ในช่วงที่ผ่านมาชื่อของผู้กำกับ Luca Guadagnino คงผ่านตาใครหลายคนในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์รักอันสดในในฤดูร้อนกับฉากลูกพีชอันโด่งดัง Call Me By Your Name ซึ่งเราเองก็ไม่เคยติดตามผลงานของคุณ Luca มาก่อนและด้วยความบังเอิญอย่างมากจึงมีโอกาสได้หยิบภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมาดูโดยไม่ทราบชื่อของผู้กำกับ เอกลักษณ์ในการหยิบยืมความสวยงามของธรรมชาติ การพริ้วไหวของดอกไม้ การเคลื่อนที่ของแมลง ภูเขา แสงแดด และบรรยากาศของอิตาลีที่ตลบอบอวลอยู่ในฉากต่างๆของภาพยนตร์อาจจะเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้ผู้ที่ชื่นชอบ Call Me By Your Name อย่างเราถูกใจหนังแนวนี้ตั้งแต่แรกดู นอกจากนี้คุณ Luca ก็ยังสอดแทรกเรื่องของความรักที่หลากหลายและเปิดกว้างอยู่ในผลงานของเขาอย่างเคย

เรื่องของ Emma เริ่มมีจังหวะเร็วมากขึ้นหลังจากที่ไปพบจดหมายที่ Elisabetta ลูกสาวเขียนหาพี่ชาย ซึ่งเปิดเผยว่าเธอรักผู้หญิงคนหนึ่ง รัก ไม่ว่าเธอคนนั้นจะรักเธอหรือไม่ และเธอมีความสุขที่ทำให้เธอคนนั้นยิ้มได้ Emma เหมือนได้เปิดประตูสู่โลกใบใหม่ของความรัก ความรักและความเป็นอิสระและตัวตนเดิมของเธอที่เธอลืมมันไปนานแล้ว

ในขณะที่ Edo ยุ่งกับการบริหารธุรกิจร่วมกับพ่อรวมถึงการมีความคิดที่จะเปิดร้านอาหารร่วมกับ Antonio นั้น แม่ของเขากลับมีโอกาสที่ได้พบกับ Antonio อยู่บ่อยครั้งและนำไปสู่การมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและเป็นความลับ Emma ผู้ซึ่งอยู่ใต้หน้ากากของภรรยาผู้เพรียบพร้อมของเศรษฐีชาวอิตาเลียนในตระกูลที่สมบูรณ์แบบ ได้เปิดเผยตัวตนอีกด้านของเธอให้กับ Antonio ทราบว่าเธอนั้นเป็นชาวรัสเซีย พบกับพ่อของ Edo ในขณะที่ครอบครัวของเขาไปตามสะสมงานศิลปะในรัสเซีย เธอแต่งงานและย้ายมาอยู่ที่มิลานโดยลบความเป็นรัสเซียของเธอออกไปจนหมดสิ้นรวมถึงชื่อของเธอด้วย แต่ความเป็นรัสเซียของเธอยังอยู่ผ่านทางสำเนียงอิตาเลียนที่ไม่สมบูรณ์ และเมนูอาหาร ”Ukha" ซุปปลาใสของรัสเซียที่เธอปรุงให้ Edo ทานตอนเด็กๆและกลายมาเป็นอาหารจานโปรดของเขา 

 Emma ได้พบกับความสดใสและความสดชื่นในการใช้ชีวิตที่เธอไม่ได้รับจากการใช้ชีวิตในวิลล่าของตระกูล Recchi ความรักของทั้งสองคนนั้นเติบโตขึ้นจนวันหนึ่ง Edo ผู้ซึ่งเริ่มสงสัยในตัวของเพื่อนและแม่ของเขาได้ปะติดปะต่อเรื่องราวจากซุป Ukha ที่ถูกปรุงโดย Antoio