จุดเริ่มต้นจากความเรียบง่าย

เรื่องราวที่พึ่งผ่านพ้นไป . . .

มันกำลังเข้ามาทุกทีกับเจ้าความเครียด ความทุกข์ ความเบื่อ เราไม่เคยหนีมันได้เลยสักวัน ด้วยเรื่องราวแย่ๆที่เจอมาตลอดตั้งแต่เด็กยันเติบโตถึงปัจจุบัน เราก็แอบคิดนะว่าทำไมชีวิตเรามันแย่ได้ขนาดนี้ พอจะดีขึ้นก็ดีได้แปปเดียว มีแต่ความเครียดที่ต้องเจอแทบทั้งชีวิต น่าเบื่อดีนะ จนวันนึงเคยคิดอยากฆ่าตัวตายเพื่อตัดปัญหาทุกอย่าง เราได้แต่คิดนะแต่ไม่เคยลองทำสักครั้ง แต่แล้ววันนึงความคิดนั้นได้ดับลงไป และเราก็เริ่มมองถึงคนในครอบครัว คนรอบข้างที่คอยอยู่ให้กำลังใจเรามาตลอด พวกเขาจะเสียใจแค่ไหนถ้าเราทำแบบนั้นไปจริงๆ อยู่ๆวันนึงลองเปลี่ยนมุมมองความทุกข์ให้เป็นความสุข มองถึงความเรียบง่าย มองเห็นสิ่งรอบๆมากขึ้นนั้นก็คือ ธ ร ร ม ช า ติ 

รู้ไหม ? 

ว่า . . .

ธรรมชาติอาจจะเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้ามมันไป แต่รู้ไหมว่าธรรมชาตินี่แหละเป็น ​“ ศิลปะแห่งการเยียวยาในแบบยาที่เข้าไม่ถึง ” 

เราอยากมาเล่า มาแชร์ ให้กำลังใจกับทุกคนที่กำลังทุกข์น้า ^^

ส่วนตัวแล้วเราเป็นคนโลกส่วนตัวสูงมากพอสมควร จนบางครั้งการที่อยู่กับตัวเองมากเกินไปมันก็มีทั้งดีและไม่ดีนะ ที่ไม่ดีคือบางครั้งเราต้องพูดกับตัวเองอยู่บ่อยๆ ฟังแต่ความคิดตัวเองสุดท้ายคำตอบมันก็ได้แบบเดิม เราบอกกับตัวเองว่าจะเป็นแบบนี้ไม่ได้ละนะ เราต้องหาทางออกด้วยการพึ่งตัวเองในมุมมองแบบใหม่ และแล้วเราก็ได้เริ่มลองเข้าถึงธรรมะ แต่...มีเพื่อนเราหลายคนนะที่คิดว่าเราแปลก บ้าหรือเปล่าอยู่ๆฟังธรรมะ ฮ่าๆ เราก็ไม่สนเพราะมันเป็นทางออกและความสบายใจในแบบของเรา อ่ะ! เราก็ฟังไปเรื่อยๆก็ได้ข้อคิดและมุมมองใหม่ๆแบบเรียบง่าย โดยที่เราปล่อยวางความทุกข์ได้แบบสบาย เราลองมองความทุกข์ในแบบที่มันให้ผลดีกับเรา ทุกวันนี้จิตใจเรานิ่ง สงบ เข้มแข็งมากขึ้นเยอะ ถามว่าทุกวันนี้ยังเจอเรื่องแย่ๆไหม? เจอตลอดแหละยังไงก้หนีไม่พ้นหรอก แค่เรารู้จักเข้าใจธรรมชาติที่มันจะต้องเกิดและดับไปเอง จนเราสามารถมองเรื่องแย่ๆให้กลายเป็นดีได้ ถ้าเราคิดให้มันดีใจเรามันก็ดีตามไปเอง นั่นเป็นเพราะใจเราปรุงแต่งขึ้น เปรียบง่ายๆเหมือนกับเรากำลังปรุงรสชาติอาหารในแบบรสชาติที่เราชอบ ชีวิตคนเราก็เช่นกัน เราสามารถเลือกปรุงความทุกข์หรือความสุขได้ ความเครียดหรือความทุกข์มันไม่ได้บังคับเราเลยนะ มีแต่ใจเราแหละที่บังคับตัวเองให้เป็น รวมไปถึงการรู้จักดูแลตัวเองนั่นก็เป็นธรรมชาติที่ทุกคนมีอยู่แล้ว ต้องรู้จักดูแลตัวเอง ถ้าเราดูแลตัวเองดี ยิ้มรับทุกสถานการณ์ได้ คนรอบข้างเราก็มีความสุขไปกับเราด้วย ไม่มีใครหรอกที่จะทุกข์หรือสุขได้เสมอไป เพื่อให้เกิดความสมดุลเราควรให้โอกาสกับเจ้าร่างกายและเจ้าใจได้เยียวยาตัวเองบ้าง เราเชื่อว่าทุกคนสามารถเข้าถึงได้แค่ลองเปิดใจมองเห็นสิ่งรอบข้างให้เป็นแบบง่ายๆ อาจจะช่วยให้คิดอะไรได้มากขึ้น ลองหาอะไรทำใหม่ๆก็จะได้เจอมุมมองใหม่ๆ พยายามอย่าคิดว่าเราเคยสุขก็สุขแบบนี้ ทุกข์ก็ทุกข์แบบนี้ตลอด ทุกอย่างมันมาแบบรวดเร็วเดี๋ยวมันก็ไป เราไม่อยากให้ทุกคนที่กำลังเจอกับความทุกข์ต้องมีความคิดแบบเรา เพราะเราเข้าใจความรู้สึกนั้นเลยว่ามันแย่แค่ไหน สิ่งที่เราคิดในวันนั้นไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าคิดฆ่าตัวตายขึ้นมาจริงๆ เราคงเสียใจอ่ะที่ไม่ได้เลี้ยงดูครอบครัวและคนที่คอยอยู่ข้างๆเรามาตลอด แถมไม่ได้ทำให้สิ่งที่อยากทำอีก ต้องขอบคุณความทุกข์วันนั้นที่ทำให้เรามีโอกาสดีดีในวันนี้ได้ เราเองอยากช่วยคนหลายคนมากๆ เราเลยมองว่าชีวิตคนเราคนนึงมันมีคุณค่านะ ถ้ารู้จักแบ่งปันและทำให้ชีวิตอีกหลายคนเปลี่ยนความคิดให้มันงดงามได้ อาจจะทำให้เพื่อนมนุษย์ด้วยกันมองเห็นถึงคุณค่าตัวเองและได้ทำในสิ่งที่อยากทำจนสำเร็จ การเล่าครั้งนี้ขอแบ่งปันเผื่อสะท้อนความคิดของชีวิตใครหลายคนได้ สุดท้ายแล้วมันผ่านเข้ามาแล้วก็จะผ่านออกไปเอง ขอให้ธรรมชาติเป็นแรงผลักดันบวกกับใจที่สงบนิ่ง เพื่อพัฒนาชีวิตตัวเองให้ดีขึ้นและในยามที่เราต้องอยู่คนเดียว แค่ลองเข้าถึง "ธรรมะ ธรรมชาติ จนกลายเป็นความธรรมดา"

" ธรรมชาติจะมีคุณค่ามากขึ้นเมื่อมนุษย์ได้สัมผัสกับธรรมชาติ "

ชีวิตมันก็จะง่ายขึ้น