ไปค่ายแสงเทียนสัญจรครั้งแรกเป็นการไปค่ายครั้งแรกตอนอายุ19 หลังจากที่ผ่านกิจกรรมต่างๆของคณะมาสักพักก็มีความคิดว่า ทำไงให้ได้ทำงานเก่งๆแบบพี่ปีสูง พี่ดูเจนงานแล้วก็มีสปิริตมากๆเลย นี่สงสัยอยู่ตลอดเวลาที่อยู่คณะ แต่หลังจากได้ไปค่ายก็คิดออกว่าทำไม นั่นคือ "ประสบการ์ณ เกิดจากการทำงาน" ค่ายแสงเทียนสัญจรครั้งที่ 18 เป็นค่ายที่จัดขึ้นเพื่ออะไรสักอย่าง ฮ่าๆๆ ล้อเล่น ถ้าตามความเข้าใจของเราที่เป็น1ในชาวค่าย มันเป็นค่ายที่จำลองสนามรบของจิตใจของเรา ถ้าเกิดเราได้ทำงานแบบที่ไม่มีคำสั่งให้ปฎิบัติตาม ถ้างานที่เราตั้งใจจะทำมันไม่เป็นอย่างที่คิด ไม่มีคนเข้าใจว่าเราพยายามขนาดไหน ถ้าเจอเพื่อนร่วมงานงี่เง่า เราจะทำยังไง ถ้าเงินหาย งบประมาณไม่พอแต่งานต้องออกมาดี เราต้องแก้ยังไง และอีกหลายๆปัญหาที่ค้นหาวิธีแก้ในหนังสือไม่เจอ เราจะคุมสติและแก้ปัญหาได้หรือเปล่ามันเป็นเหมือนสนามรบย่อมๆในใจเราเลยอ่ะ ยิ่งพี่ปีสูงที่แบกภาระไว้ นับถือใจจริงๆ เอาล่ะ พอหลังจบค่ายความรู้สึกก่อนไปทำค่ายกับกลับมาจากค่ายมันต่างกันมากเลย แล้วนี่ก็เป็น 18 สิ่งที่เราได้เรียนรู้และประทับใจจากค่ายแสงเทียนสัญจรครั้งที่ 18 ณ โรงเรียนบ้านตูมวิทยาคาร 1.พี่ฝ่ายทุกๆฝ่ายปี3 เก่งมากค่ะ 2.พี่ค่ายทุกๆคนที่มาจากสาขาอื่นด้วย 3.เพื่อนปี1 คือเพื่อนเต็มที่มากกับทุกงานที่พี่มอบหมายมา ภูมิใจมากเลย เจ๋งโคตรๆ ทุกคนเลย อาจมีบางคนที่แอบกินขนมสวัสดิการบ่อยและชอบแอบไปนอนอยู่เรือนไม้ก็ตามที โบนัสแกเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆถึงแม้ฉันจะพูดไม่รู้เรื่องบ้างแต่อยากบอกว่าสุดยอดด ไอซ์ฉันจะชมหล่อนดีไหมนะเธอควรเป็นนังทัวร์ดีย์ต่อไปดีกว่า แพตฝ่ายปกครองระเบียบเข้มทำหน้าที่ได้ดีมากๆ แต๋มอยากเล่่นวิทยุสื่อสารมากค่ะเก่งมาก เจถึงแม้หล่อนจะดูพร้อมเหวียงแต่งานฝ่ายนายออกมาดีมากเว้ย พี่นิดพี่จะง่วงทำไมน้องมองไปทีไรง่วงด้วยตลอดเลย น้ำฝ่ายสวัสดิการทำงานตลอดเลย ปนัสขอข้ามล้อเล่นคนนี้ต้องยอมเขานะคะต้องให้เขานอนวันละ24 ชั่วโมงเขาถึงจะแอคทีฟรูปสวยดีจ้า เจ๊คราวหลังไปหัดแบกถังน้ำแบบแบกตุ๊กตาหมีมานะ และก็เพื่อนๆทุกคนเลยที่ไม่เขียนถึงเพราะไม่ค่อยออกไปไหนเลยไม่เห็นเพื่อนเท่าไรขอใช้สิทธิคนก้นครัวนะคะ 4.น้องค่าย นี่อยู่ฝ่ายอาหารไม่ค่อยเจอเด็กๆเท่าไร เจอกันแค่ตอนตี4 ที่น้องแอคทีฟมากตื่นแต่ดึก น้องน่ารัก พยายามคุยกับเรา อาจจะมีน้องทะเล้นๆบ้าง แต่รวมๆแล้วน่าร้ากก การที่จุดไฟในใจให้ใครบางคนได้เนี่ยโคตรมีความสุขต้องยกความดีให้ฝ่ายนันทนาการและพลังแห่งอายิโนะโมโตะแน่ๆ น้องถึงแอคทีฟขนาดนี้ เป็นเด็กดีนะ ขอให้เติบโตอย่างสวยงามและเข้มแข็ง 5.บรรยากาศดีมาก มีแสงทไวไลซ์ตอนสี่โมงเย็นด้วยตรงหลังโรงเรียนแต่นี่อยู่ฝ่ายอาหารไม่ได้ไปถ่ายรูปสักทีได้แต่มองแล้วสับหัวหอมต่อไป พอตอนกลางคืนอยากจะบอกว่าดาวสวยมากบางทีแค่มองธรรมชาติรอบๆตัวที่มันดูจริงในสถานที่แบบนั้นมันเหมือนเป็นพลังจากธรรมชาติ 555เวอร์ไปไหมแต่จริงๆนะ ไม่อย่างนั้นคนจะชอบไปทะเลตอนเหนื่อยๆ เศร้า อกหักทำไมล่ะ ตอนอยู่ค่ายคืนสุดท้ายดาวสวยมากจริงๆดาวเยอะเห็นเป็นดาวเล็กๆเหมือนมองกาแล็กซี่เลย ถ้าในเมืองคงมองเห็นแต่ดาวดวงใหญ่ๆ สำหรับนี่มันดูไม่อิมแพคค่ะ ต้องท้องฟ้ายามค่ำคืนที่บ้านต.ูม 6.พิธีให้ดอกไม้ของฝ่ายอาหาร คือฝ่ายอาหารจะมีพิธีน่ารักๆตอนสะท้อนผลหลังเลิกงานคือเราจะมอบดอกไม้ให้คนที่เราประทับใจในแต่ละวัน คือเราจะพูดให้กำลังใจคนๆ ถึงเราอยากให้ทุกคนแต่ มันต้องมีหนึ่งคนที่พิเศษวันแรกให้พี่โบ๊ต วันที่สองให้พี่ดา แต่ว่าจบค่ายก็ขอมอบดอกไม้ให้ทุกคนเลย 7.ความง่วง คือการไปค่ายเป็นมิติใหม่แห่งทดสอบขีดจำกัดความง่วง5555ปกติถ้าเราอยู่มหาลัยอดนอนส่วนมากจะเป็นเพราะอ่านหนังสือหรือทำงานแต่พอไปค่ายทำงานฝ่ายอาหารจะเป็นฝ่ายที่ใช้แรงงานหนักมาก นี่ตื่นมาตอนตี 4เบาๆ ง่วงมากแต่พอมาเจอพี่ปี2 ปี พี่ปี3 มาทำงานต้องปลุกตัวเองค่ะอันโนมัติ พอจบค่ายนี่ ง่วงนอนมากเหมือนไม่ได้นอนมา100ปี เราต้องอนชดเชยกันอีกกี่ปีคะ5555 หนูล้อเล่น5555 พอทำงานไปเรื่อยๆสับมะละกองี้ ป๊อกๆ เสียงสับนี่กล่อมให้กล่อมตาจะปิดมาก แล้วตอนเย็นพี่ม่อนก็บอกว่า ถ้านึกถึงคนอื่นพลังเราจะเยอะขึ้น น้องรักประโยคนี้ หนูง่วงหนูก็จะสู้5555 8.ชิงช้า เห็นครั้งแรกกรี๊ดมาก หนูจองง ที่ไหนได้จ๊ะห่างกันไม่กี่เมตรฝ่ายอาหารไม่ได้เล่นเลยมองตาปริบๆตอนเขาเล่นกัน นี่เล่่นชิงช้าล่าสุดตอนไปหนองประจักษ์ประมาณเมื่อ5ปีที่แล้วนานมากนานจนลืมไปแล้วว่ามันสนุกจริงๆตอนเล่นเหมือนได้เป็นเด็กอีกครั้ง แต่ก็นั่นละฮะตามข่าวลือ มีชายลึกลับจากฝ่ายอาหารมาทำลายไทม์แมชชีนของเรา จะไม่พูดมากถึงกรณีที่น้องปี1 อีกคนที่มีส่วนในการก่อการร้ายในครั้งนี้ 9.ตอนเช้าขาไปค่าย 10.สมุดเขียนความในใจ 11.พี่มองเลยะ 12.ทำงาน ปกติบ้างานมากแต่ว่าก็เคยถามว่าตัวเองว่าถ้าเราว่างเราก็ไม่มีความสุขพอมีงานเยอะเกินไปเราก็เครียดกับงานอีกเราไม่รู้ว่าตกลงตรงกลางมันคืออะไร จนมาทำงานในค่ายถึงแม้ว่างานหนูจะมีรายละเอียดนิดเดียวแต่ก็พยายยามทำเท่าทีความง่วงจะอำนวย นี่เริ่มเข้าใจว่าจริงๆแล้วถ้างานที่เราทำมันดีต่อคนอื่นดีต่อเราเราก็ทำๆมันไปเถอะมันมีคุณค่า 13.บรรยากาศค่าย มันดีต่อใจ พอดีเป็นคนที่อินอะไรยากหน่อยแต่นี่เรามองแต่ส่วนที่เราสบายใจส่วนไหนที่เราไม่อินมันก็มีน้อยมากแต่บรรยากาศค่ายมันดีจริง เป็นอะไรที่ประทับใจ 14.เป็นค่ายที่ตลกดี 15.stereotype คือเราเป็นคนชอบตัดสินคนอื่ะ พอได้มาทำงานกันคนหลายๆแบบ เราตัดสินคนจากการกระทำสองสามอย่างหรือการกระทำในขอบเขตสายตาเราไม่ได้เลย แต่ละคนมีเรื่อง มีเหตุการ์ณที่ีหล่อหล่อมให้เขาเป็นแบบนั้น ถ้าเราเผลอตัดสนใครผิดบอกเราได้นะเพราะไปค่ายนี้ได้เจอเพื่อน เจอพี่ที่คิดว่าถ้าเราตัดสินไปตั้งแต่ตอนแรกคนไม่ได้รู้ถึงตัวตนของแต่ละคนแบบนี้ 16.น้องป๋อกับญาญ่า ชื่นชมน้องมาก สปิริตแรงกล้าจริง ทำงานเก่งมากๆเลย เห็นพวกน้องยิ้มแล้วโลกพี่สดใส 17.สมุดเขียนความในใจ เรียกชื่อถูกไหม555 มันเป็นรายละเอียดที่น่ารักมากเลย ทำให้เราแอบเขียนด่า เอ้ย ล้อเล่นค่ะ ทำให้เราเขียนถึงคนที่เราอยู่ไกลจากสายตาเขา ให้เราได้ใกล้เวลาเขาเปิดอ่าน น่ารักค่ะ ถึงแม้หนูจะนกก็ตามที 18.พิธีเทียน ร่วมพิธีเทียนครั้งแรกตอนก็เป็นคนร้องไห้แล้วก็ฟังพี่ร้องเพลง มาครั้งที่สองเราร้องเพลงให้น้องแล้วน้องร้องไห้ แปลกมากไม่เคยร้องเพลงพวกนี้เลยแต่พอเห็นพี่ร้องเพลงแล้วร้องตามได้เฉยเลยสงสัยคงร้องมาจากใจแน่ๆเลย 5555 เพลงเพราะมากเลยค่ะ คอรัสดีมากๆเป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจอีกช่วงนึง เย้ เขียนจบแล้ว พอจบค่ายก็ยังเป็นอินๆอยู่เป้นค่ายแรกด้วยเลยตื่นเต้น บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องธรรมดาๆ แต่สำหรับนี่มันเป็นอะไรที่ประทับใจ เลยตัดสินใจลองเขียนดู อ่านแล้วคิดอย่างไรก็มาเล่าให้ฟังด้วยนะคะ