หลังจากที่ไม่ได้เขียนเเละหายไปอย่างยาวนานตัวผู้เขียนก็รู็สึกผิดหวังกับตัวเองมาก ๆ ที่ไม่สามารถทำได้อย่างที่ตัวเองพูดไว้ว่าจะเขียนบทความขึ้นมาเรื่อย ๆจากที่เคยสัญญากับตัวเองว่าจะพยายามเขียนให้ได้อย่างน้อย  ๆ หนึ่งเรื่องต่อหนึ่งเดือนไม่ว่าจะบทความนั้นจะเกี่ยวกับละคร ภาพยนต์ หรือเพลงต้องขอสารภาพตามตรงว่าค่อนข้างรู้สึกเหนื่อยล้าจากงานประจำก็หมดเเรงจนแทบไม่อยากทำอะไรอีกเลยโปรเเกรมที่เคยวางเเพลนไว้ก็ล่มลงเเบบไม่ชิ้นดี เเละได้หลงลืมไปว่า อ่าเรานั้นเคยทำอะไรแบบนั้นด้วยเหรอ จากนั้นไม่นานศิลปินผู้มากความสามารถก็ทำการปล่อยเพลงปล่อยอัลบั้มมาให้เราฟังเรื่อย ๆเเละเมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมาเจ้าตัวได้ทำการประกาศปิดทัวร์เอเชียเเล้วเรียบร้อยเเละได้มาปิดทัวร์ที่ประเทศไทยในฐานะที่เราที่ติดตามข่าวสารมาโดยตลอดก็ได้มีโอกาศไปฟังคิมฮันบินในคอนเสิร์ตเดี่ยวของเจ้าตัวถึงสองครั้งสองคราด้วยกันต้องบอกว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมาตลอดที่ยอมไปฟังสด ๆสักครั้งด้วยหูของตัวเองเเละจากนั้นไม่นานเจ้าตัวก็ได้เเสดงให้เห็นความสามารถในการประพันธ์ผลงานชิ้นโบว์แดงของคิมฮันบินหรือบีไอให้เราได้เสพอีกครั้ง กับการกลับมาด้วยอัลบั้มเต็มที่มาสานต่ออัลบั้ม COSMOS จากหนุ่มที่ใฝ่ฝันในรักเปรียบเธอเป็นดั่งจักรวาลสู่ชายหนุ่มที่ยอมตายเพื่อความรักโดยมีเเรงบันดาลใจหนังอินดี้ เรื่อง The Necessary Death of Charlie Countryman ก่อนที่เจ้าตัวได้ปล่อยอัลบั้มนี้ออกมาก่อนหน้านั้นไม่นาน บีไอได้ปล่อย Global album ออกมาอย่าง LOL (LOVE OR LOVER) เเละได้สร้างปรากฏการณ์ท่าเต้นยอดฮิตไว้ทั่วบ้านทั่วเมืองอย่างBTBT ที่เจ้าตัวได้เเต่งเเละเคยสัมภาษณ์ออกมาว่าBTBT มีความหมายที่แปลกเวลาที่ชายหญิงอยู่ด้วยกันเกิดอาการหัวใจเต้นเป็นจังหวะบีทึล บึทึล ก่อนหน้านี้ทางผู้เขียนได้เขียนวิเคราะห์อัลบั้มก่อนหน้าไว้คืออัลบั้มCOSMOS ซึ่งเป็นฮาร์ฟอัลบั้มก่อนจะใช้เวลาถึงสองปีก่อนจะมาเป็นFULL ALBUM TO DIE FOR ที่ผู้เขียนได้เขียนอย่างจริงจังว่าอัลบั้ม COSMOS นั้นเรียงเพลงได้ไม่ต่อเนื่องเเละไม่สมู้ดเท่าอัลบั้มเเรกอย่างWATERFALL เมื่อเเทร็คลิสต์อัลบั้ม TO DIE FOR ออกมาเราก็รู้ได้ทันทีว่าเพลงมันไม่ได้เรียงแบบนั้นน่ะเเต่มันเรียงแบบนี้ต่างหากเเละจากนั้นไม่นานผู้เขียนก็ได้มีโอกาศอ่านสัมภาษณ์ของบีไอมา ซึ่งบีไอได้พูดว่า หากฟังเรียงตามเเทรคลิสต์จะรู้สึกถึงภาพยนต์เรียงนึงเลย ซึ่งให้ความรู้สึกแบบว่า อ่อก็บั้มที่เเล้วมันเป็นฮาร์ฟอัลบั้มนินะแบบฮาร์ฟอัลบั้มจริง ๆ

ต่อจากนี้เราจะมาพูดถึงเพลงในอัลบั้มกันค่ะซึ่งเพลงในอัลบั้มที่เพิ่มเข้ามาใหม่มีทั้งหมดเก้าเพลงซึ่งทั้งเก้าเพลงอัดเเน่นไปด้วยคุณภาพเเละศิลปินคุณภาพทั้งหลายที่มาร่วมงานกับคิมฮันบินในครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็น big naughty , Jessi , Kid milli, lilcherry เเละศิลปินร้อคเเบรนด์อย่างCrying nut  คือถ้ามองในมุมเราถ้าเป็นงานของบีไอเราสามารถคาดหวังเหล่าบรรดาศิลปินที่มา ร่วมงานได้อย่างไม่จำกัดเพราะเเต่ละคัมเเบ็คจะมีเรื่องให้ตื่นเต้นเเละตกใจได้เวลาตอนที่เราเห็นเเทรคลิสต์เราคาดหวังกับ Michelangelo  มากที่สุดเพราะเป็นชื่อศิลปินระดับโลกที่วาดภาพบนผนังที่มีชื่อเสียงมากๆ  เลยอยากจะรู้ว่า เเทรคนี้นี่มันยังไงมันเป็นเเค่การอุปมาอุปไมยจากรูปภาพสุดโด่งดังหรือว่าเเต่งถึงศิลปินท่านนี้จริง ๆ

เมื่อเพลงปล่อยออกมาเเล้วเราได้ไล่ฟังจากจากเเทรคที่ฮันบินเเรียงมาใหม่ สรุปต้องกรี้ดออกมานี่สิผลงานชิ้นเอกจากคิมฮันบินเเละเเล้วการเรียงบั้มแบบสสมู้ทที่เราเฝ้ารอได้กลับมาอีกครั้ง

อัลบั้ม TO DIE FOR เปิดอัลบั้มด้วยอินโทรเพลงอย่างTO DIE  

เเทรคอินโทรที่บีทส์เเละเนื่องที่โคตรจะเท่จังหวะเปลี่ยนทำนองที่โคตรจะฟุ้งเหมือนกับว่าหนังเรื่องนี้กำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง เนื้อเพลงที่กัดจิกเบา ๆ  เเต่เเสบจนเหมือนเอาน้ำเกลือมาราดบนเเผลคือตอนเเรกเพลงนี้เรานึกว่าจะติด E ด้วยซ้ำเเต่ไม่ติดเพราะไม่มีคำหยาบเลยสักท่อน เนื้อเพลงเทพ ๆ คำประพันธ์เจ๋ง ๆที่ไม่ต้องมีคำหยาบ ฟังละนึกถึงสมัยที่ฮันบินยังเเข่ง SMTM3 ท่อนที่ชอบเป็นท่อน 

"목숨 건 판때기에 익명성 뒤에

 เบื้องหลังการไม่ประสงค์ออกนามในช่วงเวลาที่ต้องเสี่ยงความตาย"

อันนี้ไม่รู้หมายถึงอะไรเเต่เรื่องลิขสิทธิ์กับเรื่องเพลงที่ฮันบินโดนบ่อย ๆ ก็มองได้ไปทางนั้นถ้าฟังก็มีเจ็บ  ๆ กันบ้างเเหละเพลงนี้ให้ความรู้สึกขุ่นมัวค่ะ ฟังละอยากออกไปตีกันอะไรแบบนั้นเเละบีทเพลงเวลาฟังเหมือน MBG ในหนังเวลาที่ตัวเองกำลังจะบุกไปหาคู่อริประมาณนี้ค่ะ มันทำหน้าที่เเทรคอินโทรได้สมบูรณ์เเบบค่ะ ดีมากกกๆ

해일 (Wave) (feat. Kid Milli, Lil Cherry)

เเทรคที่สองต่อจากเเทรคอินโทรเพลงนี้อ่านผ่าน ๆ ว่า ฮันบินเคยสปอยว่าเป็นเพลงที่เบากว่า Waterfallตอนเเรกที่เราอ่าน คงจะมาเเนว Waterfall นั้นเเหละพอได้ฟังจริง ๆ อ่อไม่ใช่ฮันบินเเค่สปอยชื่อเพลงเฉย ๆเเล้วที่ฮากว่าคือตอนเเรกนึกว่าได้เเรงบันดาลใจมาจากไปทะเลมาไรงี้ เเต่จริง ๆ คือเล่นคอนเสิร์ตเเละมองเห็นคนเป็นคลื่นเลยได้เพลงมา(ความสุดยอดเเละมองภาพต่างจากเรา) เพลงนี้เราอ่านแปลอิ๊งมาคร่าว ๆ เหมือนเป็นเพลงต้องการอิสระมีพูดถึงนายทุนด้วยนิดนึงต้องการความอิสระ ผมนั้นอยู่เหนือความควบคุม ผมมันควบคุมไม่ได้ถ้าไปให้สุดผมก็คือผู้ชนะ ผมจะบินเเล้วนะ พอได้ฟังเต็ม ๆ เพลงนี้คือกวนมาก ๆเลือกคนมา FT ได้ดีมากๆ ค่ะเสียงทั้งสามคนเรียกได้ว่ากวนสุด ๆ บีทจะออกเเนว EDM มัน ๆ หนัก ๆเเต่ฟังเเล้วรู้สึกปลดปล่อย เหมือนได้โฟลวไปพร้อมกับบีทนั่นเเหละเอาให้มันกระเเทกหัวออกไปให้หมดให้มันโล่งไปเลยตอนเเรกไม่ได้คาดหวังเเทรคนี้มากค่ะ เเต่พอได้ฟังกลับชอบมาก ๆ(ตอนเเรกคิดว่าฮันบินจะไม่ทำเพลงแบบนี้เเล้ว)

The Island Misfit of Toys

ตอนเเรกก่อนจะได้ฟังคิดว่าจะเป็นเพลงฮิปฮอปหนักๆ เพราะชื่อเพลงไปในทิศทางแบบนั้นเเต่พอเพลงออกมาพอได้ฟังเป็นเพลงฟังง่ายทำนองน่ารักมาก ๆ จะบอกว่าทำนองเก๋มาก ๆเพลงนี้ตอนไปดูเนื้อไม่มีภาษาอังกฤษเลย เป็นภาษาเกาหลีล้วน ๆเรายังไม่ได้อ่านคำเเปลเพลงนะ เเต่ก็แอบไปอ่านเเปลอิ๊งมากนิดนึงมันแอบหวานเลี่ยน ๆตรงที่ว่าถึงเเม้ว่าโลกนี้จะมีเเค่เราสองคนเเต่คุณก็โคตรพิเศษอะท่องไปในความฝันอันที่ไม่มีที่สิ้นสุด โดยรวม ๆ เราว่ามันกลมกล่อมแบบที่ทุกคนคิดเลย

Die for love (feat. Jessi)

มาถึงไตเติ้ลแรกของอัลบั้มหลักโดยธีมของเพลง

ผมน่ะจะตายเพื่อความรักมันก็คงจะดีท่ามีความรักที่คู่ควรกับความตาย มันอาจจะดูไร้เดียงสานะเเต่นั้นน่ะมันอาจจะกลายเป็นวีธีทำลายชีวิตที่ดูเท่ที่สุดเลย

 พออ่านจบเนื้อเพลงโคตรจะฮันบิน แบบเพลงนี่นี่มันฮันบินเเต่งโว้ยยแบบนี้เลย เอกลักษณ์แบบชัดโคตร ๆเพลงนี้เหมาะเเล้วสำหรับเป็นไตเติ้ลเเรกของอัลบั้มเพลงมีความ EDM เเต่ตอนเราฟังเราก็คิดว่ามันคือเพลง pop   ทำนองเเบบเฟรช ๆ สนุก ๆซัมเมอร์ต้อนรับหน้าร้อนมาพร้อม ๆ กับ เสียง Jessi ที่ช่วยให้เพลงกลมกล่อมมากกว่าเดิม มันเป็นความลงตัวแบบพอดิบพอดีอันนี้เราได้ไปอ่านมาว่าฮันบินส่งเพลงให้ Jessi เลือกเพลงที่อยากทำด้วยกันถึง 40 เพลง เเล้วตกใจกว่าเดิม ไอ้ 40เพลงเนี่ยก็ได้เป็นเพลงนี้ออกมาเเถมยังได้เป็นไตเติ้ลอีกต่างหาก

겁도 없이 (Dare to Love) (feat. BIG Naughty)

ต่อจากไตเติ้ล Die for loveมาถึงดับเบิ้ลไตเติ้ลอย่าง Dare to Love นับว่าเป็นเพลงฝาเเฝดชายหญิงเลยก็ว่าได้เพลงนี้ก็น่ารักมากทั้งเนื้อเพลงเเล้วก็ทำนอง กับความกล้าที่จะรักของชายหนุ่ม เพลงDie for love บอกผมน่ะจะตายเพื่อความรัก มันเลยดูรุนเเรงใช่ไหม เเต่เพลงนี้เนื้อเพลงมันน่ารักมาก ๆคือท่อนนึงที่บอกว่า

ความรู้สึกที่มีผีเสื้อบินวนในใจโศกนาฏกรรมนี้จะเริ่มขึ้นทันที่เมื่อพูดคำว่ารักเราทำน้ำหกเเละต่อให้น้ำกลายเป็นโคลน ผมก็ยินดีที่จะจมลงไป 

คือเมื่อเทียบกับเนื้อเพลง Die for love ก่อนหน้าที่บอกผมน่ะยอมตายเพื่อความรักได้น่ะมันคงเท่น่าดูมันเป็นความรู้สึกที่รักไปเเล้ว เเต่ Dare to Love บอกว่า หากพูดคำว่าโศกนาฏกรรมจะเกิดขึ้นถ้าพูดคำว่ารักเพลงนี้เป็นความรู้สกของการเริ่มชอบ คือเนื้อเพลงมันต่อกันเป็นหนังจริง ๆเเล้วเพลงนี้มีท่อนนึงที่บอกว่า อยากจะติดปีกบินขึ้นไปให้สูงถึงเเม้ว่ามันจะเป็นเเค่ความฝัน  ซึ้งไปโยงกับเพลง The Island Misfit of Toys ที่บอกว่าเราท่องอยู่ในฝันที่ไม่มีสิ้นสุดทำให้เรารู้ในที่สุดว่าเนื้อเรื่องทั้งหมดนั้นเรียงต่อกันจริง ๆเเละมันเริ่มเป็นเค้าโครงหนังเเบบที่ฮันบินเคยพูดไว้นั้นเอง

Beautiful Life (feat. crying nut)

เป็นอีกหนึ่งเพลงที่ไม่มีภาษาต่างประเทศในเพลงเลย มีเเต่ภาษาเกาหลีล้วนเพลงนี้เราเคยได้ฟังที่คอนเสิร์ตครั้งนึงเเล้วพบว่าชอบมาก ๆ ได้ฟังละมันถูกใจมันกระโดด สนุกมาก ๆ เพลงนี้เป็น POP-ROCK ค่ะ เป็นเเนวที่เราชอบส่วนตัว ตอนฟังในคอนเสิร์ตครั้งเเรกร้องเชี่ยออกมาดังมาก ๆ นี่มันเพลงสไตร์ประกอบอนิเมะ มังงะโชเน็นจัมพ์นี่หว่าฮึกเกิมปลุกใจ รักพวกพ้องต่อสู้ถึงเเม้ว่าชีวิตเเม่งจะเเย่ขนาดไหนอย่าอยู่คนเดียวนะเรามาเเบ่งปันความโศกเศร้าเเก่กันเเละกันเถอะตอนฟังในคอนเสิร์ตในหัวคิดถึงอิจิโกะลูเคียจาก BLEACH , นัตสึลูซี่จาก Fairy tale เเม่งมันเป็นฟิลนั้นจริงๆ  เพลงนี้เหมือนยกระดับจาก nineteen จาก cosmos อีกทีนึง ประมาณ nineteen เป็นพรีเมี่ยมเเล้วBeautiful Life เป็น Gold อะไรแบบนี้

Cloud Thought

เป็นเพลงเเรกในอัลบั้มที่เรียกได้ว่าไม่เกี่ยวกับความรักเลยเเต่กินใจสุด ๆ พูดถึงชีวิตในเเต่ละวันของคน เมฆที่มองลงมาจะรู้สีกยังไงนะทำไมเราต้องตามหาความฝันอยู่ ทำไมเราต้องหาเงินไอ้สิ่งพวกนี้เนี่ยมันมีความหมายยังไงนะถึงหาคำตอบไม่ได้ ก็ใช้ชีวิตไปก่อนเเล้วกันจะบอกว่าทำนองน่ารักมากเเต่เนื้อเพลงว่างเปล่าสุด ๆ ว่างเปล่าในที่นี้หมายถึงเพราะอะไรถึงต้องทำแบบนี้มันเป็นความรู้สึกว่างเปล่าในชีวิตที่พยายามค้นหาความหมายอะไรแบบนั้น

Truth

เพลงนี้เรารู้สึกทึ่งถึงเเม้ว่าจะสั้นมาก ๆถึงเเม้ว่าจะมีเเค่เนื้อเพลงนิดเดียวไม่คิดว่าเพลงนี้จะแบบนี้ด้วยซ้ำเพลงนี้ตอนได้ฟังไม่รู้ความหมายนะ เเต่พอถึงท่อนที่เป็นดนตรีเปล่าเเล้วเสียงเซ็กโซโฟนขึ้นมา โอ้โหนี่มันอย่างเทพ เทพฮันบินชัด ๆพอไปดูความหมายนี่มันคมคายยิ่งกว่าอะไรใดใด เนื้อเพลงที่บาดลึกไปถึงวิญญาณเมื่อดูเนื้อเพลงดี ๆ เเล้ว เพลง truth จะตอบว่าชีวิตคืออะไรของเพลง Cloud Thought อีกทีนึง ว่าชีวิตจริง ๆ คืออะไร ชอบมากเอาตรง ๆ ทุกคน

MICHELANGELO

เเละเเล้วก็ถึงเพลงปิดของอัลบั้มเเละเพลงที่คาดหวังไว้ตั้งเเต่เห็นชื่อเพลงละมันก็ถูกใจจริง ๆ เเละชอบมากจริง ๆโว้ยยยย เนื้อเพลงที่โคตรจะกวนโอ้ย ที่บอกว่าตัวเองเป็นมีเกลันเจโลมาเกิดฮันบินบอกชอบมีเกลันเจโลเลยเอามาเเต่งตอนเเรกนึกว่าจะพูดถึงผลงานไรงี้เปล่าครับผมนี่เเหละมีเกลันเจโลมาเกิดเองเลย พูดถึงเเอปเปิ้ลของนิวตัว  บอกยีนเรามันต่างกัน มันกวนมากจริงบีทเพลงแบบไล่ไปเรื่อย ๆ half มี  flame อัลบั้มเต็มก็มีmichelangelo  สุดยอดครับ เราให้เป็นเบสเเทรคจากเราเลย

เราได้ลองฟังเพลงเรียงตามเเทรคลิสต์เเล้วก็รู้สึกได้จริง ๆว่ามันเรียงต่อกันทั้งเเต่ To die มาถึงAlive  รอยต่อระหว่างเพลงคือพอดีเป๊ะ เนื้อเพลงพอมานั่งฟังดี ๆอย่างที่เราบอกว่าคำตอบเหมือนมันจะอยู่ที่อีกเพลงเนื้อเพลงต่อกันจนเหมือนภาพยนต์เรื่องนึงเป็นอีกอัลบั้มที่พิสูจน์ฝีมือด้านการทำเพลงของฮันบินเรารู้สึกว่างานของฮันบินโตขึ้นอีกเเล้วจากอัลบั้มที่ผ่านมาทั้งที่อัลบั้มก่อนหน้าก็เพิ่งผ่านไปไม่นาน

โดยส่วนตัวเรา เราชอบ MICHELANGELO มากที่สุดรองลงมาก็เป็น Beautiful Life (feat.crying nut) ค่ะ นอกนั้นก็อยู่ในระดับความชอบเท่า ๆ กัน

ยังไงอย่าลืมไปฟังกันเยอะๆ นะคะ โดยทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นของเราเองนะคะหวังว่าทุกคนจะชอบอัลบั้มนี้กันเยอะ ๆ นะคะ

B.I  Full album"TO DIE FOR"