เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
โดดเดี่ยวเดินทาง ณ California, USAMy Green House
ขับรถเที่ยวคนเดียวครั้งแรกที่ California (2)
  •                วันรุ่งขึ้นเดินทางขึ้นเหนือต่อไปยัง Hearst Castle (จาก Solvang ไป ถึงปราสาทนี้ประมาณ 108 ไมล์) ตอนไปก็ไม่ได้หาข้อมูลเลยว่ามันคืออะไร เปิด Google เจอรูปสวยแล้วไปเลย แค่ดูออกว่าเป็นปราสาท อีกอย่างในชีวิตยังไม่เคยไปปราสาทเลยซักครั้ง ขอเกริ่นข้อมูลคร่าวๆก่อน จริงๆแล้วที่นี่ไม่ใช่ปราสาท เรียกได้ว่าเป็นบ้านเลยด้วยซ้ำแต่เป็นบ้านของคนรวย ชื่อ William Randolph Hearst เป็นมหาเศรษฐีแห่งวงการสิ่งพิมพ์ต่างๆ ซึ่งไม่รู้ว่าถ้ายังอยุ่ถึงยุคนี้ จะยังไปได้ดีในธุรกิจอยู่หรือเปล่า เนื่องจากวงการสิ่งงานพิมพ์นั้นได้มีปัญหาเนื่องจาก E-Book เข้ามาแทนที่ ส่วนปราสาทนี้สร้างตั้งแต่ปี 1919 ขอเล่าต่อพอถึงสถานที่แล้วจะยังไม่เจอปราสาททันที ตัวปราสาทจะอยู่บนเขา แต่ให้เราไปซื้อตั๋วภายในอาคารก่อน นอกจากที่จำหน่ายตั๋วแล้ว ยังมีโรงอาหารและที่ขายของที่ระลึก เสียดายไม่ได้ซื้ออะไรติดมาเลยเพราะตอนนั้นงกอยู่เพิ่งเป็นการเที่ยวครั้งแรก (ส่วนอีกรอบก็ไม่ได้ซื้อเพราะไปรอบค่ำใกล้ปิดพอดี) พอซื้อตั่วเสร็จให้ไปนั่งรอ รถบัสก็จะมารับเราขึ้นเขา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที เราจะมีไกด์ 1 คนต่อ 1 กลุ่ม ตัวปราสาทค่อนข้างใหญ่อยุ่และมีหลายห้อง ดังนั้นจึงต้องเกาะกลุ่มตัวเองให้ดีๆระวังปนกลับกลุ่มอื่น พอรถบัสจอดหน้าปราสาทแล้วลงเท่านั้นแหละ บอกได้เลยว่าอลังการมาก ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม, ขนาดอาคาร, หรือ วิวที่อยู่บนยอดเขา สถาปัตยกรรมนี้ไม่แน่ชัดว่าเป็นแนวอะไรแต่ถ้าให้เดา ขอเดาว่ายุโรป (ว่าแต่ยุโรปนี่มันแนวแบบไหน?) แต่ที่แน่ๆมี สไตล์โรมัน อีกทั้งยังมีของไทยด้วย จำได้ลางๆว่าอยู่นอกหน้าต่างเป็นงานแกะสลักไม้รูปหัวช้าง เห็นทีแรกก็คุ้นๆว่าเหมือนของบ้านเรา แต่พอไกด์บอกว่ามาจาก Siam เท่านั้นแหละใช่เลย ระยะเวลาในการทัวนั้นไม่แน่ใจว่าใช้เวลาเท่าไหร่ น่าจะเกือบๆ 1 ชั่วโมงได้ ส่วนไฮไลท์ของที่นี่สำหรับผมน่าจะเป็น Neptune Pool (สระน้ำกลางแจ้ง) และ Roman Pool (สระน้ำในอาคาร) โดยเฉพาะ Rman Pool นี่ชอบมากเป็นพิเศษ มันให้ความรู้สึกถึงความขลังมาก และถ่ายรูปออกมาสวยเพราะสีของสระน้ำนั้นเป็นสีเข้ม ส่วนอีกที่ ที่อยากให้ชมคือ วิวที่มองออกไปจากปราสาท เนื่องจากสถานที่แห่งนี้ตั้งอยุ่บนภูเขาเวลามองออกไปได้อารมณ์เหมือนขุนนางยุคเก่านั่งชมวิว (หรืออารมณ์ปราสาทผีสิงก็แล้วแต่) สำหรับที่นี่ถือเป็นสถานที่ที่ต้องมาชมให้ได้ เหตุผลง่ายๆคือ มันสวยมาก ถึงจะฟังไกด์พูดไม่ออก แค่ได้มาเดินชมในตัวอาคารก็โอเคแล้ว ยิ่งถ้าคนที่ไม่เคยเห็นปราสาทใหญ่อย่างผมนี่ยิ่งต้องมาให้ได้ นี่เป็นสถานที่แรกของทริปนี้ ที่ได้ปลุกความตื่นเต้นของผม และทำให้อยากเดินทางพื่อไปชมสถานที่อื่นๆ ต่อไป    
    Hearst Castle
      
    Hearst Castle

    วิวขุนนางยุคเก่า

    Neptune Pool

    Neptune Pool

    Roman Pool
             
                 ไปต่อที่ Carmel อยู่ห่างจาก Hearst Castle ประมาณ 90 ไมด์ เป็นทะเลเช่นกัน สถานที่นี้แทบจะไม่มีอยู่ในความทรงจำของผมเลยรูปก็หายไปอีก มีอยู่ไม่กี่รูป หรือ อาจเป็นเพราะยังติดใจกับ Hearst Castle อยู่ก็เลยไม่ได้สนใจมากนัก ความคิดเห็นส่วนตัวนั้น คิดว่าเหมือนทะเลทั่วๆไปในอเมริกา สามารถผ่านไปได้เลย จุดเด่นของที่นี่เหมือนจะเป็นจุดจอดรถชมสะพานสวยๆ ขออภัยตอนนั้นก็ไม่ได้แวะจอดถ่ายรูปด้วยไว้ให้ชมด้วย
    พระอาทิตย์ตกดินที่หาด Carmel

                   เส้นทางจากนี้จะเป็นการขับรถเลียบมหาสมุทรตลอดซึ่งก็ได้พบเจอผู้คนต่างๆ แต่มีอยู่คนนึงที่จำได้แม่นเลยและคนนี้คือคนที่แนะนำ (จริงๆแล้วเขาห้าม) สถานที่เพิ่มมาอีกที่หนึ่งซึ่งจะเป็นที่ ที่ชอบมากที่สุดในทริปนี้อีกด้วย เรื่องมีอยู่ว่าขับรถมานานเลยจะแวะพักข้างทาง ก็เลยจอกรถไปนั่งกินแซนด์วิชข้างทาง ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงนั่งร้องเพลงก็งงว่าใครกันนี่ก็นั่งอยู่เดียวชะโงกหน้าลงไป สบตากลับผู้หญิงที่นั่งร้องเพลงพอดี ผู้คนนั้นก็บอกว่า “ขอโทษที่ทำให้ตกใจ” แล้วก็ปีนโขดหินมานั่งข้างๆ ผมเฉยจากที่ดูๆแล้วท่าทางจะเหงาๆ เพราะตรงนั้นจำได้ว่ามีบ้านหลังเล็กๆแค่ไม่กี่หลังอยู่แถวนั้นก็นั่งคุยกันเรื่องเรื่อยเปื่อย (สำหรับคนที่นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่คนไม่รู้จักกันจะมานั่งคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว ค่อนข้างจะเฟรนรี่อย่างมาก) ท่าทางจะเหงาจริงถามยิงคำถามผมไม่หยุดหย่อนเลย ฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง คุยกันจนไปถึงเรื่องเบื่อแม่ตัวเอง แล้วก็ด่าคนอเมริกันว่าเป็นพวกนิสัยเสียชอบเหยียดผิว ส่วนผมก็แค่ได้แต่รับฟังเงียบๆแล้วก็ช่วยพูดว่าไม่จริงๆหรอกอเมริกันไม่ค่อยเหยียดนะ (ส่วนตัวนี่เคยโดนมาหมดแหละไม่ใช่แค่คนอเมริกัน แม้กระทั้งคนเอเชียเหมือนกันยังมีเรื่องให้เหยียดกันเลย) ที่แปลกใจคือเพิ่งจะเจอกันครั้งแรกแต่ทำไมกล้าเอาเรื่อง เบื่อแม่ตัวเองมาระบายให้ฟัง เราก็ได้แต่รับฟังหน้าแม่ของพี่แกยังไม่เคยเห็นเลยด้วยซ้ำ แต่มีเรื่องนึงที่ถ้าไม่ได้แวะนั่งชมพระอาทิตย์ตกดิน (จริงๆตกไปตั้งแต่ Camel แล้ว) ที่นี่คงจะพลาดไฮไลท์ของทริปนี้เลยก็ได้นั่นคือ ผู้หญิงคนนี้ถามผมว่าจะไปไหนบ้าง เพราะเขารู้ว่ามาออกทริปคนเดียวเล่นๆ ก็บอกไปว่าจะไป Golden Gate, Lake Tahoe, Yosemite NP เข้าก็บอกว่าดีแล้วอย่าไปแวะ Death Valley นะเพราะที่นั้นอันตรายมาก ร้อนมากและมีคนตาย หน้าร้อนห้ามไปเด็ดขาด ผมก็งงเลยครับที่ไหนวะหนะน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรอ เลยเปิดรูปใน Google ให้เขาดูเห็นรูปก็สวยดี ก็งงๆ แต่ก็บอกว่าโอเคไม่ไปหรอกไม่ได้อยู่ในแผนวางไว้ หลังจากนั้นก็ล่ำลากัน พอถึง ที่พักเท่านั้นแหละแผนเปลี่ยนเลย เล็งไว้เลยว่าจะไปก่อนกลับ San Diego ให้ได้ 
    ทะเลสาบที่นั่งกินแซนด์วิชแล้วบังเอิญพบหญิงนิรนาม

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in