ฉันเริ่มชีวิตอย่างเฉื่อยช้า
เหมือนเข็มสั้น ๆ บนนาฬิกาเรือนนึง
เธอคือคน ๆ นึงชีวิตเธอรวดเร็ว
เปรียบไปเหมือนเข็มนาที
(จากเนื้อเพลง นาฬิกา ของ ปลานิลเต็มบ้าน)
ขณะที่ฉันกำลังนั่งมองออกไปนอกหน้าต่างอยู่นั้น
คนมากมายกำลังเดิน
คนมากมายกำลังวิ่ง
และ คนอีกมากมายกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่
ขณะที่ฉันกำลังนั่งฟังเพลงเดิมๆวนซ้ำๆซากๆ
อยู่นั้นคนมากมายกำลังเจรจาธุรกิจอย่างดุเดือด
คนมากมายกำลังเดินทางข้ามทวีป และ คนอีก
มากมายกำลังริเริ่มสิ่งใหม่ๆ
ฉันเพิ่งมาสังเกตว่าจริงๆแล้ว ไม่ได้เป็นเพราะว่า
ฉันขี้เกียจเสียทีเดียวหรอก ฉันถึงได้นั่งอยู่บน
เก้าอี้ตัวเดิมได้ทั้งวันแบบนี้ แต่เพราะว่าฉันเป็นคนที่มีวิถีชีวิตที่แสนจะเชื่องช้า เอื่อย เฉื่อย ราวกับว่าเป็นตัว สลอธ (Sloth) และเมื่อคิดไปคิดมาแล้ว ฉันก็พอใจกับการอยู่นิ่งๆ พอใจกับการทำอะไรซ้ำซากจำเจได้นานๆ นานจนน่าแปลกใจ ขณะที่คนที่ฉันรู้จักหลายคน เป็นคนที่รวดเร็วมาก - มากเสียจนฉันตามเขาไม่ทัน
ราวกับว่านาฬิกาชีวิตของเราปรับความเร็วไว้
ไม่เท่ากันทั้งๆที่วันเวลาของเราในความเป็น
จริงแล้วเท่ากัน
ฉันมาตกผลึกทางความคิดในเรื่องนี้เมื่อคราว
ได้ฟังเพลงนาฬิกานี่เองชีวิตของคนบางคนบน
โลกนี้ (รวมตัวฉันด้วย) เป็นชีวิตที่เชื่องช้าจนน่า
หงุดหงิดสำหรับคนที่ไม่เข้าใจแต่นี่มันก็ชีวิตของ
ฉันจริงๆ ฉันไม่รู้จะเร่งตัวเองเพื่อให้ทันคนอื่นไป
ทำไมขณะที่ชีวิตของคนบางคนบนโลกนี้ ก็ช่าง
เป็นชีวิตที่รวดเร็วจนน่าพิศวงสงสัยแต่นั่นก็เป็น
ชีวิตของเขา และเขาไม่จำเป็นที่จะต้องลด
ความเร็วของตัวเองลงมาแต่อย่างใด
เราแค่มีจังหวะชีวิตที่มันต่างกันเท่านั้นเอง
แม้แต่กับคนที่เกิดในวันเดียวกันกับเราก็ตาม เวลาเดียวกันกับเราก็ตาม เราเริ่มต้นชีวิตพร้อมกัน
แต่เราก็ใช้มันไปต่างกันอยู่ดี
แต่ที่ฉันเพิ่งเข้าใจอย่างตกผลึกไม่ได้มีแค่นี้เท่านั้น
ฉันเพิ่งเข้าใจด้วยว่า ชีวิตของฉันที่แสนเชื่องช้า
กับชีวิตที่แสนรวดเร็วของใครอีกคนหนึ่งนั้น
สามารถมาพบกันได้เสมอราวกับตัวฉันนั้นเป็นเข็มสั้น และเธอคนนั้นเป็นเข็มยาว
บนนาฬิกาเรือนเดียวกัน
แต่... เราต่างคนต่างเดินหน้าสวนกันไปมา เราไม่
ได้เกิดมาเพื่อจะเคียงข้างกันเลย - ไม่เลยสักนิด
ทว่า เราก็ต้องเดินสวนกันอยู่ร่ำไป ไม่อาจแยก
ขาดจากกันได้เด็ดขาดสักที
ฉันเดินอย่างเฉื่อยช้า เธอวิ่งอย่างรวดเร็ว
ฉันนั่งนิ่งๆอยู่ที่เดิม เธอแทบไม่ได้นั่งอยู่กับที่
ฉันมีวงจรชีวิตที่จำเจ เธอมีชีวิตที่ผกผัน
ตลอดเวลาแต่เราก็ต้องเจอกันทุกที
เพราะเราต่างอยู่บนนาฬิกาเรือนเดียวกัน
เราเกิดมาเพื่อจะพบ จะเจอกัน จะใช้เวลาร่วมกัน แล้วก็จากกัน
แล้วก็วนมาเจอกันใหม่ - เป็นเช่นนี้อยู่เสมอ
เหมือนเข็มสั้นและเข็มยาวที่ต้องวนมาพบกัน
ผ่านกันไป แล้วกลับมาพบกันอีก
ทั้งๆที่ฉันไม่ได้อยากอยู่บนนาฬิกาเรือนเดียว
กับเธอฉันอยากอยู่ในชีวิตของเธอด้วยต่างหาก
แต่ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะตั้งแต่แรกที่ถูกสร้างขึ้น
ฉันก็ถูกสร้างมาเป็นเข็มสั้น และเธอเป็นเข็มยาว
พระเจ้าทรงกำหนดไว้แล้ว
ห้วงเวลาชีวิตของเราอาจทับซ้อนกับใครหลายคน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เราจะได้ใช้ชีวิตร่วมกัน
และในท้ายที่สุดแห่งการตกผลึกของฉัน
ฉันคิดได้ว่า ฉันจะไม่เร่งตัวเองเพื่อให้ทันใคร
และไม่ให้ใครต้องลดความเร็วของตัวเองลง
เพื่อรอฉันเด็ดขาด
เพราะเราต่างมีอัตราความเร็วของชีวิตต่างกันไป จะเร่งหรือชะลอเพื่อใครไม่ได้ ถ้าแม้นพยายามฝืน ก็จะอึดอัดใจเปล่า เราควรจะรู้ตัวของเราเองว่าเรากำลังเดิน หรือ กำลังวิ่ง ถ้าเรากำลังเดิน เราก็ไม่
ควรต้องพยายามจะวิ่งถ้าเราต้องพยายามเพื่อจะฝให้ทันใคร หรือต้องพยายามเพื่อจะรอใคร
คนๆนั้นอาจไม่ใช่สำหรับเราก็เป็นได้คนที่ใช่ ย่อมจะเคลื่อนชีวิตไปในความเร็วที่พอเหมาะพอดีกับ
เรา พอดีอย่างที่ไม่ต้องฝืนมากเกินไป เพราะฉันแน่ใจว่ามี ที่เราต้องเร่งบ้าง หรือชะลอบ้าง แต่ไม่
ควรจะฝืนจนหมดแรง
แต่บางทีฉันก็แอบคิดอยู่ในใจ
อยากให้คนที่วิ่งเร็วคนนั้นหยุดพักเสียหน่อย
เผื่อว่าเวลาที่เราพบกันนั้น จะนานกว่าที่เคยเป็นมา
เวลาของเธอ เวลาของฉัน ไม่ใช่เวลาของเรา
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in