ตอนม.6 มีประโยคจากหนังสือเจ้าชายน้อยที่ทำให้เราอ่านแล้วอยากเข้าเอกวรรณกรรมสำหรับเด็ก นั่นก็คือ
“ผู้ใหญ่ทุกคนเคยเป็นเด็กมาก่อน แต่น้อยคนที่จะจดจำช่วงเวลานั้นได้”
ตอนนั้นเราคิดว่าคงจะดีมากถ้าเราได้เขียนหนังสือที่ทำให้ใครหลายคนซึ่งอาจจะกำลังหลงทางหรือกำลังสับสนในการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้เข้าใจความหมายของการมีชีวิตอยู่ หนังสือเองก็สามารถช่วยปลอบประโลมความเสียใจที่เรากำลังเผชิญอยู่ได้ไม่มากก็น้อย คงจะดีถ้าเด็กทุกคนได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ตัวเองอยากจะเป็น เรียนในสิ่งที่อยากจะเรียน รักในสิ่งที่อยากจะรัก ใช้ชีวิตในแบบที่อยากจะมี
การเรียนเอกวรรณกรรมสำหรับเด็กทำให้เรารู้สึกเหมือนได้เติมเต็มช่วงเวลาที่เรารู้สึกเสียใจกับการโตเป็นผู้ใหญ่ทั้งเรื่องครอบครัว การเรียนและมิตรภาพ คำพูดของคุณครูทุก ๆ คนทำให้เรารู้สึกได้ปลดล็อกเรื่องที่เราเคยเจอมา ได้อ่านหนังสือดี ๆ ที่บางเล่มหาอ่านไม่ได้แล้ว ได้ดูหนังดี ๆ ที่ทำให้เราได้รู้อะไรที่เราไม่เคยรู้มาก่อน เราจึงเลือกฝึกงานเป็นครูผู้ช่วยเพราะคิดว่าในอนาคตเราอาจจะสามารถช่วยเหลือเด็กสักคนที่กำลังเจอปัญหาที่ไม่สามารถผ่านไปคนเดียวได้
แต่พอคิดถึงความทรงจำเกี่ยวกับครูตลอดเกือบ 20 ปีที่เป็นนักเรียนก็มีเรื่องทั้งดีและไม่ดี เชื่อว่าทุกคนก็คงเป็นเหมือนกัน เราชอบครูที่จำชื่อเราได้เพราะมีนักเรียนเยอะกว่าครู การที่ครูจะจำชื่อเด็กไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ถึงจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็รู้สึกดีใจทุกครั้งที่คิดถึง ส่วนครูที่ทำให้เรารู้สึกไม่ดีมันก็เป็นแผลในใจจริง ๆ ต่อให้ผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังจำความรู้สึกในตอนนั้นได้ดี เราจึงไม่อยากเป็นครูในแบบที่เราไม่ชอบ
และเพราะไม่รู้ว่าเราจะสามารถทำหน้าที่นี้ได้ดีไหม เราจึงอยากลองดู ถึงในอนาคตอาจจะมีเหตุการณ์ที่ทำให้เราเปลี่ยนความคิดหรืออยากทำอย่างอื่น แต่เราก็ไม่เสียใจที่ตัดสินใจเลือกฝึกงานครั้งนี้เลยจริง ๆ
หวังว่าในอีก 10 ปีหรือ 20 ปี เราก็ยังเป็นเราที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ในแบบที่ตัวเองอยากจะเป็น ถึงแม้ระหว่างทางจะมีเรื่องราวมากมายแต่ก็ขออย่าให้ลืมความรู้สึกในตอนนี้นะ
ขอให้สนุกกับงานที่ทำนะคะ ^^