note: ต่อจาก We are all silly
.
.
.
คิมดงฮันกำลังรอคอยใครบางคนอยู่ที่ป้ายรถเมล์มาได้สักพักแล้ว อากาศที่เย็นลงตอนกลางคืนทำให้เขาต้องยกมือขึ้นถูไปมา ก่อนจะกระชับเสื้อโค้ทของตนเข้าอีกที ไม่นานนักคิมดงฮยอนที่เขารอคอยก็ปรากฏตัวขึ้น
“รอนานมั้ย ขอโทษทีนะ พอดีเพิ่งเคลียร์งานเสร็จเลย”
“ไม่เป็นไร” ดงฮันตอบยิ้มๆ เขาคลายผ้าพันคอสีกรมท่าของตนเองแล้วพันลงให้ความอบอุ่นกับอีกฝ่ายที่ดูหนาวไม่แพ้กัน
“ขอบคุณ” คิมดงฮยอนยิ้มให้เขาจนตาหยี รอยยิ้มที่แสนสว่างไสวดันแก้มทั้งสองข้างขึ้นอย่างน่ารัก เจ้าตัวสวมแว่นตาทรงกลมที่เป็นเอกลักษณ์ ผมเผ้าปล่อยลงสบายๆกับชุดทำงานสีเรียบๆแบบที่เจ้าตัวชอบสวมใส่ มันเป็นภาพชินตาของเขาตลอดการคบหากันในระยะแปดปี
คิมดงฮันวันนี้ไม่ใช่คิมดงฮันในวัยมัธยมปลายอีกแล้ว ตอนนี้คิมดงฮันเป็นพนักงานออฟฟิศคนหนึ่งในบริษัทที่มั่นคง แต่คิมดงฮันที่โตเป็นผู้ใหญ่คนนี้ให้ตายยังไงยังประหม่าอยู่ดี
แหงล่ะสิ นี่ไม่ใช่วันธรรมดานี่นะ
ในวันนี้ วันครบรอบปีที่แปด
คิมดงฮันจะขอคิมดงฮยอนแต่งงาน
การคบหาของพวกเขาเป็นไปอย่างเรียบง่าย ไม่หวือหวามาตั้งแต่มัธยมปลายแล้ว ในตอนนั้นคนรอบตัวของดงฮันก็ต้องประหลาดใจเมื่อคิมดงฮันกับคิมดงฮยอนที่ดูเหมือนเป็นเพื่อนคนละกลุ่มกันจู่ๆก็ตัวติดกันอย่างกับปลาท่องโก๋ เมื่อเข้ามหาวิทยาลัย แม้จะเป็นคนละที่ แต่ทั้งคู่ก็ยังคอยหาเวลามาหากัน และประคับประคองความสัมพันธ์นั้นมาจนถึงตอนนี้ ตอนที่ดงฮันคิดว่าตัวเองมีหน้าที่การงานมั่นคงและอยากจะลงหลักปักฐานอยู่กับคนที่รักให้เป็นเรื่องเป็นราว จะได้ไม่ต้องเทียวไปมาระหว่างห้องพักของกันแบบที่ทำอยู่ตอนนี้
ทั้งคู่พากันขึ้นรถเมล์มาลงสถานีของห้องพักดงฮัน แวะซื้อของสดมาทำอาหารฉลองวันครบรอบ และจบท้ายที่การนอนค้างคืนของดงฮยอนแบบที่เป็นมาในหลายๆปี
“ดงฮยอนอา...” คิมดงฮันเอ่ยขึ้นในขณะที่ดงฮยอนตักอาหารคำสุดท้ายเข้าปากและเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย ในตอนจบมื้ออาหารเป็นเวลาที่ดีที่เขาคาดคิดเอาไว้
“หืม ว่าไง” คนตรงหน้าวางช้อนและตะเกียบลงก่อนจะมองตรงมาอย่างตั้งอกตั้งใจ
“นายเบื่อจะเทียวไปเทียวมาระหว่างห้องเรารึยัง”
“ฉันโอเคนะ ยังไงก็สำรองชุดนอนไว้ห้องนายอยู่แล้วนี่เนอะ”
ดงฮันสอดมือของตนเองเข้ากับกระเป๋าเสื้อโค้ท ควานหากล่องแหวนที่เตรียมเอาไว้และหยิบมันออกมาเปิดขึ้น ในตอนนั้นเองที่คนตรงหน้าเขาชะงักไป
“ดงฮยอนอา...เราก็คบกันมาแปดปีแล้วนะ…” ให้ตายสิ เสียงของเขาตอนนี้สั่นชะมัดยาด พนันได้เลยว่าถ้าพวกเพื่อนของเขามาได้ยินคงเก็บไปล้อหลายวันเลยล่ะ
“เดี๋ยวนะดงฮันนี่ อย่าบอกนะว่า...” ดงฮยอนยกมือขึ้นป้องปากตนเองอย่างตื่นตะลึง ดงฮันสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ก่อนจะพรั่งพรูสิ่งที่ตัวเองคิดออกมา
“ฉันคิดว่ามันน่าจะได้เวลาที่เราต้องอยู่ด้วยกันจริงจังซะที ฉันอยากให้เราเป็นครอบครัวเดียวกัน ใช้ชีวิตด้วยกัน...คิมดงฮยอน แต่งงานกันนะ”
เกิดความเงียบขึ้นชั่วครู่ เงียบจนเสียงหัวใจของดงฮันที่เต้นรัวดงขึ้นจนก้องไปทั่วหัว เหงื่อของเขาเริ่มซึมออกตามฝ่ามือเมื่อลุ้นกับปฏิกิริยาของคนตรงหน้า
ฝ่ามือเรียวที่ยกป้องปากค่อยๆลดลง ดงฮยอนล้วงมือเขาที่กระเป๋ากางเกงของตนเองแล้วหยิบกล่องสี่เหลี่ยมลักษณะเดียวกับสิ่งที่ดงฮันกำลังถืออยู่ออกมา ในตอนนั้นเองที่ทั้งคู่หลุดหัวเราะออกมาพร้อมกันเมื่อดงฮยอนเปิดกล่องออกเป็นแหวนแบบเดียวกับเขา
“ให้ตายสิดงฮันนี่...ฉันก็กะจะมาขอนายแต่งงานเหมือนกันเลยล่ะ”
อุส่าต์ทำตัวให้มีพิรุธน้อยที่สุดเพราะหวังจะเซอร์ไพรซ์
ใครจะคิดล่ะนะว่าจะใจตรงกันในวันนี้เลย
“พวกเรานี่มัน...งี่เง่าพอๆกันเลยแฮะ”
ดงฮยอนพูดกลั้วเสียงหัวเราะในตอนที่ดงฮันกำลังสวมแหวนให้หลังจากที่ทั้งคู่ช่วยกันเก็บกวาดโต๊ะและล้างจานให้เรียบร้อย ก่อนที่จะสวมแหวนกลับที่นิ้วนางข้างซ้ายของดงฮัน
“ไม่คิดว่านายจะต้องเป็นฝ่ายขอฉันแต่งงานเลย” ดงฮันบ่นพึมพำขณะมองดูแหวนบนมือของตนเอง
“ก็กลัวนายไม่ขอเลยชิงเตรียมแหวนไว้ก่อนน่ะ”
“กะจะขออยู่แล้วเหอะ”
“ขี้โม้”
ดงฮยอนเอ่ยแหย่มาเช่นนั้นพร้อมกับคล้องแขนทั้งสองข้างขึ้นโอบรอบคอของเขา แล้วทั้งคู่ก็ใกล้ชิดกันมากขึ้นเมื่อริมฝีปากแตะลงหากันก่อนที่จะค่อยๆกลายเป็นการจูบที่ลึกซึ้งขึ้น
จูบแรกของพวกเราเริ่มต้นได้งกๆเงิ่นๆกว่าเวลานี้อยู่มากโข ดงฮันยังจำได้ ตอนนั้นหลังลองแตะริมฝีปากกันเบาๆแล้วเด็กมัธยมปลายทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างก็ต้องลงไปนอนสงบนิ่งให้หัวใจเลิกเต้นแรง
ตอนนี้ดงฮันพูดได้อย่างมั่นใจเลยว่าเขาช่ำชองขึ้นมากแน่ๆ รับประกันด้วยการอุ้มอีกฝ่ายไปที่ห้องนอนอย่างรีบร้อนได้เลย แต่ถึงกระนั้นการใกล้ชิดกับดงฮยอนยังคงทำให้หัวใจเขาพองโตได้อยู่เสมอ ไม่ต้องถึงกับพรมจูบตามใบหน้าที่น่ารักอย่างที่ทำอยู่หรอก แค่เห็นหน้าของอีกฝ่ายเขาก็มีความสุขแล้ว
ดวงตาของดงฮยอนเหมือนบรรจุด้วยดาวทั้งจักรวาล แม้แต่ในความมืดที่มีเพียงแสงจันทร์ส่อง เขาก็ยังเห็นประกายตาของคนที่แสนจะรักใคร่
จะแปดปี เก้าปี หรือจะนานกว่านี้ คิมดงฮันมั่นใจกับตนเองแล้วอยากจะใช้เวลากับคิมดงฮยอนต่อไปเรื่อยๆจนแก่
ในวันที่รู้ว่าอีกฝ่ายเองก็คิดตรงกัน แม้จะไม่ตรงตามแผนที่วาดฝัน แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้เขามีความสุขจนแทบบินได้
คิมดงฮันคงจะงี่เง่าอย่างที่คิมดงฮยอนเคยบอกจริงๆนั่นแหละ
#มนต101
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in