อ้างอิงจากบทความนี้
การพยายามลบความแตกต่างของเพศวิถี เพื่อให้ทุกคนมีความเท่าเทียม
ด้วยคำที่ว่า “รักไม่มีเพศ” หรือ“เพศอะไรก็ไม่สำคัญ”
ซึ่งนั่นไม่ต่างจากการปิดหูปิดตา หรือเลือกที่จะไม่รับรู้ถึงความแตกต่างในสิ่งที่อีกฝ่ายเป็นอยู่
ทั้งๆ ที่พวกเราควรจะออกมาพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำได้ว่าเราเป็นเพศอะไร ชอบเพศอะไร
หรือสิทธิ์ในการ Coming out ถึงตัวตนของพวกเราเอง
แต่พวกเขากลับเลือกที่จะลบตัวตนของเพศทางเลือกออกไป
แน่นอนว่าสิ่งที่ชาว LGBTQ+ อย่างพวกเราต้องการมากที่สุด
ก็คือการที่สามารถออกมา
แต่ในความเป็นจริง
มันไม่ได้สวยงามเหมือนอย่างในซีรีส์วาย หรือหนังบางเรื่องที่ทุกอย่างดูออกมาราบรื่นไปเสียหมด
ไม่ใช่ทุกคนที่จะคอยมายอมรับกับสิ่งที่เราเป็นได้ภายในเพียงไม่กี่นาที
สิ่งที่ตามมาของการที่ไม่สามารถ
ก็คือความอึดอัดใจที่เกิดขึ้นภายในครอบครัวและสังคมรอบข้าง
เมื่อพวกเขาไม่ยอมรับในตัวตนของพวกเรา เราจึงต้องใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งที่ตัวเองเป็นอย่างหลบๆ ซ่อนๆ
ทั้งๆ ที่สิ่งที่พวกเราเป็น มันไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยด้วยซ้ำ
เพราะนี่คือตัวตนของเรา มันเป็นสิ่งที่พวกเราตัดสินใจมาแล้ว
แต่พวกเรากลับไม่สามารถเปิดเผยและมีความสุขกับชีวิตได้อย่างที่ควรจะเป็น
ทั้งๆ ที่เราก็ยังเป็นเราคนเดิม ที่มีความชัดเจนในตัวเองมากขึ้น…
ลึกๆ แล้ว เราไม่ได้คาดหวังให้คนรอบข้างจะมาเข้าใจหรือยอมรับในสิ่งที่เราเป็น
เราหวังเพียงแค่คนที่ใกล้ตัวเราที่สุด อย่างคนในครอบครัว เข้าใจเราก็พอ
แต่พวกเขากลับไม่เคยจะเข้าใจและรับรู้ถึงความรู้สึกอึดอัดตลอดที่ผ่านมาของเราเลย
เมื่อเราเลือกที่จะ Coming out ออกไป
บางครอบครัวก็ถึงกับเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย
บางครอบครัวก็คิดว่าเพศทางเลือกคือความผิดปกติถึงขั้นให้ไปพบจิตแพทย์
บางครอบครัวก็บอกว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของวัยรุ่นโตไปเดี๋ยวก็เปลี่ยนเอง
พวกเขาได้สร้างรอยแผลขนาดใหญ่ที่ไม่มีวันหายให้กับเราโดยที่ไม่รู้ตัว
จนทำให้เราต้องเลือกที่จะผ่านเรื่องนี้ไปโดยลำพัง อย่างหลบๆ ซ่อนๆ กันต่อไป
และได้แต่ภาวนาอย่างมีความหวังว่าจะคงมีสักวันหนึ่ง
ที่พวกเขาจะยอมเปิดใจยอมรับถึงตัวตนของพวกเราสักที....
ถึงคนรอบข้าง
เราไม่ได้ขอให้คุณเข้าใจพวกเราได้ในทันทีแต่ขอแค่ ค่อยๆ เปิดใจยอมรับตัวตนของพวกเรา แค่นั้นมันก็ดีมากพอแล้วจริงๆ และถ้าคนรอบข้างของพวกคุณมีใครเป็นเพศทางเลือก อยากให้ปฏิบัติกับเขาเหมือนเป็นเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง อย่าพยายามที่จะลบตัวตนของเขา เพียงเพราะเขามีตัวตนและความชอบที่แตกต่างไปจากคุณ
สวัสดีค่ะ บทความนี้เป็นบทความแรกของเราเลย
บทความนี้เกิดขึ้นจากกระแส
เราเป็นเด็กคนหนึ่งที่ไม่สามารถ
แต่เราจะผ่านมาถึงทุกวันนี้ไม่ได้เลยถ้าไม่มีคนรอบข้างนอกเหนือจากคนในครอบครัว
ที่ยอมรับถึงตัวตนของเรา เข้าใจในสิ่งที่เราเป็น
พวกคุณทุกคนเป็นพลังบวกและกำลังใจที่ดีของเราจริงๆขอบคุณที่ไม่ทำให้เราต้องสู้อย่างโดดเดี่ยว
ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ
หากท่านใดที่นึกภาพของการ Coming out ไม่ออก อยากให้ได้ลองดูหนังเรื่อง Love, Simon ค่ะ
ในตอนที่ไซม่อนออกมาเปิดเผยว่าตัวเองเป็นเกย์ ไซม่อนก็ไม่ได้ถูกคนรอบข้างยอมรับได้ในทันที
แถมเขาต้องคอยรับมือกับความกดดันที่ได้รับจากคนรอบข้างด้วยตัวคนเดียว
จนผ่านไปสักพัก คนรอบข้างถึงจะค่อยๆ กล้าที่จะเปิดใจและ
ขอโทษไซม่อนที่ทำให้เขาต้องรู้สึกอัดอึดมาตลอด…
หนังเรื่องนี้ถือว่าเป็นหนัง LGBTQ+ เรื่องหนึ่ง
ที่ถ่ายทอดประเด็นการ Coming out ออกมาได้ดีเยี่ยมเลยทีเดียว
เพราะสุดท้ายแล้ว สิ่งที่พวกเราต้องการ ก็คือการยอมรับจากคนรอบข้างจริงๆ…
ถ้าบทความนี้ผิดพลาดตรงจุดไหนไปต้องขออภัยด้วยนะคะ
และขอขอบคุณทุกคนมากๆ ค่ะ ที่ได้เสียสละเวลาอันมีค่า มาอ่านบทความน้อยๆ นี้จนจบ
สุดท้ายนี้ไม่ว่าจะอีกฝ่ายจะเป็นเพศอะไร ทุกคนย่อมมีความรู้สึกนึกคิดเหมือนกันหมด
ค่อยๆ ลองเปิดใจให้คนรอบข้างของเรากันนะคะ อย่าลืมที่จะให้เกียรติซึ่งกันและกัน
สังคมดีๆ เริ่มต้นได้ที่ตัวเราค่ะ :)
SuicideKuma
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in