Lift your mood up ไปกับเพลงแรก Not this time เพลงนี้เป็นเพลงที่ทำนองชวนให้รู้สึกปลดปล่อย ปลง แล้วก็ความที่จะไม่สนขิงข่าอะไรแล้วมากๆ (พูดง่ายๆ คือจะเทแล้วนั่นเอง) ส่วนเนื้อเพลงก็อารมณ์ตามทำนองคือแบบผู้ชายคนหนึ่งไว้ใจผู้หญิงหรือแฟนของเธอนั้นมากๆ แต่แล้วเค้าก็มารู้ทีหลังว่าหล่อนนอกใจ แล้วก็มาโกหกกับเขาต่างๆ นานา จนสุดท้ายเค้าก็คงจะหมดความอดทนแบบว่าหลายครั้งที่ผ่านมาเธออาจจะหลอกฉันได้นะ แต่ไม่ใช่ครั้งนี้ เหอออ Not this timeee
เพลงนี้ดูเหมือนแค่ทำนองก็เพราะแล้วนะ แต่สิ่งที่ดูจะมีเสน่ห์ที่สุดของเพลงนี้ก็คงจะเป็นความร้ายของเนื้อเรื่องมากกว่า ซึ่งเนื้อเพลงมันอยู่ประมาณว่าเรื่องราวความสัมพันธ์ทางกาย(หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เธออยากจะจำกัดความ)ที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันไม่ใช่ความรัก (ฉะนั้นอย่าเรียกมันว่าความรัก) จะเรียกมันว่าเป็นความอยาก ความหื่นกระหายก็ได้ ต้องโทษที่แสงไฟข้างทาง ต้องโทษวิธีที่เธอจูบฉัน ต้องโทษที่เธอเอาแต่จับมือฉันไม่ยอมปล่อย เรื่องราวของเรามันก็แค่นี้แหละ อย่าเรียกมันว่าความรักเลย
แต่ท่อนที่เราชอบที่สุด แบบหลุดขำคือท่อนนี้
It's like a beautiful car crash
Where two people collide and
Nobody gets hurt and
No ones left behind
มันเหมือนกับการขับรถชนกันอย่างรุนแรง (และดูสวยงาม?)
คนสองคนประสานงากัน
ไม่มีใครเจ็บ
แต่ก็ไม่มีใครรอด (คือแบบตายคาที่ ถูกมะ 5555)
พอแปลแล้วมันอาจจะดูแปลก หรือเฉยๆ แต่นี่ก็คือส่วนหนึ่งของเนื้อเพลงที่เราอยากจะแชร์ ซึ่งบอกเลยว่าเพลงนี้ร้ายกาจจริงๆ นี่ขนาดไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้นยังฟังแล้วรู้สึกแสบๆ คันๆ เลย ร้ายมากกก
เพลงนี้แนะนำว่าใส่หูฟังหรือเปิดลำโพงเสริมอย่างเดียวเลยค่ะ ไม่งั้นไม่รอดด มันจะมีบีทเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ ซึ่งเราว่ามันคือเสน่ห์ของเพลงนี้ ถ้าเปิดลำโพงเฉยๆ แทบไม่ได้ยินเลย แต่เพลงนี้ก็จะเน้นที่ดนตรีเป็นทำนองดำเนินไป จะมีเนื้อร้องแซมออกมานิดหน่อยแต่ดนตรีมันน่าสนใจมาก
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in