08.10.2020
สอบในตารางตัวสุดท้ายเสร็จแล้ว วันนี้มีความรู้สึกอยากดูหนังจังเลย ว่าแต่มีหนังเรื่องอะไรที่ฉายบ้างนะ
Love you forever ย้อนรัก ให้ยัง มีเธอ
18.45
ตอนนี้เวลา18.15แล้ว ดูเรื่องนี้แล้วกัน....
**บอกไว้ก่อน นี่ไม่ใช่การรีวิวหนังเท่าไหร่หรอกนะ 55555555 เขียนไปเรื่อยตามประสาอ่ะแหละ
ชื่อหนังก็บอกอยู่แล้วว่ามันเป็นหนังโรแมนติก ซึ่งก็ตามแบบฉบับของหนังรักโรแมนติกทั้งหลายที่เราเคยดูมา มีการสร้างปมปัญหาเพื่อให้ตัวละครในเรื่องต้องฝ่าฝันเพื่อพิสูจน์ถึงความรักที่มีให้ต่อกัน
เราคิดว่าประเด็นของเรื่องการยอมตายหรือยอมทำทุกอย่างเพื่อคนที่เรารักเป็นแก่นหลักของรักโรแมนติกเลย หนังเรื่องนี้ก็เป็นเช่นนั้น
นอกจาก Love you forever จะเป็นหนังโรแมนติก ก็ยังแฝงความแฟนตาซีลงไปด้วย นั่นก็คือ การย้อนเวลา ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการดำเนินเรื่อง
พระเอก(หลินเก๋อ)กับนางเอก(ชิวเชี่ยน)รู้จักกันตั้งแต่เด็กๆ แต่มีเหตุให้ต้องจากกัน จนกระทั่งนางเอกย้ายกลับมาเรียนม.ปลายที่เดียวกับพระเอก ทำให้ทั้งคู่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง
แต่แล้ว......
ก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับชิวเชี่ยน ทำให้เธอเสียชีวิต แต่ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นจากนาฬิกาเรือนนั้นที่เธอซื้อเป็นของขวัญวันเกิดให้หลินเก๋อ หลินเก๋อได้ช่วยชีวิตเธอโดยบังเอิญ ชิวเชี่ยนสามารถกลับมาใช้ชีวิตในโลกได้ตามปกติ
แต่ในโลกนี้มันไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ
มันแลกมาด้วยการที่หลินเก๋ออายุมากขึ้น และกลายเป็นคนที่ไร้ตัวตนในชีวิตของพ่อ เพื่อน หรือแม้กระทั่งชิวเชี่ยนเอง
ใช่ ในความทรงจำของทุกคนไม่มีหลินเก๋ออยู่อีกต่อไป เหลือแค่เพียงหลินเก๋อคนเดียวที่แบกความทรงจำ และความรู้สึกทุกอย่างไปกับเขาด้วย....
ลองนึกภาพดูสิ มันเจ็บปวดมากแค่ไหนที่เราทำได้แค่มองคนอื่นๆที่เรารู้จักใช้ชีวิตตามปกติและเรากลับกลายเป็นคนแปลกหน้ากับคนที่เรารู้จัก ผู้ชายที่ชื่อหลินเก๋อถูกลบออกจากชีวิตของทุกคน...
สิ่งที่หลินเก๋อทำก็คือพยายามกลับเข้าไปในชีวิตของชิวเชี่ยนอีกครั้ง และเขาก็ทำได้ ทั้งคู่ได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง รักกันอีกครั้ง แต่แล้วชิวเชี่ยนก็หนีโชคชะตาของตัวเองไม่พ้น อุบัติเหตุเกิดขึ้นอีกรอบ...
อันที่จริงอายุขัยของชิวเชี่ยนถึงแค่18ปี แต่ที่เธอยังมีชีวิตอยู่ก็เพราะฝืนโชคชะตานั้นเอง ครั้งนี้ก็เดาไม่ยากว่าหลินเก๋อเลือกที่จะทำแบบเดิม เขาเลือกย้อนเวลากลับไปเพื่อช่วยชีวิตชิวเชี่ยน แม้ว่าตัวเขาเองจะต้องแก่ขึ้นอีกก็เถอะ
เขารักของเขาอ่ะแหละ รู้ทั้งรู้ว่าถ้าตัวเองทำแบบนี้ก็จะแก่ขึ้นเรื่อยๆ และนั่นอาจจะหมายถึงการที่เขาเร่งเวลาตายของตัวเองให้เร็วขึ้นด้วย แต่ก็ยอมทำเพราะไม่อยากให้คนที่ตัวเองรักต้องตาย
หนังเรื่องนี้มีหลายฉากที่ทำเราแอบน้ำตาซึม ความรักของทั้งสองมันคือความรักจริงๆอ่ะ มันเรียล มันไม่ใช่แค่ฉายให้เห็นช่วงเวลาที่มีความสุขร่วมกันแต่มันยังเล่าถึงความยากลำบากที่เกิดขึ้นและพร้อมที่จะจับมือผ่านมันไปด้วยกัน อย่างฉากที่ชิวเชี่ยนรู้ความจริงว่าจริงๆแล้วเธอไม่ได้ทุนแต่เป็นหลินเก๋อที่ทำงานหนักมากเพื่อจ่ายค่าเทอมให้เธอ ตอนแรกนึกว่าเธอโกรธเพราะเขาโกหกเธอว่าเธอได้ทุน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือชิวเชี่ยนบอกกับหลินเก๋อว่ามีอะไรให้พูดกันตรงๆไม่ใช่เก็บทุกอย่างไว้คนเดียว เธอพร้อมจะฝ่าฟันอุปสรรคไปกับเขา เธอจะช่วยทำงานพิเศษเพื่อไม่ให้เขาต้องเหนื่อยอยู่ฝ่ายเดียว
อีกฉากที่ประทับใจก็คงจะเป็นฉากที่หลินเก๋อกลับบ้านไปหาพ่อในฐานะของคนแปลกหน้า การคุยกับพ่อของตัวเองในฐานะคนแปลกหน้าทำให้หลินเก๋อได้เข้าใจพ่อมากขึ้นกว่าตอนที่ยังไม่ย้อนเวลา เพราะช่วงที่ัยังเป็นพ่อลูกกัน เขาและพ่อทะเลาะกันตลอด หลินเก๋อได้รู้ว่าตัวเองเข้าใจพ่อผิดไปหลายอย่าง
บางคนเราอาจอยู่ใกล้กันเกินไปจนเราพลาดอะไรบางอย่างไปอ่ะเนอะ การคุยกันในฐานะคนแปลกหน้าแบบนี้อาจจะทำให้เราได้รับรู้อะไรมากขึ้น แต่ในชีวิตจริงมันทำแบบนี้ไม่ได้ เราไม่สามารถย้อนเวลาให้กลับไปแล้วกลายเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่มีความทรงจำร่วมกันเลย มันทำให้เราฉุกคิดได้ว่ามันมีใครในชีวิตเราไหมนะที่เราเหมือนจะไม่เข้าใจการกระทำของเขา ไม่ใส่ใจความรู้สึกของเขามากพอว่าจริงๆแล้วเขารู้สึกยังไงหรือคิดอะไร
สิ่งที่เกิดขึ้นกับหลินเก๋อคือการที่เขาอยากทำหน้าที่ที่ลูกจะทำได้ อยากกอด ฯลฯ แต่เขาทำไม่ได้แล้ว มันไม่เหมือนการที่เราตายจากใครซักคนนึง เพราะการตายจากใครซักคนมันหมายความว่าเรากับเค้าคนนั้นเคยรู้จักกัน เราจากไปแค่ร่างกายเท่านั้นแต่เรื่องราวของเราจะยังอยู่ในความทรงจำของคนๆนั้น
แต่กรณีของหลินเก๋อ การย้อนเวลามันทำให้ในชีวิตของพ่อไม่เคยมีหลินเก๋ออยู่เลย พ่อกลายเป็นเพียงช่างตัดผมที่ภรรยาเสียชีวิตไปแล้วและไม่มีลูกด้วยกัน ในขณะที่หลินเก๋อเป็นฝ่ายรับรู้อยู่เพียงคนเดียวว่าผู้ชายคนนี้คือพ่อของเขาเอง
เรามีประโยคนึงในหนังที่ชอบมากเลย คือ ‘’If a fate can give us another chance”
ถ้าหากกงล้อแห่งโชคชะตาให้โอกาสเรากลับไปแก้ไขเรื่องราวในอดีต เราอยากจะกลับไปแก้ไขอะไร?
ในหนัง หลินเก๋อใช้โอกาสนั้นเพื่อรักษาชีวิตของคนที่เขารักให้ยังอยู่บนโลกนี้ได้ต่อไป
แต่ในชีวิตจริง..... เราทำได้แค่คิด มันไม่มีนาฬิกาที่พาเราย้อนเวลาได้แบบนั้น เวลามันเดินของมันไปเรื่อยๆ ไม่เคยหยุดรอเรา
“ถ้าย้อนเวลากลับไปได้นะ ฉันจะ.....”
ประโยคClicheที่หลายคนชอบพูด รวมทั้งตัวเราด้วย แต่เรารู้สึกว่าการพูดแบบนี้มันเป็นการปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับอดีต ไม่ยอมก้าวข้ามมันเสียที อันที่จริงเราก็รู้อ่ะแหละว่ามันไม่มีปาฏิหาริย์ที่จะให้เราย้อนเวลากลับไปได้ และอดีตก็แก้ไขไม่ได้แล้วด้วย
บางทีเราเสียใจในสิ่งที่เราควรทำแต่ไม่ได้ทำ บางทีเราเสียใจในสิ่งที่ได้ทำลงไปแล้วแต่มันยังไม่ดีพอ บางทีเราเสียใจที่เราเลือกคบกับคนๆนี้ บางทีเราเสียใจที่เรารักษาความสัมพันธ์นี้ไว้ไม่ได้
เราเสียใจกับหลายๆสิ่่งเยอะแยะไปหมด.....
ถ้ากงล้อแห่งโชคชะตาไม่ให้โอกาสเราได้กลับไปแก้ไข เราก็ให้โอกาสตัวเองเลยดีไหมนะ ไม่ต้องรอโชคชะตา โอกาสที่เราว่ามันคือการให้โอกาสตัวเองได้เดินหน้าใช้ชีวิตต่อไป
ทางที่เราเคยเลือก คนที่เราเคยเลือก มันดีที่สุดสำหรับเรา ณ เวลานั้นแล้วแหละ อย่าคิดมาก
ลองนึกถึงเรื่องราวของหลินเก๋อและชิวเชี่ยนดูสิ หากมองตามความเป็นจริงที่ไม่มีนาฬิกาย้อนเวลานั้น
ชิวเชี่ยนก็คงตายไปจริงๆตั้งแต่อายุ 18 ปี หนังเรื่องนี้มันทำให้เราเห็นถึงความสำคัญของเวลา
ไม่มีใครรู้หรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่มีการกลับไปแก้ไขอะไรทั้งสิ้น เพราะในชีวิตจริงไม่มีนาฬิกาย้อนเวลาแบบในหนัง
สิ่งที่เราทำได้ก็คงมีแค่.....
อยู่กับปัจจุบันแล้วทำมันให้ดีที่สุดก็พอ เราบอกไม่ได้หรอกว่าในอนาคตเราจะรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นไหม แต่ในอนาคตที่เมื่อไหร่เรารู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นก็ขอให้เรานึกไว้ว่าตอนนั้นฉันทำดีที่สุดแล้ว มันดีที่สุดสำหรับฉันในเวลานั้นแล้ว
อย่ามัวคว้าแต่อดีต เดี๋ยวจะไม่เหลือมือไว้คว้าปัจจุบันกับอนาคตนะ :)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in