แต่จุดเปลื่ยนของเรามันง่ายมาก เราเคยเจออินโฟกราฟฟิคอันนึงที่แสดงช่วงเวลาที่พีคที่สุดสำหรับการทำกิจกรรมนั้นๆ มีตั้งแต่ควรเริ่มเรียนภาษาตอนไหน brain processing cap. พีคตอนไหน วิ่งมาราธอนตอนไหน คือไม่รู้ว่ามันเชื่อได้แค่ไหนอ่ะนะ เพราะไม่เห็นมีการอ้างอิงถึงวิจัยหรือหนังสืออะไรเลย แต่มันมีอย่างนึงที่เราต้องการนั่นคือ "เดทไลน์"

เราอยากลองวิ่งมานานแล้ว แต่เราไม่เคยเซ็ตเดทไลน์ให้ตัวเองเลย มันก็เลยไหลไปเรื่อยๆ เราเลยเชื่อในพลังของเดทไลน์ 55555

แต่ก่อนจะเข้าเรื่อง ขอย้อนไปนิดนึง

ต้องท้าวความก่อนว่าตัวเองห่วยกีฬามาก ไม่ว่าช่วงชีวิตไหนก็จำไม่ได้ว่าตัวเองเก่งกีฬา แข่งอะไรก็ได้ที่ท้ายๆตลอด แล้วเป็นคนเหงื่อออกง่ายมาก แค่วิ่งไม่กี่เมตรนี่เหมือนไปโดนใครราดน้ำใส่ตัวมา เพื่อนเห็นสภาพแต่ละทีก็ถามยูโอเคป่าววะ? พอเหงื่อออกง่ายก็รำคาญ เหนียวตัว เสื้อเปียก พาลหงุดหงิดอีก เคยกังวลเรื่องนี้มากๆ เลยลองเสริชกูเกิ้ลดู and just like how every self-diagnose process ends พอกูเกิ้ลบอกว่าอาจจะเป็น symptom ของมะเร็ง ดิฉันเลยเลิกอยากรู้ก็ได้วะ ช่วงเวลาที่ active ที่สุดในชีวิตเห็นจะเป็นตอนม.ปลาย อยู่ทีมซอฟต์บอล ทีมฟุตบอล ทีมแบต ถึงจะเป็นตัวสำรองหมดแต่ก็ต้องซ้อมตอนเย็น (โดนเพื่อนลากไปทั้งนั้น) แต่พอเข้ามหาลัยแล้วก็เลิกเพราะคิดว่าตัวเองไม่ได้มาสายนี้

แต่มันก็มีช่วงนึงที่เราหันกลับมาสนใจสุขภาพ ไม่ได้อกหักหรือเริ่มมีความรักหรืออะไร แต่เป็นอารมณ์ถามตัวเองแล้วก็ challenge ว่า "คิดว่าตัวเองจะมีรูปร่างดีกว่านี้ได้มั๊ย? ไหนมาลองดูดิ๊" เริ่มจากโยคะ เพราะ.. มันมีคลาสฟรีที่มหาลัย และเราอยากลองเพราะไม่เคยลองมาก่อน เข้าไปได้คลาสเดียวก็พบว่านอกจากดิฉันจะเอามือแตะพื้นไม่ได้แล้ว ท่าสะพานโค้งที่เคยทำได้ตอนเด็กๆก็ยกไม่ขึ้นแล้วด้วย เลยไปสมัครลง hot yoga และลามไป fitness น้ำหนักลงไปเกือบๆ 10 โลภายในเวลา 4 เดือนกว่าๆซึ่งก็ดี แต่ที่สำคัญคือรู้สึกสดชื่นแล้วก็มีแรงขึ้นเยอะ แต่หลังจากนั้นก็เพลาๆไปจนเริ่มทำงาน ลูปคือเหนื่อย แล้วเครียดง่าย พอเครียดแล้วก็กินระบายอย่างเดียว ภายใน 3 ปีน้ำหนักพุ่งไป 18 โลจากเดิม

พอออกจากงานมาช่วงปีใหม่ก็เลยตั้งเป้าว่าปีนี้จะเทรนวิ่งมาราธอน จะได้มีสุขภาพดีซะที แต่ก็มีเหตุให้ดีเลย์ไปอีกเพราะเอ็นเข่าซ้ายฉีกจากการไม่ประมาณตนตอนเล่น snowboard (...) พักฟื้นอยู่ประมาณ 3 เดือน กว่าจะกลับมาเดินได้ดีๆก็พฤษภาแล้ว

แต่ก็นะเป้าหมายมันห่างไกลเหลือเกิน ปีนี้เลยขอวิ่งแค่ 10k ก่อนแล้วกัน แล้วค่อยๆ build up pace time ไปเรื่อยๆ

หลังจากนี้ก็คงเป็นการจดบันทึกการวิ่ง อาจจะไม่ได้วิ่งเร็ว เพราะตอนนี้ pace ก็อยู่ที่ 8 กว่าๆ 5555 แต่ก็ลงทะเบียนงานแข่งไปแล้วอะนะ ยังไงก็ต้องเข้าเส้นชัยให้ได้แหละ

Info graphic ที่ว่า: