Dogs สารคดีเกี่ยวกับสุนัขที่ได้รับคำชมและเทคะแนนให้อย่างมากมาย ว่าเป็นหนึ่งในซีรี่ย์สารคดีที่คุณไม่ควรพลาดใน Netflix ( ได้ 92 คะแนนจาก Rotten Tomatoes
Dogs ถูกปล่อยออกมาให้ได้รับชมครั้งแรกเมื่อ 16 พ.ย. 2018 ดูแลการถ่ายทำโดยความร่วมมือกันระหว่างบริษัท Disarming Films และ Zipper Bros Films เสียงตอบรับจากสารคดีชุดนี้เป็นไปในทิศทางบวกอย่างมาก ส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากตัวเนื้อหาที่เกี่ยวกับสุนัข แหม่ ~~ ใครบ้างจะไม่รักน้องหมา ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะสามารถดึงดูดใจให้ผู้คนชื่นชอบได้อย่างมากมาย
แต่ประเด็นที่ Dogs เป็นที่นิยมและยอมรับในบรรดาเหล่าคนดูรวมไปถึงนักวิจารณ์ ไม่ใช่เพียงเพราะว่ามันเกี่ยวกับสุนัขเสียทีเดียวหรอก เพราะถึงแม้สารคดีเรื่องนี้จะนำเสนอออกมาว่าชื่อ Dogs แต่เรื่องราว เนื้อหา แก่นแท้ของสารคดีชุดนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของสุนัขเท่านั้น มันเป็นเรื่องราวของมนุษย์ที่ใช้ชีวิตร่วมกับสุนัขต่างหากล่ะ ดังนั้นแล้วมันจึงเป็นการนำเสนอถึงการเชื่อมโยงกันด้วยความรักระหว่างมนุษย์กับสุนัข สิ่งนี้แหละที่มันสามารถเข้าถึงจิตใจผู้ชม และสร้างอิมแพคจนทำให้คนดูเกิดอาการซาบซึ้งจนน้ำหูน้ำตาไหล
สารคดีชุดนี้แบ่งตอนออกเป็น 6 ตอน ความยาวตอนละประมาณ 50-55 นาที ในแต่ละตอนก็จะส่งมอบอารมณ์ให้กับคนดูแตกต่างกันออกไป ซึ่งจะขอรีวิวสั้นๆ ได้ดังนี้
เรื่องราวของเหล่าบรรดาเด็กที่ต้องเผชิญกับปัญหาทุพพลภาพ ทำให้ใช้ชีวิตยากลำบากกว่าเด็กคนอื่นๆ ซึ่งในรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา นั้นก็ได้มีกลุ่ม "4 Paws For Ability" ที่จัดทำโปรแกรมฝึกสุนัข ให้สามารถช่วยเหลือเด็กเหล่านี้ให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น (เรียกอีกอย่างว่า “สุนัขบริการ”) พระเอกในตอนนี้ก็คือเจ้า Rory ซึ่งจะเข้ามาเป็นผู้ช่วยในการดูแลคอร์รีน เด็กน้อยวัย 11 ปี ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับโรคลมชัก เมื่อคอร์รีนเกิดอาการชักเจ้า Rory ก็จะทำการเห่าส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือทันที
โดยส่วนใหญ่แล้วเราจะคุ้นเคยแค่การนำสุนัขมาใช้ประโยชน์ในวงการตำรวจเพียงอย่างเดียวซึ่งหากมีคนมาบอกเราว่า “นี่! รู้ไหม หมาสามารถเอามาช่วยคนพิการได้นะ” เราก็คงจะงงว่าจริงหรอ เพราะบ้านเมืองเรานั้นไม่ได้มีการสนับสนุนการฝึกสุนัขที่ดีเท่ากับในต่างประเทศซึ่งมันช่วยเปิดมุมมองของเราว่าสุนัขนั้นสามารถช่วยเหลือมนุษย์ได้มากกว่าที่เราคิด (
เรื่องราวของ Ayham ชาวซีเรียซึ่งได้อพยพมาอยู่ที่ประเทศเยอรมัน โดยต้องจำใจจากเจ้า Zeus สุนัขเพื่อนรักของเขา เนื้อหาของ episode นี้เรียบง่ายมาก มันคือการแยกจากกัน และต้องการที่จะกลับมาอยู่ด้วยกันใหม่
Ayham นั้นพยายามทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ Zeus ได้มาอยู่กับเขาที่เยอรมัน ถึงแม้เนื้อเรื่องมันจะดูเรียบง่าย แต่ก็แฝงไปด้วยเรื่องราวความประทับใจมากมาย เนื่องจากมันไม่ใช่แค่เรื่องระหว่างเจ้าของกับสุนัข แต่ยังเป็นเรื่องระหว่างครอบครัว ชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบากของชาวซีเรีย มิตรภาพระหว่างเพื่อน ระยะทาง ความเหงา การสูญเสีย และความคิดถึง สิ่งเหล่านี้มันเข้าถึงจิตใจได้มากจริงๆ และแน่นอน ผู้เขียนนั้นก็ได้เสียน้ำตาให้กับ episode นี้ไปเรียบร้อย แต่ก็เป็นการเสียน้ำตาแบบ Feel Good นะ (อิอิ)
ตอนที่ 3 : "Ice on the Water"
ใน episode
ตอนที่ 4 : "Scissors Down"
เรื่องราวของช่างตัดแต่งขนสุนัข และการแข่งขันการตัดแต่งขนสุนัขระดับโลก ซึ่งจะเน้นไปที่ ญี่ปุ่นเป็นหลัก ผู้เขียนนั้นมองว่าสิ่งที่ episode นี้พยายามทรอดแทรกประเด็นเพิ่มเติมนอกจากเรื่องของการตัดขนสุนัขเข้าไป นั่นก็คือเรื่อง “วัฒนธรรมของคนญี่ปุ่นที่มีต่อสุนัข"
ผู้เขียนได้เรียนรู้อะไรมากมาย และสิ่งที่ชัดเจนมากที่สุดเลยก็คือ สังคมของคนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับสุนัขมากๆ นอกจากนี้น้องหมาใน episode นี้ก็น่ารัก คาวาอี้มากๆ จนทำให้ผู้เขียนนั่งดูไปก็อมยิ้มและทำเสียงเล็กเสียงน้อยตามไปด้วย บอกเลยว่าแพ้!! แพ้ให้กับความน่ารักของบรรดาน้องหมาในตอนนี้จริงๆ
ใน episode นี้เป็นเรื่องของเหล่าบรรดาสุนัขจรจัดใน Costa Rica และชาวคอสตาริกากลุ่มหนึ่งที่พยายามแก้ไขปัญหาสุนัขจรจัด โดย อัลวาโร เซาเมต ได้ใช้ที่ดินของตัวเองที่กว้างขวางมากๆ เปิดเป็นศูนย์พักพิงสัตว์ ที่ชื่อว่า เตร์ริโตริโอ เดอ ซากัวเตส (Territorio de Zaguates)
อัลวาโร นั้นก็ได้เผชิญกับปัญหามากมายไม่ว่าจะเป็นการขาดทุนทรัพย์ การเผชิญกับปัญหาด้านกฎหมาย สุนัขถูกทำร้ายและจำนวนสุนัขจรจัดที่มากจนเกินกำลังของตนเอง แต่เขาก็ยังต่อสู้และไม่ยอมแพ้ให้กับภารกิจนี้ ซึ่งมันได้สร้างความซาบซึ้งและทำให้รู้สึกนับถือใจคนเหล่านี้จริงๆ
ผู้เขียนนั้นชื่นชอบทัศนคติของคนที่ซากัวเตส มากเพราะสำหรับพวกเขาการมาทำงานตรงนี้มันเกี่ยวข้องกับ emotion ดังนั้นแล้วเขาก็แทบจะไม่ได้สนใจความมั่งคั่งใดๆ และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพวกเขาก็จะยืนหยัดต่อสู้เพื่อช่วยชีวิตสุนัขจรจัดเหล่านี้ ยังมีรายละเอียดอีกหลายเรื่องที่ได้มีการทรอดแทรกเอาไว้ในตอนนี้ซึ่งบอกเลยว่ามันเป็นเรื่องราวที่กินใจมากๆ ทำให้นี่เป็น episode
ในตอนก่อนหน้านี้ตอนที่ 5 ได้ให้ความรู้สึก Sad – Happy ปะปนกันไป แต่ใน episode ส่งท้าย Season นี้ได้สร้างความเบิกบานใจและเป็นการปิดฉาก Season ได้ Feel Good มากๆ
episode นี้เป็นเรื่องราวใน New York City ซึ่งถือเป็นเมืองสวรรค์ของคนรักสุนัข ดำเนินเรื่องโดยองค์กร Heart and Bone องค์กรที่ทำหน้าที่จัดหาสุนัขที่ไม่มีคนต้องการ บ้างก็พิการ บ้างก็เร่ร่อน (Homeless Animals) จนต้องระเห็จไปอยู่ใน ศูนย์พักพิงสัตว์ (Shelter) เพื่อที่จะส่งมอบไปยังผู้ที่ต้องการพวกมัน สาเหตุที่ต้องมีตัวกลางคอยจัดหาให้ผู้ที่ต้องการอุปการะสุนัขได้มาพบกับสุนัข ก็เพราะว่า ศูนย์พักพิงสัตว์ มีหลายรูปแบบ ซึ่งรูปแบบที่โหดร้ายที่สุดนั่นก็คือ Kill Shelter ซึ่งหมายถึง ศูนย์พักพิงสัตว์ที่จะมีกำหนดเวลาสำหรับสัตว์แต่ละตัว ถ้าครบกำหนดแล้วยังไม่มีใครมาอุปการะพวกมัน พวกมันก็จะโดนฆ่า
ดังนั้นแล้วเพื่อปกป้องชีวิตของบรรดาสัตว์ที่น่าสงสารเหล่านี้ จึงต้องมีการช่วยเหลือพวกมันให้พ้นจากความตายนั่นเอง สมกับชื่อตอนที่ว่า "Second Chances" นั่นแหละ ในตอนนี้มันให้ความรู้สึกที่แบบว่า Positive มากๆ อะไรก็ดีไปหมด ทั้งน้องหมาแต่ละตัวก็น่ารัก ผู้คนก็ใจดี เต็มไปด้วยความรัก ความอบอุ่น อย่างที่บอกไปในตอนต้นนั่นแหละว่าเป็นการปิดฉาก Season ได้อย่างสวยงามจริงๆ
สรุปแล้ว ชุดสารคดีเรื่อง “Dogs” มันไม่ใช่แค่เรื่องราวของสุนัข แต่มันคือ มนุษย์กับสุนัข ที่ได้ถูกถ่ายทอดออกมาให้เรารับชมในหลายๆ มุมมอง และหลายๆ รูปแบบของบรรดาความสัมพันธ์ที่สิ่งมีชีวิตต่างสปีชีส์ 2 สปีชีส์นี้มีให้แก่กัน
ความรู้สึกหลังจากดูจบแล้ว ผู้เขียนรู้สึกอ่อนไหวกับสุนัขขึ้นมาก ไม่รู้ว่าจะดูเว่อร์ไปไหมถ้าจะบอกว่า มันทำให้เราเป็นคนอ่อนโยนขึ้น อย่างน้อยๆ ก็ต้องรู้สึกว่าอยากเป็นคนที่อ่อนโยนขึ้นสักนิดแหละนะ (ฮา) แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่ามันดีงามสมคำล้ำลือจริงๆ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in