⚠ SPOILER ALERT ⚠
"...ความจริงแล้ว 'นรก' ไม่ใช่หอพักนี่ หรือที่ออฟฟิศ แต่คือผู้คนที่อยู่รอบตัวฉัน"
จงอูได้ค้นพบความจริง ขณะที่ร่างเปื้อนเลือดของเขาถูกลากไปตามโถงทางเดินของหอพักเอเดน
...
ในเดือนพฤษภาคมนี้ มีหนังและซีรี่ส์จำนวนมากที่ถูกเพิ่มเขามาในแพล็ตฟอร์มสุดฮิตอย่าง Netflix
เพื่อเอาใจผู้ชมที่ต้องใช้เวลากักตัวอยู่บ้าน แต่ก็มีซีรี่ส์เรื่องหนึ่งที่ฉายแสงโดดเด่น จนขึ้นมาเป็นเทรนด์อันดับ 4 ของประเทศไทยในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ นั่นก็คือ 'Strangers From Hell' ซีรี่ส์ที่ถูกสร้างขึ้นจากการ์ตูนสุดหลอนแห่งบ้าน LINE - WebToon ในชื่อ 'นรกคือคนอื่น'
เรื่องราวของ จงอู หนุ่มต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานในกรุงโซลตามคำชวนของรุ่นพี่มหาวิทยาลัย เจ้าของบริษัทโฆษณาเล็ก ๆ พร้อมแบกความฝันการเป็นนักเขียนนิยายมาไว้เต็มกระเป๋า แต่ด้วยความที่จงอูมีเงินติดตัวมาไม่มาก เขาเลยต้องตัดสินใจเช่าห้องโทรม ๆ อยู่ที่ หอพักเอเดน พร้อมกับเพื่อนร่วมหอพักสุดแปลก โดยที่จงอูไม่รู้เลยว่า ที่แห่งนี้จะนำพาความสยดสยองที่สุดมาสู่ชีวิตของเขาและคนที่เขารัก
โดยเรื่องราวดังกล่าวถูกรังสรรค์ขึ้นจากแก่นความคิดทางปรัชญาที่มีชื่อเสียงอย่าง
"Hell is other people," ของ Jean-Paul Sarte นักปรัชญาชาวฝรั่งเศส ที่ปรากฏในบทละครชื่อ No Exit ปี 1943 ...ว่าด้วยการดำรงอยู่แบบ 'ร่วมกัน' ของมนุษย์ที่ทำให้เราต้องอยู่ภายใต้การตัดสินและสายตาของผู้อื่นอยู่เสมอ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นหล่อหลอมตัวเรา ความต้องการ หรือแม้แต่ความคิดของเรา แต่ก็น่าแปลกที่มนุษย์เต็มใจที่จะขังตัวเองอยู่ในขุมนรกนั้น
เช่นเดียวกันกับซีรีส์เรื่องนี้ ที่จะทำให้ผู้ชมเข้าใจวลีที่ว่า 'นรกคือคนอื่น' ผ่านชีวิตของตัวละครหลักอย่างจงอู ที่ต้องก้าวเข้ามาเผชิญความโหดร้ายของสังคมเมืองและสังคมการทำงาน ที่ที่ผู้คนแข่งขัน แย่งชิง ตัดสิน และพร้อมจะทำร้ายกันอย่างไม่ปราณี คำนินทาของเพื่อนร่วมงาน การดูถูก มิตรภาพจอมปลอมที่ผู้คนหยิบยื่นให้กัน เมื่อต้องมาอยู่ในที่แบบนี้ ต่อให้คนปกติ ก็สามารถกลายเป็นบ้าได้ แต่ถึงแม้จะไม่มีกรงมาครอบขังเขาไว้ จงอูก็กลับหนีไปไหนไม่ได้ ต้องทนอยู่เพื่อความฝัน เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น มิหนำซ้ำภาพของนรกนี้ยังถูกทำให้เห็นชัดขึ้นที่หอพักเอเดน ที่ที่ทุกความคับแค้นจากโลกภายนอก กลายมาเป็นการเข่นฆ่ากันจริง ๆ อย่างทรมาน ... ความจริง ที่ไหนกันแน่คือนรก? หรือสิ่งที่เราทุกคนต้องเผชิญในแต่ละวันมันโหดร้ายไม่ต่างอะไรกับสิ่งที่เกิดในหอพักเอเดน?
#ความเห็นส่วนตัว หลังจากได้ดูซีรี่ส์เรื่องนี้แบบ 2 วันจบ (ใช่ ต้องแบ่งดู ดูวันเดียวน่าจะหดหู่เกินไป)
ต้องบอกตามตรงว่าเรื่องราวดำเนินช้าไปหน่อย ถ้าไปดูจริง ๆ จะค้นพบว่าตัวเองสามารถเดาเหตุการณ์บางอย่างได้ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น แต่ก็ต้องทนเดินตามเรื่องไปแบบช้า ๆ รอให้ความจริง (ที่เราเดาได้) เผยมาทีละอย่าง อาจจะไม่ทันใจสำหรับคอซีรี่ส์แนวสยองขวัญ แต่แง่ของเนื้อหาเราถือว่าทำได้ดีมาก
ผู้ชมจะได้เห็นสภาพของสังคมและผู้คน (แย่ๆ) ที่สามารถเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันหรือสังคมในประเทศไทยได้ เช่น ระบบความอวุโส ที่ทำให้เราต้องคอยก้มหัว, ความไม่เท่าเทียมกันของชาย-หญิง ในที่ทำงาน และที่ขาดไม่ได้คือ การที่เราไม่สามารถตัดสินใครได้จากภายนอก เราไม่มีทางรู้ว่าใครที่ดีจริง หรือใครที่จ้องจะทำร้ายเรา เพราะเราต่างก็ซ่อนความจริงไว้ใต้แววตาที่เรียบเฉยเสมอ
สรุปได้ว่าเป็นซีรี่ส์ที่แนะนำเลยค่ะ บางฉากนี่ถึงกับเอามือทาบอก ทั้งเพราะว่ามันโหดมาก ๆ และบางครั้งมันก็จริงมาก ๆ กระแทกใจเด็กจบใหม่ที่กำลังเข้าสู่วัยทำงานสร้างเนื้อสร้างตัว
ถือว่าดูเพลินจนไม่อยากให้จบกันเลยทีเดียว
ยังไงก็ขอให้สนุกไปกับการร่วมค้นหาคำตอบที่อาจพาคุณไปสู่จุดดำมืดที่สุดในจิตใจได้ใน
Strangers From Hell ผ่านทาง Netflix และ Viu นะคะ :)
บัณฑิตคณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร (เอกการละคร)
ผู้คลั่งไคล้ในสื่อที่สะท้อนความเป็นมนุษย์ทุกชนิด <3
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in