัครในชุมชน นอกจากนั้น จางฮุนก็ได้รับรางวัลในประเทศเกาหลีมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นรางวัลดาราผู้ทำความดีประจำปี รางวัลผู้มีอารยธรรมอันรุ่งโรจน์ และยังได้รับการแต่งตั้งเป็นทูตประชาสัมพันธ์เครือข่ายหน่วยงานอาสาสมัครของเกาหลีในปี 2008 และในปี 2022 นี้ จางฮุนยังได้รับแต่งตั้งเป็นฑูตสำหรับเทศกาลวัฒนธรรมและศิลปะสำหรับคนพิการอีกด้วย
คนที่ 2 คิมจองฮวาน ผู้เป็นที่หนึ่งด้านกีฬา เจ้าของฉายา "ซนฮึงมิน" แห่งย่านโซด็อก
เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นชื่อนักกีฬาหนุ่มคนนี้กันมาบ้างไม่มากก็น้อยกับ ซนฮึงมิน นักฟุตบอลสัญชาติเกาหลีใต้ที่ล่าสุดค้าแข้งกับทีมสเปอร์ส ในพรีเมียร์ลีก ประเทศอังกฤษ ด้วยสถิตินักเตะเอเชียที่ค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ (30 ล้านยูโร) ซนฮึงมิน ไม่ได้โด่งดังแค่ในอังกฤษหรือเกาหลีใต้ แต่ยังโด่งดังไปทั่วโลกด้วยด้วยความที่เป็นหนึ่งในนักเตะเอเชียไม่กี่คนที่สามารถไปค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก บวกกับผลงานที่ยอดเยี่ยมกับตำแหน่งนักเตะที่ยิงประตูมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก ปี 2021-2022 ทำให้ซนฮึงมินได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะเอเชียที่มีผลงานดีที่สุดในวงการฟุตบอลในขณะนี้ และในประเทศเกาหลีใต้ นักเตะซนฮึงมินก็ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในบุคคลผู้มีชื่อเสียงที่สุด และหากพูดถึงนักกีฬาที่มีชื่อเสียงในวงการกีฬาเกาหลีใต้ในปัจจุบัน ชาวเกาหลีใต้ส่วนใหญ่ก็จะนึกถึง ซนฮึงมิน อย่างแน่นอน
คนที่ 3 หัวหน้าสมาคมแม่บ้าน ผู้ใจดี เจ้าของฉายา "แม่ชีเทเรซ่า" แห่งย่านโซด็อก
แม่ชีเทเรซา เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ในปี 1979 ในฐานะ "ต่อสู้เพื่อลดความยากจนทุกข์ยากซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการนำไปสู่ความสงบสุขและสันติ" (for work undertaken in the struggle to overcome poverty and distress, which also constitute a threat to peace.) นักพรตหญิงผู้ที่ให้ความช่วยเหลือแก่คนยากไร้มานับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดโรงเรียนสำหรับเด็กในสลัม ก่อตั้งบ้านพักสำหรับผู้ยากไร้ที่ป่วยเพื่ออยู่อาศัยในช่วงสุดท้ายของชีวิต จัดทำบ้านสำหรับรับเลี้ยงเด็กกำพร้า และออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคเรื้อนที่ในสมัยนั้นถือว่าเป็นโรคที่ร้ายแรงและน่ารังเกียจ จากการอุทิศตนของแม่ชีเทเรซานี้ทำให้แม่ชีได้รับการยกย่องและชื่นชมเป็นอย่างมาก
คนที่ 4 ผู้ใหญ่บ้าน ผู้มีอันจะกิน เจ้าของฉายา "อีกอนฮี" แห่งย่านโซด็อก
อีกอนฮี มหาเศรษฐีและประธานบริหารบริษัท Samsung Electronics หรือ ซัมซุง ที่เรารู้จักกันนั่นเอง โดยซัมซุงเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลกและครอบคลุมธุรกิจส่วนใหญ่ในประเทศเกาหลีใต้ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอิเล็อทรอกนิกส์ การขนส่ง อสังหาริมทรัพย์ และการก่อสร้าง และซัมซุงยังเป็นหนึงในบริษัทในกลุ่ม แชโบล หรือกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่ทรงอิทธิพลทางการค้าและการลงทุนในประเทศเกาหลีใต้ โดย 80% ของรายได้ที่เกิดขึ้นในประเทศมาจากกลุ่มแชโบล และรายได้ของซัมซุงนั้นเท่ากับ 1 ใน 5 ของรายได้ที่เกิดขึ้นในประเทศอีกด้วยคนที่ 5 ประธานคณะกรรมการ ผู้หน้าตาดี เจ้าของฉายา "จางดงกอน" แห่งย่านโซด็อก
เชื่อว่าหลายคนคงรู้จัก จางดงกอน นักแสดงหนุ่มชื่อดังแห่งเกาหลีใต้คนนี้เป็นอย่างดี จางดงกอนเดบิวต์ในวงการบันเทิงเมื่อปี 1992 ด้วยวัย 20 ปี และได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง จนปี 2001 เมื่อภาพยนตร์เรื่อง Friend ที่จางดงกอนรับบทนำนั้นเข้าฉาย ก็ได้กลายเป็นภาพยนตร์เกาหลีใต้ที่ทำรายได้สูงสุดในขณะนั้น และในปี 2004 จางดงกอนได้รับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง Taegukgi: The Brotherhood of War โดยแสดงเป็นคู่พี่น้องในสงครามเกาหลีคู่กับนักแสดงหนุ่มวอนบิน โดยภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างสถิติเป็นหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลของเกาหลีใต้ในขณะนั้น และขึ้นอันดับหนึ่งบอกซ์ออฟฟิศนานถึง 6 สัปดาห์ เอาชนะแชมป์เก่าอย่าง ไททาทิก ไปได้ ส่งผลให้จางดงกอนได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ถึงขนาดที่ว่าถ้าเอ่ยชื่อนักแสดงคนนี้ ไม่มีคนเกาหลีคนไหนที่ไม่รู้จักเขาอย่างแน่นอน
คนที่ 6 พัคยูจิน นักไวโอลิน เจ้าของฉายา "พัคยูจีน" แห่งย่านโซด็อก
พัคยูจีน นักไวโอลินชื่อดังจากเกาหลีใต้ โดยพัคยูจีนได้เริ่มเล่นไวโอลินตั้งแต่อายุ 3 ขวบและฉายแววตั้งแต่นั้นมา ยูจีนได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตสาขาการแสดงไวโอลินคลาสสิก จากมหาวิทยาลัยศิลปะแห่งชาติเกาหลี และเนื่องจากความหลงใหลในดนตรีแจ๊ส ยูจีนจึงย้ายไปเรียนที่วิทยาลัยดนตรี Berklee สถาบันที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านดนตรีในปี 2006 และจบการศึกษาด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 อีกทั้งยังได้รับปริญญาโทด้านการแสดงแจ๊สจาก Queens College ในปี 2011 อีกด้วย ในปี 2013 ยูจีนได้เซ็นสัญญากับ Universal Music Group International และออกอัลบั้ม “West End” ซึ่งในการออกอัลบั้มนี้ ทำให้ยูจีนได้รับการยกย่องจากสาธารณชนโดย Jazz Times ว่า “นักไวโอลินแจ๊สหน้าใหม่ที่เจิดจรัส” หลังจากนั้นยูจีนก็ได้ลุยทำงานในวงการดนตรีแจ๊ส ไม่ว่าจะเป็นออกอัลบั้ม ออกทัวร์ เป็นหัวหน้าวงดนตรี นักจัดคอนเสิร์ต ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ ส่งผลให้ยูจีนเป็นที่รู้จักเป็นอย่างมากในวงการดนตรีแจ๊สทั้งในอเมริกาและเกาหลีใต้จนถึงปัจจุบัน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in