กะหล่ำในเดือนที่สี่... ของการเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้
อยากจะพูดอะไรสักหน่อยในฐานะมะนุ้ด(มนุษย์)ของกะหล่ำ
ถึงแม้เจ้าตัวที่ต้องการเขียนถึงจะไม่อยู่แล้วก็ตาม
เดือนสุดท้ายแล้ว สี่เดือนที่ผ่านมาเองมันก็มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น
ทั้งดี ทั้งดื้อ และดื้อมาก
จนถึงทุกวันนี้ เวลาผ่านบ้านหลังนั้นทีไร (ที่จริงก็ผ่านทุกวัน) มันก็อดไม่ได้ในการย้อนกลับไปตอนที่เราเดินไปพาแมวเรากลับมา ตอนที่เห็นมันนอนอยู่บนพื้นหลังรถกระบะในบ้านเขา มัวแต่นอนอยู่นั่นแหละ เรียกก็ไม่ตอบ ไม่กระดิกหาง ไม่หือไม่อืออะไรทั้งนั้น อาหารเม็ดหมดจะออกไปซื้อให้ยังไม่ทันได้ไปซื้อ
จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าหล่ำมันตกลงไปในบ้านเขาได้ยังไง มันอาจจะปีนรั้วหลังบ้าน เจอแมวตัวใหญ่ไล่จนตกลงไป เฮ้อ... ก็ได้แต่สันนิษฐานไปต่างๆ นานา
ในตอนแรกที่ตั้งใจว่าจะลองเขียนอะไรยาวๆ หน่อย แต่เหมือนมันจะเป็นการทำร้ายตัวเองทางอ้อมในเรื่องความรู้สึกดีๆ ที่ลูกแมวแง่งขิงตัวนึงทิ้งไว้
ตอนที่ผ่านๆ มา จะลองแทนตัวเองเป็นกะหล่ำ ไอ้ตัวเรายังทำได้ไม่ดีพอ
เราไม่รู้ว่าแมวเราคิดอะไร เราแค่มองท่าทางของมันที่แสดงออก มองสายตาของมันแต่คาดเดาไปเอง
กะหล่ำเป็นแมวตัวแรกในรอบเจ็ดปีที่ได้พามาเลี้ยงที่บ้าน อันที่จริงที่บ้านเคยมีแมวสีส้มตัวหนึ่งแบบกะหล่ำ ตัวนั้นชื่อตาล แต่ตาลโดนรถชนตาย ในสภาวะที่เด็กอายุ 11 ขวบต้องมารับความจริงว่าแมวตัวเองตายไปแล้ว เช้านั้นตาบวมไปโรงเรียนเลย.. แต่ก็ยังเลี้ยงตัวอื่นต่อๆ มา
ส่วนกะหล่ำ ไม่คิดไม่ฝันว่าจะนั่งกอดมันแล้วก็ร้องไห้ต่อหน้ามันอีกนับจากครั้งแรกที่เคยนั่งร้องไห้ต่อหน้าแมว วันนั้นกะหล่ำมานั่งเป็นเพื่อน เหมือนมันรู้ว่าเราเศร้า เราไม่โอเคนะ (นี่ก็คาดเดานั่นแหละ) มันมาอยู่ด้วยจนใจชื้นขึ้นมา แต่ครั้งที่สองมันไม่ตอบสนองอะไรเราเลย
เซลฟี่กันหน่อย
เพราะได้ตามเพจแมวมาเยอะ อ่านกระทู้พันทิปเกี่ยวกับการเลี้ยงแมวมาพอสมควร ครั้งแรกเลยมีตื่นเต้นบ้าง ไม่เคยซื้อกระบะทรายให้แมวก็ซื้อ เห็นมันไปอึ๊ในกระบะทรายครั้งแรกนี่ตื่นเต้นมาก ตื่นเต้นยิ่งกว่าได้เอตัวเมเจอร์อีก
กะหล่ำเป็นแมวสู้กล้อง เพราะกล้องมันจะมีเสียงแชะๆ ดังออกมาช่วงถ่ายรูป มันเลยสงสัย
กะหล่ำชอบกล่อง ชอบเข้าไปอยู่ในกล่อง พุ่งเข้าใส่กล่อง
(กันยา / กล่องขนาด B)
ครั้งหนึ่งเคยเอากะหล่ำใส่ถุงพลาสติก มันนิ่ง นิ่งมาก เหมือนอยู่ในถุงแล้วอุ่น หิ้วไปไหนก็ไป ไม่หือไม่อือ มองตาโตอย่างเดียว..
กะหล่ำทำให้เราเป็นคนบ้าถ่ายรูป(แต่มัน)ไปเลย
ปกติไม่ค่อยชอบถ่ายรูปน่ะ...
เรื่องราวในทวิตเตอร์ก็ถือเป็นเรียลไทม์ในช่วงขณะนั้น ส่วนตอนนี้ลูกแมวแง่งขิงย้ายบ้านไปในที่ไกลแสนไกลแล้ว หลงเหลือเพียงแค่ภาพถ่ายหยุดเวลาไว้ให้มาย้อนดูและคิดถึง
พอได้รู้จักกันก็เริ่มผูกพัน พอผูกพัน เราก็รักเขาไปแบบไม่รู้ตัว
พอเขาจากไป ปมในใจเรายังอยู่ มันทั้งใจหายและก็ค้างคาแบบบอกไม่ถูก
วันแรกที่เรารับกะหล่ำมา ในใจเองก็มีแต่ความกังวลลึกๆ ว่าจะดูแลเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวน้อยตัวนี้ได้ดีไหม
เราแค่อยากทำให้เขามีความสุข มอบชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิมให้กับเขา
ช่วงที่เราอยู่ด้วยกันในทุกๆ วัน เราได้รับความสุขจากเขา แต่ช่วงเวลาของเรามันน้อยเหลือเกิน
ขอโทษที่ดูแลได้ไม่ดี
แต่เราก็ยังหวังนะว่า
ในช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน
เขาจะมีความสุข เหมือนกับเรา
และวันสุดท้าย
ถึงอยากจะเป็นความสุขให้ยังไง แต่ก็เป็นไม่ได้อีกแล้ว
คิดถึงจัง
รักนะ กะหล่ำ
ไว้เรามาพบกันใหม่ :)
อ่านแล้วคิดถึง คือก็รู้จักกะหล่ำจากไหนทวิตนี้แหละ เห็นแล้วถูกชะตามากๆ กะหล่ำดูเป็นแมวซื่อๆ ซนๆ น่ารักได้ใจมาก
แต่ไม่คิดว่าวันนึงจะได้เจอข้อความที่บอกว่ากะหล่ำได้จากไปแล้ว เลยอดเห็นความซนๆของกะหล่ำ...
จำได้ว่าวันนั้นยังรีรูปที่น้องนอนเล่นในกล้องอยู่เลย :(
เศร้าจัง.... ไม่คิดว่าวันนึงตัวเองจะเป็นเเฟนคลับแมวในโซเชียลก็ได้เป็น
ไม่คิดว่าจะร้องไห้ เพราะแมวคนอื่น ก็ได้ร้อง 55555
มันไม่ถึงขนาดรัก แต่พอเห็นทุกวันก็ผูกพันไปด้วย ㅠㅠ
ขอให้ได้อยู่ในภพภูมิที่ดีขึ้นนะหล่ำ :)