นาทีที่รู้ตัวคือนาทีที่งี่เง่าที่สุดเคยมีคนถามว่าทำไมผมถึงชอบแบร์ทำไมต้องน้องคนนี้เด็กซ่าบ้าบอที่อ้อนประจบผมเก่งเป็นที่สุดและชอบปล่อยหมัดต่อยเขาเล่นไปทั่ว--แต่จริงจังกับเรื่องที่ตัวเองมุ่งมั่นต้องการจนน่าตกใจ
("เช่นการจีบมึงเป็นต้น" แจ็คยื่นหน้าเข้ามาเสริม
ผมโบกมือใส่หน้ามัน
"ชีวิตมันก็มีมากกว่ากูมั้ยวะ เรื่องเรียน ชกมวย--"
หนุ่มผมบลอนด์ผู้คว้าไมค์มาร้องเพลงทุกครั้งที่ออกงานกลอกตา "--เออ คนนอกเค้ามองสถานการณ์คนละมุมกะมึง")
ทำไมต้องแบร์
แปลกไหมที่ผมนิ่งไปพอสมองรับรู้และเข้าใจทุกคำในคำถามเรียบร้อย
ติดเขาขนาดนี้
แอบหวงเขาขนาดนี้
เป็นใครก็คงนึกว่าผมมีคำตอบแน่นอนแล้วอยู่ในใจ
เรียบเรียงคำเสร็จสรรพ เป็นเหตุเป็นผล ไม่ก็คงหลอมเหลวโอนอ่อนตามอารมณ์ความรู้สึกคล้ายการยื่นหัวใจให้แทนคำตอบ
ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยถามตัวเอง
ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยคิดสงสัย
วิ่งวนเวียนในหัวครั้งพยายามจะเข้าใจ 'การตัดสินใจ' ของตัวเอง
การเลือกที่หัวใจนำหน้าผมไปก่อน ทิ้งตำราและทฤษฎีที่เคยคิดว่าเข้าใจไว้เบื้องหลัง
เราเป็นกันอย่างที่เขาว่าหรือเปล่า
มนุษย์ไร้เหตุผลอย่างมีเหตุผลน่ะ*
แบร์หันมาหาผม จับขาแว่นกันแดดแล้วขยับแว่นขึ้นลง**
ตาสีสดใสเหมือนท้องฟ้าหน้าร้อนในวันไร้เมฆจ้องมองผมกลับ
ริมฝีปากสองเราแนบชิดสนิทกันเหมือนติดกาว
ความคิดแวบเข้ามาในสมองไร้สติของผมนาทีนั้น
....แล้วอะไรๆก็กลับคลิ๊กลงล๊อก
เสียงเรียกชื่อผมในบาร์คืนแรก
คำกระซิบใต้ลมหายใจเมื่อแทบไม่มีระยะห่างระหว่างเรา
คนนี้สินะ
(ตอนนี้)
คนนี้เอง.
(คิดว่าตัวเองเท่ตายละ)
"พี่นาย--"
เสียงต่ำตัดรวบรัดชื่อผมราวรู้จักกันมานาน
...จู่ๆ ก็ไม่ชินชื่อเล่นตัวเองที่เพื่อนเรียกมาเป็นสิบปี
ปล่อยให้ตาเป็นประกายของคนตรงหน้าปลดเปลื้องความคิดสติอะไรที่หลงเหลือเสียหมด
มืออุ่นทาบหน้าอกผม
ได้แต่กลืนน้ำลายเข้า ปล่อยเลยตามเลย
"ดื่มไปเยอะแน่เลย ใจเต้นแรงงี้"
อยากจะเล่นมุขสไตล์หนังคลาสสิก มโนว่าเราใจตรงกัน ดันมาเลือกบาร์เดียวกับพี่ จากบาร์ทั้งหลายมากมายของลอนดอน***
แต่อย่างที่รู้กันอยู่ ความจริงตรงข้ามกับจินตนาการของผม
"...เปล่า" ผมดึงคอเสื้อเด็กหนุ่มเข้ามาใกล้ ขโมยจูบรสกินเนสไปอีกหนึ่งอึก
"พี่เมาเรา--เอ่อ เมาเร็วน่ะ"
รู้สึกหัวเบาหวิว เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะนั่น เหมือนกำลังพยายามขึ้นเขา และโดนความสูงขโมยลมหายใจไปทีละนิด
"พี่--"
ชื่อเลือนหาย เหลือเพียงสรรพนามโดดๆงคั่นความเงียบ คาลมหายใจไว้แค่นั้น
"... จีบกันดื้อๆเลยนี่”
ผมส่ายหน้า
แล้วทีเราทำอะไรพี่—
—รู้ตัวบ้างไหม.
ถึงจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากับความรัก เพราะปราสาททรายหัวใจถูกคลื่นซัดพัง ล่มคาหาดทุกครั้งที่ก่อ
ผมก็ยังเชื่อลมๆแล้งๆว่าการที่คนสองคนมาเจอกันนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
เราอาจพลาดที่จะรู้จักคนๆนั้นเพียงลืมหันมอง เพียงลับตาเมื่อเขาเลี้ยวที่หัวมุมถนน หรือเพียงเราเลือกที่จะไม่ไปปาร์ตี้ ไม่อยู่ต่อดึก ไม่รอเพื่อนที่ร้านอาหาร
ไม่ออกไปเดินเล่นที่ริมแม่น้ำเทมส์
การพบกันคือการบรรจบกันของการตัดสินใจจากสองเส้นทาง
เหตุที่ผมตอบรับจารย์ไปคุมน้องๆบ่ายวันนั้น และที่แบร์เลือกไม่เบี้ยวแฮร์รี่มาดื่มในบาร์ประจำคืนนี้
เราต่างพยายามทรงตัวบนเส้นด้ายเหนือเหตุการณ์บังเอิญ
เพียงแค่ไม่รู้ตัวในเวลาส่วนใหญ่เท่านั่นแหละ
จะว่าผมเชื่อในความถูกต้องของความคิดตัวเองก็ได้
แต่ผมกำลังถลำลึก
“กลับด้วยกันมั้ยฮะ”
เสียงเขาก้องในหูเกินความจำเป็น
มือไม้สลายเป็นฟองน้ำข้างตัว
....เด็กมันช่างกล้า
(แต่ว่าแกเองก็ใช่ย่อย)
ผมกำลังถลำลึก
คำตอบพยางค์เดียวนั่นก็ง่ายเสียจนแทบไม่ต้องคิด
กลับด้วยกันมั้ยฮะ
มองตาก็รู้ว่าเราต่างไม่คิดจะหยุดตรงที่หน้าประตู
(“กูจะไม่นอนเตียงตัวเองคืนนี้”**** ไอ้แจ็คเคยประกาศ ขณะปรายตามองกลุ่มคนในบาร์
ผมยักไหล่
“ไม่มีมึงเตียงเค้าก็อุ่นดีละว้า”
มันส่งจูบให้ผม
“คิดถึงหรอ เมียจ๋า”
“.....มึงไปขอโน้ต stats จากคนอื่นเลยป่ะ”)
กลับด้วยกันมั้ยฮะ
ง่ายเหลือเกินที่จะปิดเกมตอนนี้
สัมผัสค้นหา ทำความรู้จักซอกมุมของเขาที่ตาผมได้แต่เฝ้ามอง
ปล่อยมือลูบไล้ไปตามความรู้สึก
แต่อย่างที่ว่า
ไม่มีอะไรเป็นเรื่องบังเอิญ
“เสียดายพี่ต้องซ้อมละครพรุ่งนี้” ผมยัดกระดาษแผ่นเล็กใส่อุ้งมือแบร์
กระซิบข้างหูเด็กหนุ่ม
“...ถ้าชอบละครเพลงก็ลองมาฟังดู”.
//
เพลงนี้มันแบร์อนาย! เพลงนี้ต้องแบร์อนาย!!
So what are we thinking
And what are we here to prove?
Let's stop being public
I guess we should get a room
*อิงแนวคิด
Predictably Irrational (
ไร้เหตุผลอย่างคาดการณ์ได้) ของนักจิตวิทยา Dan Ariely แดน อรายลี่ ภาพ header เป็นธีมสีจากหนังสือ
**ผู้ชายคนนี้มีตัวตนอยู่จริง
***จากคำคม "Of all the gin joints in all the towns in the world..." ใน Casablanca (1942) ทั้งที่โลกนี้มีบาร์มากมาย เธอกลับเดินเข้ามาในบาร์ผม
****ผู้ชายคนนี้มีตัวตนอยู่จริงเช่นกัน
ในเวิร์สแบร์อนายของเรา บทนี้เชื่อมโยงได้กับ:
a <--> b:
01: whiskey - 'บาร์' ที่พูดถึง ครั้งแรกที่แบร์และพี่นายเจอกัน จากมุมมองของแบร์
litanies of you:
day 4: dream - ความคิดของแบร์ ก่อนจะเดินเข้าไปหาพี่นายในบาร์
เป็นฟิคตอนที่เขียนยากและนานที่สุดที่เคยเขียนมาสำหรับคู่นี้
ถ้าอ่านยาวมาถึงตรงนี้ก็อยากขอบคุณ คุณมากๆ (คุณนั่นแหละ!)
อีกแปดตอน คนจะอ่านสักกี่คนส่วนตัวเราก็อยากเขียนให้จบอยู่ดี ไหนๆ ก็มาไกลขนาดนี้แล้ว
ไม่เคยคิดว่าตอนเริ่มเขียนเมื่อกันยาที่แล้ว จะมาถึงจุดนี้
อยู่กับแบร์และพี่นายเวอร์ fictional ของเรามานาน พยายามคิดหลายมุม จริงจังเว่อร์
มาคุย / ทักทายกันได้ที่
ทวิตนะคะ <3
ขอบคุณทุกกำลังใจเสมอ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in