เชี่ย
โว้ย!
พอลองมาเขียนไดอารี่จริงๆ แล้วโคตรอึดอัดเลย อย่างแรก ทำไมต้องใช้คำว่าผมด้วยวะ แล้วก็หัวข้อที่เขียน… แฟน? เราก็ยังไม่ควรมีตอนนี้อยู่ดี ช่างมันเถอะ สิ่งที่สำคัญคือเริ่มเขียนไปแล้วต่างหาก ได้ระบายไปแล้ว ถ้ามันจะเกิดเรื่องแย่ๆ ในอนาคต นี่จะเป็นหลักฐานให้เอาไปเรียนรู้ต่อไป ใช่ไหม?
เออ แต่ถ้าตัวเราในอนาคตมาเห็น มันจะหัวเราะตายห่ามากกว่านะสิ
พออ่านทบทวนสิ่งที่เขียนไว้ในไดอารี่ของเมื่อคืนก็เดินไปโรงเรียนต่อ ทุกอย่างยังผ่านไปช้าๆ เหมือนเดิม เพราะเวลาไม่เคยอำนวยผม น่าเบื่อสิ้นดี แต่อย่างน้อยเราก็ได้ใช้เวลากับห้องดนตรีที่นั่นเหมือนกัน อ้อ แล้วก็แน่นอน ผมยังได้เจอ “เธอ” หรืออีกชื่อนึงก็คือบิวตี้นั่นแหละ
“ว้าว ดิส อิส โซ ออลซั่ม! ธงชัย เราว่าเราต้องดูนายเล่นเพลงนี้ตอนนี้เลยอะ เราชอบวิธีเขียนเพลงของนายมากเลยรู้ไหม”
“อะฮ่าๆ เกินไปไหม มาดูเราซ้อมทุกวันเลยสิถ้างั้น?”
“จ้า จะพยายามมาทุกวันนั่นแหละ ว่าแต่เพลงนี้มันเป็นเพลงรักหวานแหววเลยหนิ นี่นายมีคนที่แอบชอบหรือเปล่า”
“หือ?”
“ก็ปกตินายไม่ได้เขียนเพลงแนวนี้หนิ”
ถ้าบอกไปว่าชอบเธอล่ะ ถ้าบอกไปว่าชอบเธอล่ะ ถ้าบอกไปว่า-
“เดาเอาเองแล้วกัน”
“นั้นก็มีคนที่แอบชอบจริงๆ นะเหรอ แต่ก็ไม่ยอมบอก? เฮ้อ เอาอย่างงั้นก็ได้… ตอนที่เดินไปห้องซ้อมกันเลี้ยงน้ำเราหน่อยสิ”
ยังไงก็ล้มเหลวว่ะ เขาทำตัวเป็นธรรมชาติไปตอนที่เราบอกไปอย่างงั้น งี้ก็ต้องโทษตัวเองใช่ไหม คนที่ไม่มีความทะเยอทะยาน ไม่มีแผน ไม่มีอะไรเลย แค่ใจรักเฉยๆ
แสดงว่าการ “เป็นตัวของตัวเอง” ก็คงไม่ช่วยอะไรหรอก ลองให้คนช่วยหน่อยแล้วกัน
“เฮ้ยธง เพลงนี้ฟังโคตรติดหูเลย อยากรู้หน่อยว่าได้ไอเดียมาจากไหน จู่ๆ ถึงได้มาแต่งเพลงรักแบบนี้เนี่ย”
“เรียกว่าธงชัยดิวะ แล้วก็ เก็บไว้เป็นความลับได้ไหม”
คำถามเดิม แต่ตอบไปคนละแบบแฮะ
“หะ บิวตี้หรอ สาส สนิทจนตัวจะติดกันขนาดนั้น เฮ้ยๆ อันนี้ไม่ใช่ว่าคาดไม่ถึง แต่แม่งก็ยังตกใจว่ะ อ้อ คือถ้ามึงชอบใครซักคนคงจีบไปแล้ว แต่นี่เป็นเพื่อนสนิทก็เลยไม่กล้าทำอะไรนะหรอ?“
“เออ แต่ฟังนะเว้ยสิ่งที่มึงเห็นกับกูมันต่างกันมากนี่เป็นครั้งแรกที่กูรักใครขนาดนี้แล้วยังเป็นเพื่อนสนิทด้วยขอคำแนะนำให้จีบติดหน่อยได้ไหม”
“เออ แต่เว้นวรรคก่อนมันจะตายไหมวะ”
เควิน เพื่อนร่วมวงอีกคนที่มันมีแฟนแล้ว ตามตรรกศาสตร์แล้วอาจจะให้คำปรึกษาที่ดีได้ ตอนนี้มันไม่ยอมตอบอยู่พักนึงแล้ว แต่ก็คงไม่แปลกหรอก ถ้ามองจากมุมมองของคนที่จะต้องให้คำปรึกษากับคนที่แอบรักเพื่อนสนิทนะ แล้วก็เราอาจจะไม่สนคำปรึกษาอะไรขนาดนั้น เพราะอยากให้มันเล่าประสบการณ์ของมันกับแฟนมากกว่า
แต่ซักพักมันก็ตอบกลับมา ไม่สิ มันโทรมาหาผมต่างหาก
“ว่าไง?”
“มึงรู้ใช่ไหม ว่าเป็นแฟนกับเพื่อนเนี่ย ความรู้สึกระหว่างมึงกับเขาเนี่ยจะเปลี่ยนไปแค่ไหน”
“เออรู้ดิ แล้วจากประสบการณ์ของมึง คิดว่าจะบอกอะไรกูได้บ้างละ”
“ก็ มึงรับการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ร๊อก เชื่อดิ มึงยังวาดฝันไว้ว่าบิวนี้จะทำตัวเหมือนตอนนี้ตลอดไปหรือเปล่าล่ะ”
“ถ้างั้นขอถามเรื่องส่วนตัวหน่อย”
“ตามใจ”
“ที่... มึงกับแฟนยังคบกันอยู่ ทั้งๆ ที่มีปัญหากันทุกวี่ทุกวัน เออ ขนาดนั้นอะทำไมมึงถึงรับได้?"
"โถ่ ยังจะต้องถามอีกหรอวะ ก็รับได้สิ ทางที่ดีนะเว้ยคือทางลาดยาง เอ้ยๆ มึงจีบเขาไปเลย พูดคุยดูใจกันไปเรื่อยๆ จนมึงรู้สึกว่าลงตัวแล้วค่อยตัดสินไปเลย"
“นี่มึงจะเล่นมุกทำไม”
“อ้าว ก็ไม่ให้มึงเครียดไง ฮะ”
“มึงไม่ซีเรียสซักอย่างเลยหรอ เพราะอย่างงี้ไงมึงถึงชอบทะเลาะกับแฟนอะ”
“อ้ายห่า มึงให้กูสอนเรื่องนี้ไม่ใช่หรอ จะมาทำเป็นสอนกูทำไม?”
“ถ้างั้นขอถามอีกเรื่อง”
“...”
“อนาคตพวกมึงอะ จะแต่งงานกันไหม”
คราวนี้เควินมันไม่เงียบอย่างเดียว แต่แม่ง! วางหูไปด้วย เดาว่ามันไม่ได้คิดเรื่องนี้มาก่อนอะนะ ไปนอนก่อนแล้วกัน ยังไงก็เริ่มมีกำลังใจกับเรื่องน่าปวดหัวนี้ซักหน่อยแล้ว
โดนตัดเพื่อนไหมวะ
.
.
.
“แต่งงานกันไหม?”
“ใช่แล้ว ชื่อเพลงใหม่นะ”
“อืม ทำเอาตกใจเหมือนกันนะ ไม่รู้ทำไม”
สรุปก็ยังทะเยอทะยานไม่พออยู่ดี เจ็บนะ แต่จะปล่อยเธอไปแล้วกัน ยังไงเป็นเพื่อนกันมันก็ต่างจากเป็นแฟนจริงๆ แหละนะ อีกอย่าง ยังไม่อยากเป็นอย่างไอ้เควินด้วย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in