ขอเริ่มเรื่องแรกสุดด้วยหนังที่ดูมาเมื่อต้นปี 2019 ด้วยความที่ได้บัตรฟรีมา แล้วก็อยากใช้ให้คุ้มๆ
Bohemian Rhapsody
ก่อนอื่น ม้ันคืออะไร... 555
คือต้องบอกก่อน ว่ารู้แค่ว่าเป็นหนังเกี่ยวกับวงดนตรีวงหนึ่งที่ดังมากๆ ชื่อว่า Queen
ข้อมูลที่มีในหัวคือน้อยมาก สารภาพแบบตรงๆ เลยคือไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพลง We will rock You , We are the champions ที่แม่งโคตรจะดังไปทั่วโลก ร้องแหกปากทุกงานกีฬาสีเนี่ย มันเป็นเพลงของวงควีน... (หนูผิดไปแล้วจ้าแม่)
เป็นคนชอบฟังเพลงแหละ แต่ก็ฟังแต่เพลงที่ชอบ วงที่ชอบ ไทยบ้าง เกาหลี สากล อินดี้ ลูกทุ่ง ลูกกรุง เพื่อชีวิต ฟังหมด แต่ความรู้เกี่ยวกับเพลงจะน้อยมาก เพราะอะไรที่ไม่สนก็คือไม่สนเลย
ตัดกลับมาที่หนังเรื่องโบฮีเมียน ความรู้อันน้อยนิดในตอนนั้นคือ เออ นักร้องนำเป็นเกย์นะ กับฉากคอนเสิร์ตมันเหมือนจริงมากๆ เนี่ย ความรู้มีแค่นี้...
เดินเข้าโรงไปแบบงงๆ ไม่ได้คาดหวังว่าจะอินมาก เพราะไม่รู้จักอยู่แล้ว
สิ่งแรกที่นึกได้คือ เห้ย พระเอกมันเล่นเรื่อง Twilight ภาคจบนี่หว่า
ด้วยความที่ไม่ใช่เป็นคนดูหนังเป็น หรือวิจารณ์อะไรได้เป็นฉากๆ ขนาดนั้น แถมตอนนั้นไม่รู้จักวงควีน ความรู้น้อยมาก เหมือนทำความรู้จักวงไปพร้อมๆ กับตอนดูหนัง เติบโตไปกับ เฟรดดี้ ที่เพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกร่วมกับเพื่อนๆ สามคน
อารมณ์ของหนังมันก็ขึ้นๆ ลงๆ บ้าง ถ่ายทอดชีวิตคนคนนึงออกมาจริงๆ มีช่วงที่ทะเยอทะยาน ไต่เต้า โด่งดังจนถึงขีดสุด และก็มีช่วงที่ตกต่ำสุดๆ เหมือนกัน บางทีเราก็หงุดหงิดกับการกระทำหลายๆ อย่าง นางจะเหวี่ยงเพื่อนทำไมวะ? จะจัดปาร์ตี้อะไรขนาดนั้น? จะดื้อแพ่งให้มันได้อะไร?
คิดไปคิดมา เออ หนังมันก็กึ่งๆ สารคดี (เรียกงี้ป่ะ?) ชีวิตคนเรามันก็ไม่ได้เพอร์เฟคทุกช่วงเวลาแหละ ดีบ้างร้ายบ้าง เรียลๆ เลยแบบนี้
ความประทับใจกับเรื่องนี้ในตอนที่ดูก็จำไม่ค่อยได้แล้ว จะไปคุยกับใครเค้าก็ไม่ได้ว่าเห้ยฉากคอนเสิร์ต Live Aid แม่งทำเหมือนมาก! เพราะก่อนเข้าโรงคือไม่เคยดูด้วยซ้ำ ไม่เคยเห็นหน้าสมาชิกวงควีนเลยเอางี้ 555
แต่สิ่งที่สัมผัสได้คือมันเพลินมาก ด้วยความที่ชอบฟังเพลง ไม่มีจุดไหนที่น่าเบื่อเลย ถึงจะขัดใจการตัดต่อของนางแต่ก็ยังพอให้อภัยได้
ที่จำได้อีกอย่างหนึ่งคือ ผู้ชายที่นั่งข้างๆ มาดูคนเดียว ถึงกับร้องไห้ช่วงท้ายของเรื่องอะ!
เอาจริง ตอนนั้นเราก็เข้าใจเค้านะ เห็นแบบนั้นต้องเป็นแฟนคลับชัวร์ๆ แล้วการต้องมาดูชีวิตของศิลปินที่เรารักมีช่วงรุ่งโรจน์ไปจนถึงจุดจบของชีวิตที่ไวเกินเหตุ ใครไม่ร้องก็คือใจแข็งมาก ขนาดเราไม่รู้จักควีนมาก่อน ช่วงก่อนคอนเสิร์ต Live Aid ยังแอบอินไปด้วยจนจะร้อง
แต่ก็ไม่ได้ร้อง
สิ่งที่ทำหลังออกจากโรงก็คือ เข้า Spotify เสิร์ชหาวง Queen แล้วดูว่ามีเพลงอะไรบ้าง เห็นอัลบั้ม Bohemian Rhapsody The Original Soundtrack แล้วแฮปปี้มาก ชีวิตไม่โดนลอยแพ
แล้วหลังจากวันนั้น ไม่มีวันไหนอีกเลยที่ไม่ฟังเพลงวงควีน
มันเป็นความเสพติดมาเรื่อยๆ จากที่ฟังแต่เพลงประกอบในหนัง ก็เริ่มมาหาเพลงอัลบั้มอื่นฟัง เริ่มไปดู Live Concert ทั่วๆ ไปแล้วก็ Live Aid ด้วย ไม่รู้จะอวยเกินไปรึเปล่า แต่อยากยกให้ Live Aid เป็นไลฟ์สดที่ดีที่สุดที่เคยดูอันนึงเลย
เราไม่เคยเห็นวงไหนเล่นได้จริงใจและมีพลังขนาดนี้มาก่อน ขนาดว่าอยู่บนเวทีตัวเล็กๆ ต้องสะกดคนดูในสนามเกือบๆ แสนคน แต่เค้าก็ทำได้ เหมือนว่าทุกท่วงท่าที่เดิน พูด ขยับมือมันมีความหมายหมดเลย จากที่ว่าจะเปิดๆ ฟังแล้วทำอย่างอื่นไปด้วย ก็ต้องมานั่งดูไอ้ Live Aid นี่ทุกรอบ สรุปก็ไม่ได้ทำอย่างอื่นเลย หาไลฟ์ดู 555
เป็นไลฟ์ที่คนต้องมองตาม ทำตาม และอินตาม
Radio Ga Ga เลยเป็นเพลงที่ชอบที่สุดไปโดยปริยาย ฟังอยู่นั่นแหละ
อาการหนักเข้าก็ไปนั่งดูสารคดีเกี่ยวกับเฟรดดี้ใน iflix ทำให้รู้จักนางในอีกมุมนึงที่เรียลกว่านั้น จากคนนที่เคยร่วมงานด้วย พูดถึงเรื่องไลฟ์สไตล์กับเรื่องการทำเพลง ก็สนุกไปอีกแบบนะ ทำให้เห็นว่าเฟรดดี้นี่โคตรอัจฉริยะทางดนตรีเลย
จากที่เคยร้องแต่เพลง We will rock you ในงานกีฬาสี จนตอนนี้ก็รู้จักวงควีนแล้ว กลายเป็นแฟนคลับ ซื้อเสื้อมาใส่ เปิดเพลงกรอกหูพี่สาวจนตอนนี้ Mama~~ กันทั้งบ้าน 555
ดีใจจริงๆ ที่ตัดสินใจซื้อตั๋วเข้าไปดู
Her Majesty, Queen!
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in