สวัสดีค่ะ :D หลังจากที่เราได้พูดถึงและ
เจาะรายละเอียด อัลบั้มเปิดตัว ของวง Nothing But Thieves กันไปแล้ว(รวมถึงบทความ ทำความรู้จัก วงนี้ด้วยค่ะ ใครที่เพิ่งเข้ามาอ่านสามารถกดไปอ่านเพิ่มเติมได้เลยนะคะ)
คราวนี้กลับมาพร้อมกับอัลบั้มที่สองของวง เรียกได้ว่าเป็นอัลบั้มที่พีคสุดๆ แทบจะเรียกว่าเป็นที่จับตามองหลังจากที่อัลบั้มแรกมาแบบม้ามืดมากจนกวาดอันดับบนชาร์ตไปเยอะพอสมควรค่ะ
[ปล.ทิ้งช่วงไปนานพอสมควรเลยค่ะ เพราะว่าข้อมูลและสัมภาษณ์เกี่ยวกับเพลงในอัลบั้มนี้ค่อนข้างเยอะพอตัว แหะๆ เลยต้องใช้เวลารวบรวมนิดนึงค่า><]
ซึ่งอัลบั้มนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ บางเพลงที่ถูกตัดมาเป็นซิงเกิ้ลก่อนเองก็ทำหน้าที่ได้ดีซะด้วย โดยเฉพาะเพลง Sorry ที่สามารถติดอันดับที่ 4 ชาร์ต Lyric Find Global และอันดับที่ 23 ชาร์ต Alternative Songs ของ Billboard เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา
VIDEO
อาจจะเห็นจาก recommended by Youtube บ่อยๆนะคะเพลงนี้ พูดถึงตัวอัลบั้มกันบ้างค่ะ มา เริ่ม!
อัลบั้มที่ 2 ของวงมีชื่อว่า 'Broken Machine' ตามชื่อเพลงแทร็คนึงในอัลบั้มนี้ ซึ่งโจให้สัมภาษณ์ไว้ว่าที่เลือกเพลงนี้มาเป็นชื่ออัลบั้มเพราะรู้สึกว่ามันครอบคลุมเนื้อหาของแต่ละเพลงในอัลบั้มได้ดีที่สุดค่ะ อัลบั้มนี้ปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2560(2017) สามารถไต่ขึ้นอันดับได้ค่อนข้างสูงคือ อันดับที่ 2 บน UK Chart นั่นเอง
Broken Machine (2017) Broken Machine Deluxe (2017) รูปร่างหน้าตาปกอัลบั้มก็จะเป็น art work สวยๆทั้งเวอร์ชั่นปกติแล้วก็แบบ Deluxe ตอนนี้ที่เจอในไทยเจอแค่แบบ Deluxe สีดำเองค่ะ น่าเสียดายมากเพราะเราอยากเก็บทั้งสองเวอร์ ฮา... /แต่บางร้านเองก็เอาไวนิลบั้มนี้เข้าไทยเหมือนกันค่ะ เป็นปกสีขาว น่าเก็บมากๆ
โดยภายในอัลบั้มจะมีทั้งหมด 11 เพลงในเวอร์ชั่นปกติ และมีเพิ่มมาอีก 4 แทร็ค( 2 เพลง+ 2 acoustic version)ในเวอร์ชั่น deluxe (ของเราเป็นแบบ deluxe นะคะ) โดยรวมๆก็มีทั้งหมด 13 เพลงในอัลบั้มนี้ค่ะ
ที่พิเศษกว่าอัลบั้มแรกนิดหน่อยคือเจ้าตัวทั้ง 5 คนมีวิดีโอพูดถึงแต่ละเพลงแบบ track by track กันไปเลยค่ะ เจาะตั้งแต่ที่มายันแรงบันดาลใจต่างๆ ลองไปฟังกันได้นะคะ แต่เดี๋ยวเราจะพูดถึงแค่บางอันที่สำคัญ (และพอฟังออก) ระหว่างที่พูดถึงแต่ละเพลงกัน
:: เพิ่มเติม ::
อัลบั้มแรกก็มีพูดถึงแบบ track by track เหมือนกันค่ะ แต่ไม่ได้รวบรวมมาเป็นวิดีโอแบบนี้ เราฟังจาก Spotify แล้วใส่ไปให้นิดหน่อยในบทความอัลบั้มแรกแล้วค่า
หน้าตาประมาณนี้นะคะ มี track by track ครบทั้ง 16 เพลงเลยค่ะ
ส่วนอันนี้เป็น track by track ของอัลบั้ม 2
มีสองพาร์ท ครบถ้วน 11 เพลงค่า
(แอบขาดไป 2 เพลงในแทร็คของ Deluxe Version คือ Reset Me กับ Number 13 ค่ะ เสียดาย._.)
VIDEO
VIDEO
ส่วนตัวคิดว่าอัลบั้มนี้เนื้อเพลงค่อนข้างเศร้าแล้วก็หน่วงมากกว่าอัลบั้มแรกแบบเห็นได้ชัดเลย ถ้าใครที่ไม่เคยฟัง ไม่ค่อยแนะนำให้ฟังแบบเรียงแทร็คเหมือนเดิมเพราะเพลงเศร้าบางช่วงมันติดๆๆกันหมด อาจจะเริ่มฟังจากเพลงฮิตที่มี official video ก่อนค่ะ แต่ถ้าใครเคยฟังมาบ้างแล้ว มาเจาะลึกแบบเรียงแทร็คกันนะคะ^^
เหมือนเดิมค่ะ
เราจะให้คะแนนความแนะนำให้ไปฟังเป็น ❤️ แบบเดิม55555555555555
ปล.ความเห็นทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ ถ้าใช้คำผิดพลาดตรงไหนยังไงต้องขอโทษด้วยค่า รวมถึงพวกที่มาต่างๆที่แปลมาถ้าผิดตรงไหนต้องขอโทษล่วงหน้าค่ะ บอกได้นะคะTT ภาษาไม่แข็งแรงแต่ใจติ่งล้วนๆเลยค่ะ55555555
เปิดอัลบั้มมาด้วยจังหวะร็อคซิกเนเจอร์ชวนโยกเคล้าจังหวะกลองหนักๆอีกแล้วค่ะวงนี้ ถือว่าใช้เพลงเปิดอัลบั้มได้ค่อนข้างเหมาะ เป็นด่านแรกที่จะไปฟังเพลงต่อๆไปได้ดีค่ะ ดอมให้สัมภาษณ์ไว้ว่าเขากับคนในวงเขียนเพลงนี้ประมาณช่วงคริสมาสต์เมื่อปี 2016 ค่ะ เข้ากับชื่อเพลงมากมายXD
ร็อคหนักหน่วงที่หลายๆคนน่าจะเคยฟังเคยเปิดจากยูทูปค่ะ ฮาาา เพลงนี้ตัดซิงเกิ้ลมาก่อน sorry (น่าจะเพลงแรกในบั้มเลย) รายละเอียดค่อนข้างเยอะ ทั้งกีตาร์ เบส กลอง ตบท้ายด้ัวยเสียงของคอเนอร์(ส่วนตัวคิดว่าน่าจะมีอิเล็คโทรนิกส์นิดหน่อยด้วย) ทำให้ได้ซาวด์ออกมาค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์เลยค่ะเพลงนี้ แถมยังร็อคได้ใจ เป็นหนึ่งในเพลงที่ค่อนข้างมีมิติในอัลบั้มนี้เลยค่ะ
artwork ของซิงเกิ้ล Amsterdam เนื่องจากเพลงนี้ตัดซิงเกิ้ลมาเป็นเพลงแรก เลยมี
สัมภาษณ์ นิดหน่อยที่เกี่ยวกับเพลงนี้ล้วนๆ พูดถึงสถานที่ถ่ายทำเอ็มวี ที่มาต่างๆ ตลกดีค่ะ อยากให้ลองไปอ่านกัน
(คอเนอร์แอบบ่นด้วยว่าแทบจะไอลงปอด เพราะสถานที่ถ่ายเป็นโรงงานร้างแล้วเศษฝุ่นสังกะสีกับทองแดงเต็มไปหมด นักเต้นก็เต้นกันใหญ่ทำให้มันยิ่งตลบไปอีก ฮืออ ควรขำหรือสงสารดีคะเนี่ย)
แอบตัดสัมที่มาของชื่อเพลงนิดนึง เพราะเราก็สงสัยค่ะว่าเพลงมันเกี่ยวอะไรกับเมือง Amsterdam นะ
ทำไมถึงตั้งชื่อเพลงนี้ว่า 'Amsterdam' ล่ะ? - Amsterdam เป็นที่ที่พวกเรารู้สึกค้นพบน่ะครับ ประมาณว่า อยู่แล้วรู้สึกผ่อนคลายสบายใจ เป็นที่ที่แบบ เราคิดว่าจะแสดงมันออกมาให้ถูกต้อง ก็คือบอกมันออกมา(ผ่านเพลง) เรากลับมาคิดถึงมันอีกครั้งเมื่อเราต้องการที่จะผ่อนคลาย และเพลงนี้ก็ตั้งใจจะสื่อแบบนั้น เป็นเพลงที่เค้นออกมาจากภายในเลยว่า มันเกี่ยวกับความท้อแท้ ไม่พอใจ และความพยายามหลบหลีกหนีมันผ่านเส้นทางชีวิตที่นำไปสู่ซักที่ ที่คุณมักจะสบายใจเมื่อได้กลับไปน่ะ ง่ายๆก็เหมือนกับหาทางปลดปล่อย หาทางปลอบใจในการมีชีวิตอยู่เวลาที่เจอเรื่องยุ่งยาก
- สรุปง่ายๆ อยู่ Amsterdam แล้วชอบเลยเอามาใส่ในเพลงฮะ
กลับมาที่เพลง(ไม่)ร็อคเนื้อหากินใจ เนื้อเพลงดีมากกก กีตาร์ทั้งสองของเราเด่นมากๆค่ะเพลงนี้ ทั้งแบบปกติและเวอร์ชั่น acoustic ไม่แปลกใจที่เพลงนี้ติดอันดับบนชาร์ตตามที่บอกไปข้างบน>< ทั้งโจและดอมเคยพูดถึงว่าเนื้อเพลงไม่เพียงเกี่ยวกับแค่การขอโทษ คนรัก แต่เป็นการขอโทษ ทุกๆอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิตค่ะ เรียกได้ว่าทุกส่วนของเพลงนี้ใส่อารมณ์เข้าไปเต็มที่มากๆ
artwork ของซิงเกิ้ล Sorry Maybe I'm bad natured Or maybe I'm young I'm sorry, so sorry for what I've done.
พออีดิทเพลงเสร็จก็พากันมาร้องเพลงนี้กัน 5 คนค่ะ น่ารักก (source : tbt p.2 ) เยสสสสส มาถึงพระเอกของอัลบั้มนี้แล้วค่ะ! สไตล์ออกไปทางร็อคผสมอิเล็คโทรนิกส์เข้าได้ดีกับเสียงแหลมสูงของคอเนอร์ จังหวะดนตรีดี แถมเบสเพลงก็ดีนี้มากกกกก เป็นเพลงที่วงนี้เล่นบ่อยมากๆ แถมยังมีหลายเวอร์ชั่นสุด
นอกจากดนตรีจังหวะน่ารักยังแฝงไปด้วยเนื้อเพลงดีๆด้วย หลักๆก็จะเกี่ยวกับการเปรียบเทียบตัวเองกับเครื่องจักรที่ขัดข้อง ต้องการพลังงาน ต้องการไฟฟ้าเพื่อให้กลับมาใช้งานได้ เหมือนกับการใช้ชีวิตที่บกพร่อง ต้องการความเป็นมนุษย์ ศักดิ์ศรีและความเป็นจริงเข้ามารวมกันจึงจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติค่ะ (อันนี้การตีความของเรานะคะ อาจจะไม่ถูก100% เพลงนี้ตีความได้หลากหลายดีค่ะ)
ในโปรเจ็คของ Iamwhole2017 ก็เล่นเพลงนี้ร่วมกับเครื่องดนตรีแบบเครื่องสายด้วยค่ะ(ดีงามทุกเวอร์จริงๆ)
กลับมาแล้วค่าาา สำหรับเพลงร็อคชวนโยกหัวของวงนี้ เบสตึบ! กลองตึบ! ไม่แพ้ซาวด์กีตาร์ไฟฟ้า+เอฟเฟค (เอฟเฟคเยอะมากจนฟิลแอบแซวด้วยว่าดอม mess เพลงนี้ไปเรียบร้อยเพราะใส่สไตล์กีตาร์ที่ชอบส่วนตัวลงไปเยอะสุดๆ อย่างกับแน ว Heavy Metal Disco 55555555) เรียกได้ว่ากินกันไม่ลงจริงๆฮะ บวกกับเสียงของคอเนอร์เข้าไปอีก เป็นอีกเพลงที่เรียกได้ว่าแค่ฟังแบบ audio ก็โคตรร็อคแล้ว อยากฟังไลฟ์จริงๆเลยค่ะ ต้องโยกสนุกมากแน่นอนT_T
ตัดมู้ดฉับกลับมาที่เพลงเศร้าโศกน้อยเนื้อต่ำใจโชคชะตาตัวเองค่ะ(ปรับอารมณ์ไม่ทัน...) เป็นเพลงที่มีดนตรีและส่วนประกอบต่างๆเรียบง่าย เสียงคอเนอร์เองก็ไม่ได้หวีดมากแต่ให้ความรู้สึกว่าอารมณ์ทั้งหมดมันไปด้วยกันค่ะ เนื้อเพลงเศร้าแท้ด้วย เราอยากฟังเพลงนี้แบบliveที่สุดค่ะ^^
สลับกลับมาเพลงร็อคอีกแล้วค่า เสียงร้องไปทางร็อคส่งเสียง ร็อคหวีดสูงไปเลยค่ะเพลงนี้ เอฟเฟคกีตาร์ดีมากๆๆๆ เบลกับกลองก็ตึบ (ส่วนตัวว่าสู้กับ Live Like Animals ได้เลยค่ะ555555) เนื้อเพลงออกแนวศาสนานิดหน่อยนะ หลักๆก็ตามชื่อเพลงเลย เราไม่ได้ถูกพระเจ้าปั้นขึ้นมา ดังนั้นเรามีสิทธิที่จะใช้ชีวิตอิสระตามความต้องการมากกว่าที่จะมาคอยตามเส้นทางที่พระเจ้ากำหนดขึ้น
คอเนอร์บอกว่าเขาชอบเพลงนี้ที่สุด โดยเฉพาะเวลาที่มีงานไลฟ์ตามโชว์ต่างๆ ถึงใจ จริงๆค่ะในเวอร์ชั่นlive>< ห้ามพลาดนะคะ
@Brixton 2017
อีกหนึ่งเพลงความหมายดี ดนตรีอาจจะไม่ร็อคมากแต่กลองเพลงนี้ดีจริงค่ะ ขับให้เสียงคอเนอร์หวีดขึ้นไปได้อีก สูงได้อีก55555 เพลงนี้ตัดเป็นซิงเกิ้ล มี official video ด้วยฮะ ช่วงที่วงนี้ออกทัวร์USพอดีเมื่อปลายๆปี 2017 ซึ่งที่มาก็คือ ต้องการสะท้อนถึงช่วงเวลาที่ต้องห่างบ้านนานๆ(US tour) แล้วเกิดผลกระทบอะไรต่อชีวิต รวมถึงความสัมพันธ์ส่วนตัวของสมาชิกในวง ประมาณนี้ค่ะ
((เพิ่มเติม :: โจให้สัมว่าพวกเขามีช่วงเวลาที่ค่อนข้างสาหัสในช่วงที่ทัวร์ที่อเมริกา และคอเนอร์ก็เสริมว่าเพลงนี้เหมือนกับการรวบรวมบางอย่างที่มันแตกเป็นเสี่ยงๆ(ความสัมพันธ์) แล้วนำประกอบขึ้นใหม่ค่ะ))
artwork ของซิงเกิ้ล Particles mv นี่ก็แวะถ่ายเอาช่วงที่ทัวร์ US เมื่อปี 2017 ค่ะ 9. Get Better ❤️
ยังคงอยู่กับเพลงจังหวะฟังง่าย ไม่หวือหวาค่ะ เป็นเพลงแรกที่แต่งเสร็จของอัลบั้มนี้เลย สมาชิกในวงไม่ค่อยชอบเพลงนี้เท่าไหร่เพราะมันไม่ค่อยสื่ออะไรออกมาได้เท่าที่ควร ดอมดูจะยัวะมากเพราะพี่แกถึงกับบอกว่าเพลงนี้มันขยะมาตั้งแต่ demo แล้ว รอดมาได้เพราะเสียงของคอเนอร์ล้วนๆ //ฮือ แต่จังหวะมันก็พอฟังได้นะคะ เนื้อเพลงเองก็ได้อยู่
10. Hell, Yeah ❤️❤️
อีกหนึ่งเพลงที่ดึงเสียงหวีดสูงสเน่ห์ของคอเนอร์ออกมาได้เต็มที่สุดๆ จังหวะยังคงเนิบๆโยกเบาๆได้ เนื้อเพลงเองก็ค่อนไปทางเศร้า ส่วนตัวคิดว่าเฉยๆ แต่วงนี้ไลฟ์เพลงนี้บ่อยอยู่เหมือนกัน
11. Afterlife ❤️❤️❤️
เพลงช้าจังหวะเนิบอีกแล้วค่ะ เข้าสู่ช่วง down ติดๆกันไปเลยช่วงนี้ เสียงของคอเนอร์หวีดลึกในเพลงนี้มาก เจ้าตัวบอกเลยค่ะว่าเพลงนี้ตรงข้ามกับสไตล์ที่วงนี้ทำที่สุดแล้วเลยต้องใช้พลังกันหน่อย(ฮ่า) เนื้อเพลงเศร้าหน่วง เนื้อหาเกี่ยวกับการสูญเสียคนที่รักมากๆ แล้วตัวเองต้องมาประสบกับความรู้สึกทุกข์ทรมานแสนสาหัสที่เกิดขึ้นกับใจตัวเองคนเดียวค่ะ(เปรียบเหมือนตัวเองยังอยู่ใน lifetime แต่เธอที่รักกลับได้รับการชุบชีวิตจากคนอื่นไปแล้ว รอดพ้นจากความทรมานแล้ว ประมาณนี้ค่ะ) เนื้อหาดีมากๆ กินใจมากๆโดยเฉพาะยิ่งจังหวะเนิบๆและเสียงหวิวๆค่ะ
:: จบแทร็คสำหรับเวอร์ชั่นปกติไปแล้วค่ะ เหลืออีก 2 เพลงในแทร็คของเวอร์ชั่น deluxe ฮึบ! ::
1 2. Reset Me ❤️❤️❤️
ดึงมู้ดกลับมาจากเพลงเศร้าหน่วงๆเมื่อกี้ด้วยจังหวะร็อคเบาๆกับเนื้อหาให้กำลังใจ กลองหนักมาก กีตาร์เองก็เด่น เสียงร้องเองก็สดใสขึ้นเช่นกัน55555555 หลังจาก Afterlife นั้นเศร้าเหงาหงอยคอตกทำใจไปแล้วก็ได้เวลาง้อคืนละค่ะ :) เนื้อก็จะเกี่ยวกับการขอโอกาส แก้ตัว ถ้าเธอ reset ฉันล่ะ ทำไมเราไม่มาเริ่มใหม่ด้วยกัน หู้ยยยยยย เพลงแอบหวานมากๆค่ะเพลงนี้555555555555
Some people fear the end
But I carry it It's in my pocket, it keeps me safe.
1 3. Number 13 ❤️❤️❤️
มาค่ะะ เพลงสุดท้ายแล้ว เพลงที่ 13 กับชื่อเพลงว่าเลข13 (ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือยังไงค่ะ ถูกใจมาก55555) จังหวะร็อคโยกหัวกลับมาแล้ว กีตาร์กับกลองขับเสียงคอเนอร์ได้ดีมากกก พี่แกขึ้นเสียงสูงอีกแล้ว หวีดบาดใจสุดๆ ส่วนเนื้อเพลง.... แซบอยู่พอตัวฮะ เนื่องจากเลข 13 ตามความเชื่อของฝั่งตะวันตกจะเกี่ยวข้องกับความโชคร้ายและความอัปมงคลใช่มั้ยคะ เลยเทียบเหมือนกับว่าคนรัก ของเขานี่เปรียบอย่างกับเลข 13 ช่วงแรกๆหวานชื่น หลังๆมานี่เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากการกระซิบก็เปลี่ยนมาเป็นการตะโกนก่นด่า มีปัญหาตลอด เธอมันนัง 13! (กลัวแล้วค่ะ555555555555)
ส่วนแทร็คที่ 14 กับ 15 คือเพลง Sorry กับ Particles อีกเวอร์ชั่นนึงนั่นเองค่ะ ให้อารมณ์ที่แตกต่างจากต้นฉบับดี ส่วนตัวคืออินกับเนื้อเพลงมากขึ้น หลากหลายดี XD
.
.
อ่ะ ถ้าจบแค่แทร็คหลักก็ไม่ใช่เราสิคะ ถูกมั้ย5555555555555
นอกจาก 13 เพลงที่ปล่อยออกมาแล้ว ยังมีเพลงแทร็คพิเศษที่ปล่อยออกมาเอาใจเวอร์ชั่นญี่ปุ่นด้วยค่ะ เป็นไวนิลแบบ demo ทำเอาแฟนคลับห่างไกลอย่างเราอิจฉาตาร้อนไป ทำอะไรไม่ได้ ;__;
หน้าตาปกค่ะ สวยงามจริงอะไรจริง ทั้งสองเพลงชื่อว่า I Need Air กับ Stuck On You ค่ะ ร็อคหนักๆ ไพเราะตามท้องเรื่อง
ซึ่งแฟนคลับ(น่าจะฟคชาวญี่ปุ่นนี่แหละค่ะ)เค้าเองก็ใจดี เอา audio มาปล่อยลงให้ไปลองฟังกัน
ปล.จะติดลิขสิทธิ์มั้ยคะเนี่ย แงงงงงงง แนบลิ้งค์เฉยๆละกันนะคะTT
----------------------------------------------------------------------------
โอเคคค จบแล้วค่ะสำหรับอัลบั้ม 2 ของวง Nothing But Thieves /ปาดเหงื่อ
ระหว่างนี้ก็รออัลบั้ม 3 ไปพร้อมๆกับเรา ทางวงเองก็มีการปล่อย Cover ออกมาให้ฟังบ้าง ซึ่งแน่นอนฮะว่ามันช่างดีงาม ฟังแก้ขัดระหว่างรอบั้ม3ไปพลางๆค่ะ ไว้บทความหน้ามาพูดถึง Cover ที่วงนี้ทำแล้วปล่อยซิงเกิ้ลออกมาบ้างดีกว่าค่ะ^^
สุดท้ายนี้ ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่าน ไม่ว่าคุณจะเผลอกดเข้ามาหรือเปล่าหรืออ่านทั้งหมดหรือไม่ ขอบคุณจริงๆค่ะTvT อัลบั้มนี้ใช้เวลารวบรวมพอสมควรเลยค่ะ หวังว่าจะสนุกกับบทความเรา ไม่มากก็น้อย แฮ่!
และเหมือนเดิมค่ะ ถ้าชอบเพลงไหนหรืออยากเม้าท์มอย คอมเม้นต์หรือคุยกับเราได้ที่ทวิตเตอร์ ที่เดิมเลยค่า love <3
----------------------------------------------------------------------------
แน่นอนค่ะก่อนจาก ขายของงงงงงง
เนื่องจากวงนี้พี่แกจะมาไทยครั้งแรกในเดือนสิงหาที่จะถึงนี้ เราเองก็อยากชวนทุกคนไปจอยกันน! เย้ะะะะ แอบเห็นจากเพจพี่เวรี่ว่าบัตรขายดีเลย ใครที่กำลังสนใจหรือลังเลว่า เอ๊ ไปดีมั้ยน้า ทางเราอยากชวนสุดฤทธิ์ค่ะ บัตรราคาไม่น่ากลัวสำหรับวงที่คับคุณภาพขนาดนี้TT มาเลยค่ะ มา 555555555555 ต้องสนุกมากแน่นอนค่ะ ใครที่ไปแน่ๆก็มาสนุกไปด้วยกันนะคะ!
ซื้อบัตรได้ที่ : https://www.ticketmelon.com/very/nothingbutthieves
ขอบคุณค่าาาา <33
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in