สวัสดีค่ะวันนี้เราจะมารีวิวเรื่องสั้นของนักเขียนชื่อดังอย่าง ฮารูกิ มุราคามิที่มีผลงานดังหลากหลายเรื่องอย่าง นอร์วีเจียนวูดและ ก่อนอื่นเลยขอสารภาพว่าก่อนจะอ่านเรื่องสั้นเรื่องนี้ก็ค่อนข้างที่จะมีอคติเล็กน้อยเนื่องจากว่าเคยได้อ่านนิยายของนักเขียนท่านนี้มาเรื่องหนึ่งแล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยเข้าถึงนิยายสไตล์นี้สักเท่าไหร่ จึงมีความกังวลเล็กน้อยแต่พอได้อ่านแล้วก็เปลี่ยนความคิดไปเลยค่ะ
เรื่องสั้นเรื่องนี้เริ่มเรื่องจากตัวละครเอกที่ชื่อคาตากิริเมื่อกลับมาถึงบ้านของตนเองก็พบว่ามีกบตัวยักษ์รอเขาอยู่ภายในห้องอีกทั้งยังสื่อสารกับเขาได้เหมือนคนทั่วไป ซึ่งวัตถุประสงค์ของการมาในครั้งก็เพราะว่าต้องการให้คุณคาตากิริมาช่วยกันหยุดยั้งเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่จากแต่ด้วยเพราะว่าเขาไม่มั่นใจในความสามารถของตนเองเลยทำให้ตัวเขารู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะที่จะทำภารกิจที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ จึงคอยปฏิเสธอยู่ตลอด แต่มิสเตอร์ฟรอกก็คอยให้กำลังใจเขา ชื่นชมในความสามารถของเขา จนในที่สุดคุณคาตากิริก็หันมาร่วมมือกับมิสเตอร์ฟรอก แต่สุดท้ายเหตุการณ์ก็ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ มีคนยิงคุณคาตากิริก่อนที่พวกเขาจะไปต่อสู้ร่วมกันเขาตื่นมาพบว่าตนอยู่ในโรงพยาบาลและไม่ได้ถูกยิง อีกทั้งยังไม่มีเหตุการณ์แผ่นดินไหวเกิดขึ้นอีกด้วย และในคืนนั้นเองมิสเตอร์ฟรอกได้กลับมาหาเขาอีกครั้งด้วยร่างที่สะบักสะบอมจากการต่อสู้กับไส้เดือนยักษ์ ผลคือเขาหยุดยั้งแผ่นดินไหวไว้ได้ แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตของตน มิสเตอร์ฟรอกซ์ได้จากไปในคืนนั้นเอง หลังจากเขาตายไปก็มีแมลงและไส้เดือนจำนวนมากผุดขึ้นมาจากพื้นห้อง จนกระทั่งนางพยาบาลเข้ามาในห้อง ทุกอย่างก็กลับมาเป็นสภาพดังเดิม
สิ่งแรกที่ชอบในเรื่องนี้คือกลิ่นค่ะ ด้วยความที่ว่าตัวเองก็ค่อนข้างคลุกคลีกับป็อปคัลเจอร์ของญี่ปุ่นมาประมาณนึง ส่วนตัวเลยคิดว่าเรื่องสั้นเรื่องนี้มีกลิ่นของโชเน็นมังงะอยู่ค่ะ ตรงจุดที่ว่าจะมีตัวละครตัวหนึ่งที่เข้าหามาหาตัวเอกที่จืดชืด ไม่เก่งจากนั้นก็จะคอยช่วยเหลือ คอยมองดูพัฒนาการของตัวเอก และสุดท้ายก็ร่วมมือกันทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่อย่างเช่น การกู้โลกหรือต่อสู้เพื่อพวกพ้องของตัวเองแล้วเรื่องราวต่าง ๆในเรื่องก็จะมีความแฟนตาซี โอเวอร์นิดหน่อย อารมณ์ตอนอ่านจะเหมือนกับได้ตัดขาดกับโลกความจริงอย่างสิ้นเชิง แต่ว่าในเรื่องนี้ก็มีทั้งจุดที่เหมือนและจุดที่แตกต่างเล็กน้อย จุดที่เหมือนก็คือเจ้ากบยักษ์เป็นตัวละครที่เข้าหาตัวเอกอย่างคุณคาตากิริแล้วชวนกันไปหยุดเหตุการณ์แผ่นดินไหวอีกทั้งเจ้ากบยักษ์ก็ยังคอยให้กำลังใจเขาอยู่เสมอ ส่วนจุดที่แตกต่างก็จะเป็นถึงในเรื่องจะมีความแฟนตาซีแต่ก็มีความเป็นจริงดำเนินเรื่องไปพร้อม ๆ กัน ที่เห็นได้ชัดเจนคือ ฉากโรงพยาบาลที่ฉายสลับกันไประหว่างโลกที่มีมิสเตอร์ฟรอกซ์อยู่และโลกที่ทุกคนมองไม่เห็นเขา ในฉากนี้เองที่ทำให้ผู้อ่านได้เริ่มฉุกคิดกันแล้วว่าจริง ๆแล้วมิสเตอร์ฟรอกมีตัวตนจริง ๆ หรือเป็นแค่สิ่งที่คุณคาตากิริจินตนาการขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการลึก ๆของตัวเอง ที่อยากให้คนอื่นยอมรับตัวตนของตนเองกันแน่
นอกจากนี้ เรื่องสั้นเรื่องนี้สำนวนค่อนข้างอ่านง่ายด้วยค่ะ เพราะปกติเราจะเป็นคนที่ต้องเปิดดิกชันนารีไปด้วยตอนอ่าน แล้วบางครั้งก็จะมีบ้างที่ไม่เข้าใจสถานการณ์ในเรื่องเพราะรู็สึกว่าเนื้อหามันหนักเกินไป สมองเลยประมวลไม่ทัน แต่กับเรื่องสั้นเรื่องนี้เรารู้สึกว่าเราสามารถอ่านได้แบบสบาย ๆเลยค่ะ
ส่วนตัวคิดว่าได้เห็นอะไรหลายๆอย่างจากเรื่องสั้นเรื่องนี้ค่ะ ทั้งส่วนของความเป็นจริงในชีวิตที่ไม่สวยงามเสมอไป อีกทั้งเรื่องยังได้สะท้อนให้เห็นความรู้สึกลึกๆข้างในของคนหลายๆคนค่ะบางทีสิ่งที่เราต้องการจากสังคมอาจจะไม่ได้เป็นชื่อเสียงหรือเงินทอง เพียงแค่มีคนยอมรับในความสามารถหรือตัวตนของเรา ถือว่าเป็นเรื่องสั้นอีกหนึ่งเรื่องที่อยากให้ทุก ๆคนได้อ่านจริง ๆค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in