ปลายฝนต้นหนาว ผู้คนมักจะให้นิยามของเดือนตุลาคมไว้เช่นนั้น ช่วงที่เข้าสู่ฤดูการเก็บเกี่ยว ทุ่งนาค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง บรรยากาศครึกครื้น ใบหน้าของผู้คนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่วันเกิดปีนี้ของเขาท้องฟ้ากลับมืดครึ้ม ก้อนเมฆบดบังแสงจันทร์จนหมดสิ้น
เด็กชายนั่งกอดเข่าอย่างเดียวดายกลางสายฝน ริมฝีปากเปลี่ยนเป็นสีคล้ำเพราะความหนาว หิว แต่ร่างกายอ่อนล้าเกินกว่าจะขยับได้ ข้อเท้าข้างซ้ายบวมเป่ง จากการวิ่งระยะไกล เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังมุ่งหน้าไปทิศทางไหน ไม่สนใจกิ่งไม้ที่ยื่นมาขวางหน้าจนกระทั่งสะดุดเข้ากับตอไม้
'แม้สายฝนจะชะล้างเลือดที่หัวเข่าและเขม่าดินปืนบนใบหน้าจนหมดสิ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งความสับสนและคราบน้ำตา' ความเจ็บปวดที่ข้อเท้าแล่นขึ้นมา เด็กชายทำได้แค่นั่งอยู่ตรงนั้น มือกำสร้อยคอไว้แน่น ราวกับว่าจี้รูปพระอาทิตย์ให้ความอบอุ่นเล็กๆแก่เขา มันหนักหนาเกินไปสำหรับเด็ก12ขวบ ภาพไฟลุกไหม้ เสียงกรีดร้อง เสียงปืน และคราบเลือด 'หนี' เสียงที่ก้องอยู่ในหูตลอดเวลาและเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาจำได้
"ไม่!! ฮือออออ" เด็กชายสะอื้น มือเล็กๆ ปะป่ายบนใบหน้าเพื่อเช็ดน้ำตา แต่ยิ่งเช็ดมันก็ยิ่งไหลเขาจึงปล่อยไว้อย่านั้น สัมผัสอุ่นชื้นบนใบหน้าทำให้เด็กชายหันสนใจสิ่งมีชีวิตที่นั่งจ้องเขาตาแป๋ว 'น่ารัก' เขาเผลอยิ้มให้หมาน้อยตัวอ้วนกลม ขนยาวสีดำที่นั่งอยู่ตรงหน้า หูของมันกระดิกไปมา จ้องมองเขาอย่างสงสัย
"ตื่นแล้วหรอจ๊ะ" หญิงอ้วนท้วม วัยกลางคน หลังโค้งงอ พูดขณะที่ยกถาดอาหารเข้ามา "กินข้าวก่อนนะ จะได้กินยา" เธอยิ้มให้อย่างเป็นมิตร หากสังเกตดีๆเธอไว้เล็บยาว มีเขี้ยว และหูแหลมกว่าคนทั่วไป
"ไม่" เด็กชายมองอย่างหวาดระแวง
"แต่หนูป่วย ถ้าไม่กินจะไม่หายนะ" เธอวางชามข้าวต้มไว้ตรงหน้า
"ไม่กิน" ถึงปากจะบอกไปอย่างนั้นแต่กระเพาะก็ประท้วงเสียงดังลั่น เธอยิ้มให้น้อยๆ 'เขาไม่อยากแตะมัน'แม้จะคิดอย่างนั้น แต่มือตักข้าวต้มเข้าปากไปแล้ว
'อร่อย' น้ำตาที่พึ่งแห้งไปกลับมาไหลอีกครั้ง ไม่รู้นานเท่าไหร่ที่เขานั่งหนาวสั่น นานเท่าไหร่ที่ไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย นานเท่าไหร่ที่คิดอยากจะหายไปให้มันพ้นๆ หากไม่มีเธอเขาก็คงอยู่ที่เดิม แม้อยากจะเอ่ยคำว่าขอบคุณ แต่น้ำตาดันไหลไม่ยอมหยุด ลำคอแห้งผากเกินกว่าจะพูดอะไรออกไปได้ เธอดูเหมือนจะเข้าใจ เลยชวนคุย
"หนูชื่ออะไรจ๊ะ ฉันชื่อจัน เรียกป้าจันก็ได้" เด็กชายยังคงสะอื้นเธอได้แต่ถอนหายใจ น่าสงสาร เด็กตัวแค่นี้แต่ไม่รู้ไปเจออะไรมาบ้าง รอยกิ่งไม้ขีดข่วนตามร่างกาย ไหนจะข้อเท้านั่นอีก เธอรู้ว่าเด็กชายยังไม่ไว้ใจใครจึงหันหลังกลับไป "อย่าลืมกินยานะ เดี๋ยวตอนเย็นป้าจะมาดูแผลให้"
เขามองข้อเท้าที่ถูกพันไว้ด้วยผ้าสีขาวก่อนจะมองของเหลวสีเขียวเข้มในภาชนะเครื่องปั้นดินเผา ไอ้นี่เรียกว่ายาสินะ
"น้องแม็กซ์ไปได้แล้วลูก อย่าไปกวนพี่เขา" น้องแม็กซ์หมายถึงเจ้าตัวเล็กนี่สินะ เด็กชายกอด'เจ้าตัวเล็ก'ไว้แน่นเหมือนกลัวว่าจะไม่ได้เจอกันอีก เขากลัว เขาไม่อยากอยู่คนเดียว ไม่อยากโดดเดี่ยวอีกต่อไปแล้ว
"ไม่เป็นไรจ้า นอนพักนะจะได้หายไวๆ" เธอยิ้มให้อีกครั้งแล้วเดินออกไป
ในห้องเหลือแค่เด็กชายผู้บอบช้ำกับลูกหมาป่าเพียงลำพัง มือเล็กลูบไล้ขนสีดำสลวย "ฉันหน่ะ" เด็กชายพูดขณะที่เปลือกตาค่อยๆปิด "ฉัน อิจฉาแกนะเจ้าตัวเล็ก อิจฉาที่แกได้รับความอบอุ่นจากผู้หญิงคนนั้น แม่แกเป็นคนที่ใจดีที่สุดเท่าทีฉันเคยเจอเลยหล่ะ" เขาจะจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ความอบอุ่นที่เธอมอบให้ เหมือนเขาเคยได้รับมัน แม้จะเลือนลางแต่เขายังจำความรู้สึกนั้นได้ดี
หมาป่านั่งมองอีกคนที่หลับไปแล้วแต่ยังร้องไห้ไม่ยอมหยุด หยดน้ำที่ไหลออกมาจากตาคู่นั้นเหมือนมีดเล่มเล็กที่ค่อยๆกรีดลงในใจของเขา ยิ่งนานก็ยิ่งทรมาน หากปล่อยให้มันไหลเรื่อยๆเขาคงทนไม่ไหวแน่ๆ 'น้ำตาไม่เหมาะกับคนตรงหน้าเขา'
เขายังจำความรู้สึกวินาทีแรกที่เด็กชายหันมาและยิ้มให้ได้ดี สว่างสดใสและอบอุ่นเหมือนพระอาทิตย์ หมาป่าหลงรักรอยยิ้มของเด็กชาย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in