**คำเตือน เนื้อหามีสปอยบางฉากในหนัง 1917**
.
.
.
นั้นคือสิ่งผมเห็นตอนที่สคอร์กำลังนั่งกอดร่างผม...
ร่างที่ไร้วิญญาณของผม... ผมรู้สึกตัวอีกทีผมก็ยืนอยู่ตรงหน้าเขา
และร่างของผมผมเห็นเขาพยายามค้นจดหมายและแผนที่เพื่อที่จะได้เดินทางต่อ
ผมเห็นเขาลากร่างของผมไปทางฝั่งคูน้ำนั่นสีหน้าเขามันบ่งบอกทุกอย่างว่าเขารู้สึกอย่างไร
เขาพาผมไปยังใกล้คูน้ำนั้นเพื่อที่จะได้ให้ผมเห็น...
'ต้นเชอร์รี่'
ต้นเชอร์รี่ที่ผมบอก สคอร์ฟิลด์ ว่าถึงมันจะโดนโค่นหรือมันจะเหี่ยวเฉา
แต่มันก็จะเติบใหญ่ได้ไม่รู้จบ ถึงมันจะตายแต่มันก็งอกใหม่ได้
เขาต้องการลากไปที่นั้นเพื่อที่จะได้ให้ผมเห็นชัดๆ...
ขอบคุณนะ สคอร์...
.
.
.
“ขอโทษ”
มีเสียงหนึ่งจากทางด้านหลังของผม
นักบินคนนั้น... ที่ สคอร์ ยิงไปเพื่อที่ช่วยผมแต่มันไม่ทันการซะแล้ว...
“เมื่อกี้นายว่ายังไงนะ...”
“ขอโทษ ที่แทงนาย”
“เดี๋ยวนะ...นายพูดอังกฤษ?”
“เปล่า ฉันพูดเยอรมัน...”
การตายของเราไร้ขีดจำกัดงั้นหรอการตายนั้นทำให้เราเข้าใจภาษาด้วยกัน?
ความตายเป็นสิ่งลึกลับจริงๆ
ผมสูดหายใจเข้าตั้งสติกับสิ่งที่ได้ยิน
“แล้วนายแทงฉันทำไม? ฉันช่วยนายอยู่นะ”
“ฉันคิดว่า พวกนายจะทำร้ายฉัน ฉันแค่ป้องกันตัว...ทหารอังกฤษไว้ใจไม่ได้”
"แต่นายพูดว่าขอน้ำ นายไม่อยากตายนะ!"
"ใช่คือ..."
เมื่อฟังอย่างงั้นแล้วผมก็อดไม่ได้ที่จะเข้าใกล้นักบินคนนั้น...
จากนั้นผมก็ชกเขาไปทีสองทีหรืออาจมากกว่านั้น...
“รู้อะไรไหม พวกเรามันไม่ไร้ความปราณีที่สักแต่จะฆ่าอย่างเดียวนะโว้ย! พวกเราเข้ามาช่วยแล้วตอบแทนกันแบบนี้หรอวะ!”
ผมเริ่มเดือดและตะโกนว่านักบินคนนั้น เขาขอโทษกับสิ่งที่ทำกับผมลงไป
เมื่อผมเริ่มรู้สึกดีขึ้นกับสิ่งที่ได้ปลดปล่อยความรู้สึกออกไป ผมก็ช่วยนักบินคนนั้นลุกขึ้นยืน
“ทีนี้ทางใครทางมัน แล้วอย่าให้เจอกันอีกเลย...”
นักบินคนนั้นพยักหน้า เขาเดินไปทางที่เครื่องบินที่กำลังไหม้นั้นและค่อยๆหายไป
เมื่อผมเห็นอย่างนั้น ผมก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อยที่ปลดปล่อยความโทสะนั้นออกไป
ผมก็หันไปเห็น สคอร์ กำลังขึ้นรถกับทหารกลุ่มหนึ่งผมจึงรีบวิ่งเพื่อจะตามเขาไป
แต่ด้วยสัมภาระที่มีผมจึงตัดสินใจถอดทิ้งไป
วิญญาณคงไม่ต้องการของพวกนี้อีกแล้วล่ะ
ผมนั่งบนกล่องตรงข้ามกับเขา ทุกคนในรถนั้นคุยกันสนุกสนานกับเรื่องที่พวกเขาเจอ
แต่ไม่ใช่กับ สคอร์ฟิลด์ ที่ดูเหม่อลอยและมองมายังบ้านร้างนั้น...บ้านร้างที่มีร่างของผมอยู่ตรงนั้น
ผมเอามือไปจับที่มือเขาแต่มือนั้นมันทะลุผ่านเขาไป
ใช่สิ...
ผมเป็นแค่วิญญาณ สัมผัสคนจริงๆไม่ได้หรอก...
“โหว่ย! คนขับ ขับให้มันดีๆหน่อยดิวะ!”
เสียงทหารนายหนึ่งร้องตะโกนลั่น ตอนนี้รถที่เรานั่งกันนั้นมันติดหลุม
สคอร์ ลงไปดูเขาสั่งให้รถถอยหลังหรือเดินหน้าบ้าง
ผมก็ลงตามไปแต่ที่เห็นคือพวกทหารในรถก็อยู่เฉยเหมือนเดิม
นี่พวกเขาจะไม่สนใจอะไรเลยใช่ไหม...
“ทุกคนลง... ลงมาเดี๋ยวนี้!”
เสียง สคอร์ ดังขึ้นสั่งทหารทุกคนให้ลงมา เขาสั่งทุกคนให้ดันรถผมเห็นความตั้งใจของเขามาก
เอาจริงๆผมพึ่งมาเห็น สคอร์ อารมณ์เดือดแบบนี้ เห็นเขาดุครั้งแรกก็ตอนนี้แหล่ะ
ผมก็นึกนะถ้าผมอยู่กับเขานานกว่านี้ผมก็คงโดนดุเหมือนกัน...
แค่ตอนออกจากถ้ำนั้น เสียง สคอร์ เย็นเยือกและไม่สบอารมณ์มาก มันน่ากลัวจริงนะ
เขาทำสำเร็จ พวกเขาเอารถที่ตกหลุมนั้นขึ้นได้แล้ว ผมขึ้นไปนั้งที่เดิม ทุกคนนั่งที่เดิม
ยกเว้น สคอร์ มานั่งตรงกลางเขานั่งใกล้ผม...ใกล้มาก... ตัวคือแทบจะชิดกันได้...
แต่รู้สึกดีจังที่อยู่ใกล้เขานะ...
พวกเขาคุยกันเรื่องไปกองพันเดวอนส์ ไปส่งสารคำสั่งของท่านนายพลให้พันเอกแม็คเคนซี่หยุดการโจมตีพรุ่งนี้
“นายทำไม่ได้หรอก”
นายทหารคนหนึ่งเอย... ซึ่ง สคอร์ ก็เคยพูดแบบนี้กับผม
ถ้าผมไม่รอบคอบหรือไม่วางแผนพวกเราก็ไม่รอด
ซึ่งจริง ผมไม่รอด... ผมขาดความรอบคอบและการวางแผน...
ถ้าผมฟัง สคอร์ ซะนิด....
“ฉันต้องรอด”
ผมหันไปหา สคอร์ และเขาพูดแบบมั่นใจมาก
และผมก็พูดแบบนี้กับ สคอร์ ในสีหน้าที่มั่นใจมากเหมือนกัน
จากตอนแรกที่สีหน้าของเขาที่ไม่อยากจะมาเลย กลับกลายมาเป็นที่มุ่งมั่นที่จะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ...
ฉันฝากความหวังที่นายแล้วนะ สคอร์
พาฉันไปหาพี่ชายฉันทีให้ฉันได้ไปเจอเขาเป็นครั้งสุดท้ายด้วยนะ...
“สะพานขาด!”
ผมได้ยินเสียงทหารคนหนึงพูด ผมลงไปดู สิ่งที่ผมเห็นมันก็ ปกติทุกอย่างและมีคนเดินตามปกติ...
ทำไมเขาบอกสะพานขาดล่ะ
“สะพานมันขาด เราจะอ้อมไป”
“ผมไปกับท่านไม่ได้ครับ”
เดี๋ยวสิๆ นี่พวกนาย! ไม่เห็นหรอว่า...
เดี๋ยวนะ...
เราตายแล้วนี่...
แล้วสิ่งที่เราเห็นนั้น...
มันหมายความว่ายังไงกัน?
.
.
.
TBC
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in