I do not hopeI do not hope
I do not hope
I do not hope
โลกใบนี้บิดเบี้ยวและน่ารังเกียจอย่างไรในอดีต ปัจจุบันมันก็เป็นอยู่อย่างนั้น และในอนาคตมันคงจะเป็นอย่างเช่นนั้น
มนุษย์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง การ์เซีย ฟลินน์รู้ดี
ด้วยหนึ่ง เขาพบเห็นมันมามาก ชายวัยกลางคนท่องเวลามามาก ทั้งไปยังห้วงเวลาที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์ใหญ่ที่อาจเปลี่ยนแปลงโลกได้ทั้งใบ หรือเพียงเหตุการณ์ธรรมดาสามัญที่พบเห็นได้ทั่วไป ถึงแม้ว่าจะมีคำกล่าวว่าเพียงผีเสื้อขยับปีก ก็อาจจะก่อให้เกิดพายุทอร์นาโดได้
นั่นไม่ใช่คำกล่าวไร้สาระ แต่มันก็ไม่ได้สลักสำคัญเพียงพอให้เขาสนใจ
และสอง เพราะ การ์เซีย ฟลินน์เองก็เป็นมนุษย์— แม้จะมีข้อถกเถียงว่าไม่มีมนุษย์คนใดบนโลกแสนน่าเกลียดนี้จะสามารถเข้าใจมนุษย์อีกผู้หนึ่งได้อย่างสมบูรณ์ครบถ้วนก็ตาม
บางครั้งฟลินน์ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขานึกหวัง หวังถึงโลกที่สงบสุข ไร้ซึ่งสงครามและการเปลี่ยนแปลง เขาอดเฝ้าฝันถึงคืนวันที่ห่างไกลจากการแขวนชีวิตไว้บนเส้นด้ายเช่นนี้ไม่ได้ ในความเป็นไปได้ใดสักช่วง ในห้วงเวลาใดสักห้วงที่จะสามารถหลับตาลงได้อย่างไม่ต้องระแวดระวัง ในโลกที่เขาไม่ได้มีตราบาปเปื้อนเลือดเป็นชนักที่แผ่นหลัง
ความหวังเป็นสิ่งอันตราย
ฟลินน์หลงลืมความหวังในที่สุด หลงลืมมันไปราวกับเขากลายเป็นปลาตาบอดในถ้ำมืดมิดไร้แสงสว่าง เขาหลงลืมแม้กระทั่งความรู้สึกอบอุ่นเพียงใดยามเมื่ออยู่ใต้ดวงตะวัน
เลิกหวังได้แล้ว โลกใบนี้เป็นเช่นนี้ ไม่มีวันที่มันจะสงบสุขตลอดกาล กลิ่นควันปืนจะไม่มีวันจางหายและคราบเลือดในมือจะไม่มีวันลบเลือน
ลูซี่— เป็นลูซี่ที่จุดประกายของมันขึ้นมาใหม่
แทรกซึม จุดประกายและประคับประคองให้หัวใจของเขาเต็มด้วยความหวัง และนั่นทำให้ฟลินน์นึกฝันอีกครั้ง
นึกฝันถึงสิ่งที่ไม่อาจไขว่คว้าได้— แต่ใครไหนเลยจะไม่มีความฝันกันเล่า? ฝันถึงโลกที่พวกเขาทั้งคู่จะสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้ บ้านเล็กๆ สักหลัง โลกที่มีกลิ่นคาวนมและแป้งเด็กแทนที่จะเป็นกลิ่นควันปืนและคาวเลือด
ฟลินน์นึกฝัน
บางที
หากเพียงว่าบางที...
I do not hope
I do not hope
I do not hope
I do not hope
——————————————————————
เจอในดราฟท์เลยคิดว่าเขียนต่อให้จบก็คงดี
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in