‘Beauty and the Beast’ มันคือเรื่องราวความรักของมนุษย์สาวชนชั้นธรรมดา กับอสูรหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวที่เป็นเจ้าชายในปราสาทใหญ่ หนังที่เคยเป็นการ์ตูน แต่วันนี้กลายมาเป็นหนังคนแสดง ออกแบบมาให้มีความเป็น “ภาพยนตร์” และ “ละครเวที” มากขึ้น โดยเฉพาะฉากที่มีการร้องและเต้น มีการเชื่อมโยงเหตุการณ์และเชื่อมการกระทำของตัวละครให้เข้าใจได้มากขึ้นด้วย ซึ่งก็อาจทำให้บางช่วง (ในความเห็นส่วนตัวของมาดาม) มีจุดเนือยๆ บ้าง แต่ก็ไม่นับเป็นสาระสำคัญหรอกค่ะ เพราะก็ยังทำให้ใครหลายคนเคลิ้มได้อยู่ดีและที่สำคัญเพลงประกอบในตำนาน ไพเราะและตรึงใจยิ่งกว่าเคย และที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือเพลงประกอบ หลายคนที่เคยดูคงคุ้นหูกับเพลงประกอบของเรื่องนี้อยู่บ้าง เวอร์ชั่นนี้ก็แอนิเมชั่นเสียอีก โดยเฉพาะเสียงร้องของ “เอ็มม่า วัตสัน” ที่ร้องได้หวานซึ้งตรึงใจทีเดียวค่ะ "ความงามจากภายใน" สารสำคัญของเรื่องที่ทรงพลังไม่เคยเปลี่ยน ใครที่เคยชมเวอร์ชั่นแอนิเมชั่นแล้ว คงทราบกันดีว่า "สาร" สำคัญของเรื่องนี้คือ "ความงดงามจากภายใน" คนเราตัดสินคนอื่นด้วยสิ่งที่เห็นจากภายนอกไม่ได้ แต่ต้องวัดกันที่ "คุณค่าในจิตใจ" ตัวละครทั้งสองถูกตัดสินจากสังคมภายนอก ความรักคือสิ่งใด ใช่การครอบครองหรือไม่ หรือคือการปลดปล่อยให้อีกฝ่ายได้ทำอย่างที่ใจต้องการ ดูเหมือนหน้าตาจะเป็นประตูสู่การพบรักที่ง่ายที่สุดแล้ว แต่การรักคนโดยที่มองข้ามหน้าตาไปนั้นก็คือการที่ต้องรู้จักกันและกันอย่างแท้จริง เราคงไม่อาจจะตัดสินใครจากการมองเห็นและเดินผ่านได้หรอก ประเด็นหลักที่หนังเรื่องนี้ต้องการจะสื่อก็คือ “อย่าตัดสินคนจากภายนอก” เพราะแต่เดิมเจ้าชายเป็นคนที่มีนิสัยเย่อหยิ่ง เห็นแก่ตัว ดูถูกผู้ที่ต่ำต้อยกว่า ครั้นพอต้องคำสาปให้กลายเป็นอสูร…เขาก็ได้เรียนรู้ถึงความรู้สึกของการถูกตั้งแง่รังเกียจจากคนรอบข้าง แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีใครบางคน (และเครื่องเรือนอีกหลายชิ้น) ที่รักและหวังดีกับเขาโดยไม่สนรูปกายภายนอก ความเป็นอสูร มันไม่ได้อยู่ที่หน้าตา บางคนก็มีนิสัยใจคอเยี่ยงอสูร แม้จะหน้าตาค่อนข้างดีก็ตาม และบางครั้ง คนที่คิดไม่ได้จากสิ่งที่คนรอบข้างบอก จำเป็นต้องได้รับบทเรียนตรงเพื่อให้ใจปรับเปลี่ยนความคิดมีฉากหนึ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าหนังชวนฝันชวนเคลิบเคลิ้มสไตล์เจ้าหญิงดิสนีย์จะชักชวนให้อินจนน้ำตาซึมได้ …แต่มันก็เกิดขึ้นไปแล้ว อย่างไรก็ตามก็ยังเชื่อว่าหนังเรื่องนี้จะเหมาะกับคนที่ชื่นชอบเวอร์ชั่นการ์ตูนอยู่เป็นทุน ซึ่งก็น่าจะกลุ่มที่ชอบนิยายเจ้าหญิงฉบับดิสนีย์กันอยู่แล้ว ไม่ก็อาจจะแฟนคลับของเอมม่า วัตสัน ที่ตามมาดูโดยไม่ได้คาดหวังอะไรนัก แต่อาจจะได้ความเกินคาดกลับไป