1.
แป้นนนนน!! แป้นนนนนนน!!!แป้นนนนนนน!!!!
เสียงแตรรถยนต์แผดขึ้นติดๆกันกลางสามแยกในย่านเทาเมลระหว่างที่แดนกำลังจะก้าวข้ามถนนราวกับจะปลุกให้เขาตื่นขึ้นจากภวังค์
เฮ้อ!!เกือบไปแล้ว แดนคิดในใจ
ถ้าเขาก้าวเร็วอีกนิดและถ้ารถยนต์คันนั้นมาเร็วอีกหน่อย ป่านนี้ร่างสูงของเขาอาจจะกระเด็นไปไกลโน่นแล้ว
บางทีอาจจะต้องขอบคุณนิสัยการบีบแตรแบบทะลุทะลวงโสตประสาทของคนที่นี่เสียแล้วสิ
เนปาลวันแรกของเขาทำไมมันช่างยุ่งเหยิงและพังทลายได้ไม่เป็นท่าขนาดนี้ไหนจะโปรแกรมที่วางไว้ว่าจะท่องเมืองอย่างสำราญใจ แผนการที่จะไปเที่ยวชมสถาปัตยกรรมและวิถีชีวิตของชาวเนปาลีในวันแรกต้องหยุดชะงักไปเพราะชานและราชูไกด์ชาวเนปาลประสบอุบัติเหตุระหว่างที่มารับชาวคณะที่สนามบิน
โชคดีที่ชานและราชูนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรสาหัสเพียงแค่เคล็ดขัดยอกเพียงเล็กน้อยเมื่อไปเช็คอาการที่โรงพยาบาลเสร็จเรียบร้อยแล้วก็โทร.มาบอกพวกเขาว่าให้นั่งแท็กซี่เข้ามาที่โรงแรมได้เลย ทางนั้นขอจัดการกับคู่กรณีเสียก่อนแล้วจะตามมาโรงแรมภายหลัง
หลังจากวุ่นวายและสับสนอยู่ที่สนามบินได้สักพัก ชาวคณะก็ตั้งสติและเรียกแท็กซี่มาที่โรงแรมที่ชานจองไว้ให้ ไม่น่าเชื่อว่าจากทริปที่แดนวางไว้ในตอนแรกว่าจะมาคนเดียวกลับกลายเป็นต้องพ่วงอีกหลายชีวิตตามมา
ทั้งจินยองหนุ่มรุ่นน้องที่สนิท
ซองอูชายหนุ่มที่ตอนนี้เขาแทบจะเหม็นหน้าเลยทีเดียว
แจฮวาน เจ้านายที่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้มาเที่ยวด้วยกัน
จีซอง พี่ชายของเจ้านายเจ้าของร้านกาแฟใต้ออฟฟิศที่มีอะไรลึกลับอยู่ในตัวมากมาย
และสุดท้าย “จีฮุน” ชายหนุ่มบ้านเพื่อนบ้านที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามและในตอนนี้ความสัมพันธ์ได้พัฒนาจนกลายมาเป็น“แฟน”
ความสัมพันธ์ของเขากับจีฮุนมาไกลมาก...มากกว่าที่ตัวเขาและหลายๆคนคิด
แต่นั่นล่ะที่ทำให้แดนหงุดหงิดใจ ทั้งๆที่ความสัมพันธ์มาถึงขั้นนี้แต่ก็ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะจีฮุนบอกว่ายังไม่ถึง “เวลาที่เหมาะสม”
ไม่รู้ว่ามันเป็นเหตุบังเอิญหรือโชคชะตาที่ทำให้เขากับจีฮุนได้มาพบกัน และที่น่าแปลกในความสัมพันธ์นี้ก็คงจะเป็นแฟนของเขาและแฟนของจีฮุนต่างก็มีความสัมพันธ์ลับๆที่ไม่แน่ใจว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
“มินฮยอนกับอูจิน” - ปริศนาความสัมพันธ์ที่ยังต้องสืบค้นต่อไป
ความคิดของแดนเตลิดเพริดไปถึงไหนต่อไหนระหว่างที่เดินไปตามตรอกซอกซอยที่มีผู้คนพลุกพล่านในช่วงสามทุ่มเช่นนี้ กาฏมัณฑุที่เห็นในความมืดตอนนี้ดูเหมือนเป็นเมืองที่มีอะไรให้น่าค้นหาอยู่เยอะ แม้ว่าแดนเองจะไม่เคยเดินทางไปอินเดียแต่เขาก็รู้สึกถึงกลิ่นอายของความเป็นอินเดียหน่อยๆที่นี่แต่แน่ล่ะเนปาลก็คือเนปาลเค้าเหลือเวลาอีกสี่วันที่จะค้นหาว่าเนปาลเป็นอย่างไร แม้จะไม่ใช่จุดมุ่งหมายหลักของการเดินทางที่เขาตั้งใจว่าจะไปส่งวิญญาณของอูจินแต่นานๆครั้งได้เดินทางออกจากประเทศไทยก็น่าจะได้ลองซึมซับบรรยากาศใหม่ๆดูบ้าง
ถนนหนทางในเมืองกาฏมัณฑุนั้นขรุขระและเต็มไปด้วยฝุ่นฟุ้งชนิดที่ว่าถ้าเขาไม่ได้ใส่หน้ากากกันฝุ่นแล้วป่านนี้คงจะเมาฝุ่นจนสลบอยู่ข้างทาง
แดนใช้สองมือดึงสายหน้ากากกระชับให้เข้ากับใบหน้ามากขึ้นเมื่อลมพัดฝุ่นเคว้งลอยมาปะทะที่หน้าเขาเต็มๆ ก่อนจะสับเท้าเร็วๆเดินไปตามถนน สายตาของเขากวาดไปเรื่อย บ้างกระทบกับหญิงสาววัยรุ่นเนปาลีในชุดส่าหรีที่หยอกเอินกันอย่างน่ารัก บ้างก็กระทบกับรถเข็นขายน้ำทับทิมสดสีแดงน่ากิน บ้างก็ต้องใช้มือปัดป่ายกับชายแก่เนปาลีที่เดินมาพยายามจะยัดเยียดขายของที่ระลึกให้เขาเพราะรู้แน่ๆว่าอาตี๋ผิวขาวผิดแผกจากคนพื้นถิ่นเช่นนี้คงจะเป็นนักท่องเที่ยวอย่างแน่นอน
จุดหมายของเขาคือการไม่มีจุดหมาย
แม้จะดูย้อนแย้งแต่นั่นล่ะที่เขารู้สึกและเขาก็ทำมันไปแล้ว หลังจากที่เกิดเหตุการณ์บางอย่างที่โรงแรมเมื่อสักชั่วโมงที่แล้ว
จีฮุนนะจีฮุน! ทำไมถึงทำแบบนี้
ก่อนหน้าจะที่เช็คอินที่โรงแรมย่านทาเมลซึ่งเป็นย่านที่นักท่องเที่ยวนั้นมักจะมาพักเพราะเป็นศูนย์ที่มีของให้ช้อปปิ้งมากมายและมีร้านรวงให้นักท่องเที่ยวเลือกกินดื่มไม่น้อย แดนเดินออกจากโรงแรมหลังจากที่มีเรื่องให้เขาไม่สบอารมณ์- ใช่ ไม่สบอารมณ์เอาเสียมากๆ
จะเป็นเรื่องไหนไปได้ล่ะถ้าไม่ใช่เรื่องการแบ่งห้อง จีฮุนพักกับซองอู จินยองพักกับเขาแจฮวานกับจีซอง และชานกับราชู ทุกอย่างก็ดูเข้าคู่กันดี ไม่มีปัญหาถ้าหากแต่เพียงนายซองออูนั่นจะลอบมองจีฮุนด้วยสายตาอย่างที่ผู้ชายด้วยกันจะเข้าใจ
เขาไม่ไว้ใจองซองอู!!
2.
หลังจากแยกย้ายกันเข้าห้องพัก แดนก็ไลน์บอกให้จีฮุนออกมาคุยกันที่ล็อบบี้อย่างคนเอาแต่ใจ หลังจากได้รับข้อความจากแฟนตัวเองจีฮุนก็เดินหน้ามุ่ยมานั่งลงฝั่งตรงกันข้ามกับแดนที่ทำหน้ายู่อยู่
“พี่แดน เป็นอะไร เราคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอ” เสียงตึงเปล่งออกจากริมฝีบางบาง
“ก็คุยกันแล้ว พี่บอกว่าจะเปิดอีกห้องไงยังไงพี่ก็ไม่ไว้ใจคุณซองอูอะไรนั่น” อารมณ์ขุ่นของแดนเริ่มจะยั้งไม่อยู่
“แล้วดูเราสิ ทำไมต้องไปนั่งไกลขนาดนั้น ใช่ซี้พี่มันไม่ใช่ไอ้หนุ่มสถาปนิกเสน่ห์แรงนี่เนอะ”
“โอ้ยยย คนอะไร ตัวใหญ่แต่ใจเล็กเป็นบ้า พี่แดน! รู้ตัวบ้างป่าวว่าหึงแล้วพาล” จีฮุนคิดอยากจะยั่วแดนอีกสักหน่อยเลยสำทับไปอีกประโยคว่า
“ก็ไม่มีเหตุผลแบบนี้ไง หึงไม่เข้าเรื่องใครเขาจะอยากอยู่ด้วย”
“ใช่!! พี่มันไม่มีเหตุผล ไม่ต้องมาอยู่กับพี่หรอก นั่นไงคนที่จีฮุนอยากอยู่ด้วยเขามาตามแล้ว”
ใครจะไปคิดว่าจากที่จีฮุนจะยั่วเล่นๆ แต่การณ์กลับพลิกให้แย่กว่าเดิมเพราะองซองอูกำลังเดินมาที่โต๊ะและยังไม่ทันที่จีฮุนจะหันไปพูดอะไร พ่อหนุ่มขายาวก็สะบัดหน้าพรืดก่อนจะก้าวฉับๆออกจากล็อบบี้ชนิดที่ไม่บอกก็รู้ว่าโกรธจนควันออกหู
จีฮุนตั้งใจจะวิ่งตามไป แต่ยังไม่ทันจะก้าวขามือเล็กก็ถูกมือของซองอูคว้าไว้ก่อน
“อย่าไปเลย” ซองอูพูดนิ่งๆแต่แรงกระชับที่ข้อมือนั้นหนักแน่นและดูรุนแรงเกินว่าปกติ
“โอ๊ย เจ็บ” จีฮุนทำหน้าเหยเก
“พี่ขอโทษ” ซองอูรีบปล่อยมือ
“พี่ลืมตัวไปหน่อย พี่แค่ไม่อยากให้จีไป” น้ำเสียงของซองอูมีแววเว้าวอนอยู่ลึกๆ
จีฮุนมองตามร่างสูงไปด้วยตาละห้อย พี่แดนคงจะโกรธเรามากสินะ ความตั้งใจแรกที่ตามไปยังคงไม่หายแต่เขาจะต้องเคลียร์กับ “ปัญหา” ที่ยืนอยู่ตรงหน้านี่เสียก่อน ร่างเล็กตัดสินใจบางอย่างก่อนจะพูดออกไป
“พี่ซองอู จีคิดว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันหน่อย”
“เรื่องอะไร ใช่ที่พี่คิดอยู่รึเปล่า” ซองอูพยายามจะสบตากับคนตรงหน้าแต่จีฮุนเสไปมองทางอื่นก่อนจะหันมาพูดกับซองอูด้วยน้ำเสียงที่ไม่แน่ใจนัก
“อืมมม ไม่รู้สิ พี่ลองฟังดูก่อนมั้ย”
“ถ้าพี่จะบอกว่า พี่ไม่อยากฟังล่ะ จีจะว่ายังไง”
3.
จากที่ตั้งใจจะเดินไปแบบไม่มีจุดหมายเพียงแค่ต้องการไปให้ห่างจากจุดที่จีฮุนกับซองอูยืนอยู่แค่นั้น แต่ตอนนี้ร่างสูงเดินมาไกลจากที่พักมากขึ้นเรื่อยจนเริ่มหอบและไหนจะเสียงโครกครากในท้องเริ่มออกอาการอีก นี่มันก็เกือบสามทุ่มแล้วข้าวเย็นยังไม่ได้กิน จะหิวก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
เจ้าของนัยน์ตาเล็กยิบหยีที่เวลายิ้มทีตาแทบจะเป็นขีดเดียวกำลังสอดส่ายสายตาหาร้านอาหารแน่ล่ะ เวลาและอารมณ์แบบนี้ควรจะเป็นร้านที่เขาสามารถจิบเบียร์ “ชิลๆ” ผ่อนอารมณ์ไปด้วยได้โดยเฉพาะอารมณ์คุกรุ่นตอนนี้
อารมณ์ที่จีฮุนบอกว่า “หึงไม่เข้าเรื่อง”
เด็กบ้าเอ้ยยย! เธอเป็นของฉันแล้ว เธอเป็นคนของฉันแล้ว
ฉันจะปล่อยให้เธอไปนอนร่วมห้องกับไอ้หนุ่มน้องแฟนเก่าที่คิดไม่ซื่อได้ยังไง
จีฮุนช่างไม่เข้าใจอะไรเลยจริงๆ เรื่องความเหมาะสมนั่นอีกตั้งแต่ที่เข้ารู้ว่าอูจินกับมินฮยอนนั้น “นอกใจ” ทั้งเขาและจีฮุนเขาก็มองไม่เห็นว่าจะเสียหายตรงไหน
แต่นั่นล่ะ จีฮุนกับเขาแตกต่างกัน
จีฮุนเป็นคนถนอมน้ำใจคนและคิดมากอยู่เสมอ แต่ใช่ว่าเขาจะเป็นคนไม่รู้จักกาลเทศะเสียหน่อย เขาตั้งใจว่าจะให้จีฮุนไปพักกับจินยอง ส่วนเขาจะยอมทนฝืนใจไปนอนร่วมห้องกับคนที่เขาเหม็นขี้หน้าแทน เพราะเข้าใจดีว่าการไปเปิดห้องใหม่แล้วให้จีฮุนมาพักด้วยกัน มันออกจะดูประเจิดประเจ้อเกินไป เขาคงไม่ทำแบบนั้นแน่
ระหว่างที่คิดเพลินๆพร้อมกับเดินไปด้วยพลันสายตาก็ไปปะทะกับร้านSecret Garden Café ที่อยู่อีกฟากถนน ประเมินจากสายตาคร่าวๆ ร้านนี้น่าจะชิลดีเหมาะที่จะหยุดพักอารมณ์หึงบ้าบอนั่นที่นี่
ตัดสินใจเพียงไม่นานร่างสูงก็มานั่งในร้านเรียบร้อยกวาดสายดูเมนูที่นี่มีทั้งอาหารเอเชียและอาหารฝรั่ง ก่อนจะสั่งอาหารแดนบอกบริกรให้เอาเบียร์เย็นมาก่อน ไม่นานนักเบียร์คราฟเย็นจัดก็เสิร์ฟถึงมือ แดนจิบเบียร์ก่อนจะผ่อนลมหายใจลง
“ดีชะมัด” นึกในใจก่อนจะหยิบโทรศัพท์มากดดูที่แอพพลิเคชั่นแชตสีเขียว ไร้วี่แววของจีฮุน ไร้การโทรไร้การส่งข้อความมาตามหาเขา ป่านนี้คงขึ้นห้องไปคุยกระหนุงกระหนิงกับนายนั่นแล้วสิ คิดในใจพลางกระดกเบียร์รวดเดียวจนหมดแก้ว
เหมือนรู้ใจ บริกรชาวเนปาลีผิวนัยน์ตาเข้มจมูกโด่งก็เข้ามาเติมเบียร์ให้อย่างทันท่วงที หลังจากนั้นเจ้าตัวก็สั่งอาหารไปสามอย่าง ในใจก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าได้มากินกับจีฮุนก็คงดี คงดีกว่าการมานั่งแกร่วจิบเบียร์อารมณ์ซังกะตายแบบนี้
จมในห้วงคิดวุ่นๆได้ไม่นานนัก เสียงเตือนจากแอพสีเขียวก็ดังขึ้น
จีฮุน: อยู่ไหนแล้วพี่แดน
หลังจากอ่านข้อความนี้แล้วอารมณ์ของเขาเหมือนจะดีขึ้นมาราวกับเจ้าของข้อความร่ายมนต์ใส่ แต่จะตอบดีๆมันก็ใช่ที่ไหมล่ะ คนเรามันต้องมีฟอร์มกันหน่อยน่า
แดน: สักที่ในเนปาลนี่แหละ ห่วงพี่ด้วยเหรอ
จีฮุน: แหมถามได้ห่วงสิ แฟนทั้งคน
แดน: ห๊ะ อะไรนะ
จีฮุน : ตอบมาว่าอยู่ไหน
แดน: ทำไมจะมาหาเหรอ มาไม่ถูกหรอก
จีฮุน: งั้นพี่แดนก็รีบกลับโรงแรมได้แล้ว หายงอนได้แล้ว
แดน: ป่าวงอนซะหน่อย หิวเลยออกมาหาอะไรกิน
จีฮุน: กินอิ่มยัง อิ่มแล้วก็รีบกลับมา ง่วงแล้ว
แดน: ยังไม่ได้กินเลยเนี่ย อาหารยังไม่มา
จีฮุน: งั้นกินให้เสร็จ ค่อยมาก็ได้
แดน: เดี๋ยวนะเมื่อกี๊จีบอกอะไรนะ ง่วงแล้ว? หมายความว่าไง
จีฮุน: ก็ไม่หมายความว่าไง หมายความตามนั้น
แดน: โอเค้ตามนั้นก็ตามนั้น ง่วงก็นอนซะสิ คนในห้องเค้าก็คงง่วงแล้วล่ะสิ
จีฮุน: คนในห้องเหรอ เขายังไม่กลับมาเลย
แดน: อ้าว ไปไหนล่ะ
จีฮุน: งอนแฟน หึงแฟน แล้วก็หายไปเลย
แดน: เดี๋ยวๆ อะไรนะ งง ใครแฟน
จีฮุน: พี่แดน อย่าให้จีปวดหัวกว่านี้เลย แค่นี้ก็จะแย่
แดน: ห๊ะ คืออะไรไม่เข้าใจ
จีฮุน: ของพี่ย้ายมาห้อง 1211 แล้วนะ
แดน: 1211 นั่นมันห้องจีกับคุณซองอูนี่นา
จีฮุน: ทำไมเป็นคนเข้าใจยากอะไรแบบนี้ รีบกลับมา ไม่งั้นไม่ให้นอนด้วยนะครับคืนนี้
แดน: หมายความว่า? โอ้ยยยย พี่ไม่กินแล้วข้าว เดี๋ยวสั่งใส่ห่อไปกินที่โรงแรมละกัน
จีฮุน : ตามใจพี่เลย
4.
อารมณ์ขึ้งเครียดและความอ่อนล้าจากการเดินทางตั้งแต่เช้า เหมือนจะละลายหายไปทันทีเมื่อแดนก้าวเท้าเข้าไปยังห้อง 1211 หลังจากวางถุงอาหารที่ให้ร้านห่อให้เจ้าตัวก็รีบเข้าไปคว้าร่างเล็กมาไว้ในอ้อมกอด
ส่วนสูงที่แตกต่างกันอย่างพอเหมาะของเขากอดร่างเล็กจนจมอก กอดอยู่นานจนมีเสียงอู้อี้ออกมาว่า
“พี่แดน จีหายใจไม่ออกแล้ว ปล่อยก่อนนะครับ”
“ไม่ปล่อยง่ายๆหรอก จะกอดอยู่ยังงี้” แม้ปากจะบอกว่าไม่ยอมปล่อย แต่เขารู้ดีว่าน้ำหนักอ้อมกอดเมื่อกี๊อาจทำให้จีฮุนหายใจลำบากมือใหญ่คล่อยๆคลายกอดให้อยู่ในสภาวะสบายๆกว่าเมื่อครู่ ให้คนรักตัวน้อยของเขาได้มีพื้นที่หายใจและแน่นอนร่างเล็กนั่นกำลังย่นจมูก มองค้อน ตาคว่ำใส่เขา
สำหรับแดนแล้ว ไม่ว่าจีฮุนจะทำหน้ายังไงมันก็คือความน่ารักไปหมด
“พี่แดนนะพี่แดน โตแล้วยังจะงอนเหมือนเด็ก”
“ทำให้จีเป็นห่วงแทบแย่”
“แล้วรู้มั้ยเนี่ย ว่าจีต้องเจออะไรบ้าง” ร่างเล็กจ้องหน้าเขาเขม็งก่อนจะซุกหน้าลงบนอกอีกครั้ง
ไม่รอช้า แดนปล่อยมือและเปลี่ยนจังหวะมาอุ้มจีฮุนไปที่เตียงอย่างรวดเร็ว
“อุ้มทำไม เดินเอาก็ได้แค่เนี้ยเอง” จีฮุนบ่นอุบอิบหน้าแดงไปหมดด้วยความเขินอาย แดนวางร่างเล็กอย่างทะนุถนอมบนเตียง ก่อนจะนั่งแหมะลงข้างๆ แล้วใช้มือขวาประคองร่างบางเข้ามาชิดอย่างถนอมมือ
“ว่าไงครับ เจออะไร แล้วทำไมพี่ได้มาอยู่ห้องนี้”
“จีบอกความจริงพี่ซองอูไปแล้ว”
“บอกว่า ?”
“บอกว่าจีคบกับพี่แดนอยู่”
“ทำไมล่ะ ไหนจีบอกว่ามันยังไม่ถึงเวลา”
“ก็ใครเล่าที่ทำให้มันเป็นแบบนี้”
“อ่า พี่ขอโทษนะ พี่ไม่ได้ตั้งใจ” น้ำเสียงของแดนบ่งบอกความรู้สึกผิดเสียเต็มประดาเขาไม่คิดว่าอารมณ์หึง อารมณ์น้อยใจสารพัดสารเพจนทำให้คนข้างๆเขาต้องตัดสินใจทำในสิ่งที่เจ้าตัวเห็นว่ายังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม
“แล้วคุณซองอูว่ายังไง”
“ก็ไม่ว่ายังไง พี่ซองอูบอกว่าเข้าใจแล้ว น่าแปลกที่ไม่ถามเซ้าซี้อะไรเลยแถมเรื่องเปลี่ยนห้องก็เป็นเรื่องที่พี่ซองอูเสนอเอง”
“อ้าวเหรอ”
“จริงๆตอนแรกพี่ซองอูจะไปเปิดอีกห้องแต่จินยองบอกมาให้มานอนด้วยได้ จินยองอยู่ได้กับทุกคน”
“เฮ้อ พี่เลยกลายเป็นคนที่ทำให้ทุกคนวุ่นวาย”
“รู้ตัวก็ดี” จีฮุนว่ายิ้มๆ
“กินข้าวยังเนี่ย นี่พี่สั่งมาจากร้านเยอะเลย”
“จะเอาเวลาที่ไหนไปกินล่ะ มัวแต่วุ่นวายอยู่เนี่ย”
“ขอโทษนะครับ ขอโทษจริงๆ”
ว่าแล้วแดนก็คว้าหมับเข้าที่เอวบางและหอมแก้มนิ่มไปหนึ่งฟอด
“พอแล้วพี่แดน กินข้าวก่อนน๊า”
“เราน่ะไปกินซะ ส่วนพี่ไม่หิวข้าวแล้ว”
“อ้าว ไหนบอกยังไม่ได้กินไงครับ”
“ก็ไม่หิวข้าวแล้ว เปลี่ยนมาเป็นหิวเราแทน” แดนพูดพลางส่งสายตาเจ้าเล่ห์
“โอ้ยยยย ไอ้พี่บ้า” ไม่พูดเปล่า จีฮุนฟาดแรงๆไปที่อกหนานั่นหนึ่งที
“โอเคๆ กินข้าวกันก่อนเนอะ กินเสร็จค่อยว่ากันว่าจะทำอะไรต่อ”
5.
หลังจากจัดการกับข้าวปลาอาหารแล้ว ทั้งคู่ก็ผลัดกันจัดการชำระล้างร่างให้สบายตัวอันที่จริงพ่อหนุ่มเจ้าเล่ห์พยายามจะเข้าไปอาบพร้อมกับคนรัก ก่อนจะโดนฟาดอีกครั้งก่อนจะทิ้งความหวังไว้ด้วยเสียงอ้อนๆว่า “ไว้วันหลังนะพี่แดน”
เมื่ออาบน้ำจัดแจงทุกอย่างเสร็จ แดนและจีฮุนก็ทิ้งร่างลงพักผ่อนบนเตียงนุ่มพร้อมๆกับเปิดทีวีดูช่องท้องถิ่นไปด้วย สองร่างนอนเหยียดขาสบายๆ บนเตียงขนาดห้าฟุต แดนถือรีโมทเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆและดูเหมือนว่าจีฮุนจะไม่ได้สนใจภาพและเสียงบนหน้าจอนั่น รู้ตัวอีกทีก็อยู่ในอ้อมแขนของ “พี่แดน” เสียแล้ว
“พี่แดนแน่ใจนะว่าสั่งผัดกะเพราไก่มา ทำไมมันกลายเป็นสะระแหน่ไปได้” จีฮุนยิ้มกว้างในอ้อมกอดอบอุ่นคนร่างใหญ่
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันอะสงสัยเค้าไม่มีใบกะเพรามั้ง” ว่าแล้วแดนก็หัวเราะยิงฟันกว้าง
จีฮุนชอบที่แดนเป็นแบบนี้ แดนเป็นผู้ชายที่พร้อมจะยิ้มและหัวเราะไปกับอากัปกิริยาของจีฮุนทุกอย่างยกเว้นตอนที่อยู่กับซองอูนั่นแหละ
“ขอโทษนะวันนี้พี่ขี้หึงไปหน่อย” เปิดประเด็นที่รอมานานหลังจากกินข้าวเสร็จ
“ไม่หน่อยแล้วล่ะมั้ง ถึงขั้นต้องย้ายห้อง ไม่รู้จินยองจะเป็นไงบ้าง” จีฮุนทำหน้าบึ้งใส่
“พี่เคลียร์แล้ว จินยองมันโอเคมันรู้เรื่องของเราก่อนมาที่นี่อีก” แดนกระชับกอดขึ้น ก่อนมือเล็กจะป่ายขึ้นมายีที่หัว
“นี่แน่ะๆ ป่าวประกาศไปหมดเลยนะ”
“ยีหัวพี่ทำไม จินยองมันน้องสนิทอะ”
“สนิทกันมากเหรอ” ปลายเสียงสะบัดเล็กน้อบโดยที่เจ้าของวงหน้าสวยไม่รู้ตัว
“แน่ะๆ ทำไมๆ หึงเหรอ” ร่างใหญ่กระเซ้าก่อนจะแนบแก้มตัวเองชิดกับแก้มนิ่มสีปลั่ง
“บ้า ใครจะหึงง่ายเหมือนพี่แดนล่ะ” จีฮุนทำตาคว่ำ ย่นจมูกเล็กน้อย ก่อนหันไปสบสายตาเข้มที่มองมาตั้งแต่แรกแล้ว
“ที่หึงก็เพราะรักยังไงล่ะ ไม่รักไม่หึงให้เสียเวลาหรอก”
หลังจากเปล่งเสียงเข้มออกไป แดนไม่รอช้า เขาค่อยๆก้มลงประกบกลีบปากบางนั่น ก่อนจะกวาดลิ้นลากไล้เอาความหอมหวานของจีฮุนมาไว้ที่ปากของตัวเองจนร่างเล็กแทบจะหายใจไม่ทัน
จูบแรกในกาฏมัณฑุผ่านไป
และแน่นอนว่าคนอย่างแดนคงไม่ปล่อยให้หยุดแค่จูบหรอก
เพราะเขาเป็นคนขี้หึงไง และคนที่ทำให้หึงก็น่ารักน้อยเสียที่ไหนเล่า
วันนี้เขาจะให้บทเรียนจีฮุนเสียหน่อยว่า ถ้าทำให้หึงบ่อยๆจะต้องเจออะไรบ้าง
อะไรที่ว่านั่น
มันเริ่มแล้ว เมื่อเขาค่อยๆถอนจูบสองของวันที่ทั้งหนักหน่วงและอ่อนหวานแล้วงับเข้าที่ใบหูข้างซ้ายของคนตัวเล็กก่อนจะใช้จมูกไซ้ที่ลำคอขาวนวลจนเป็นสีแดงเถือก...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in